อยากเลี้ยงสัตว์ในคอนโดทำยังไงดี?
แน่นอนว่า สมัยนี้ไม่ต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ แอบพาน้องหมา น้องแมวขึ้นไปเลี้ยงบนคอนโดกันแล้ว เพราะมีคอนโดมิเนียมที่เปิดขึ้นมาเอาใจคนรักสัตว์โดยเฉพาะมากมายหลายแบรนด์เลย แต่ก็ไม่ใช่ว่า เป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้แล้วจะสามารถปล่อยให้น้องๆ ออกมาเดินเพ่นพ่านได้ ทางคอนโดเขาก็ต้องมีข้อกำหนดเอาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเรื่องอะไรบ้าง ลองตามไปดูข้อกำหนด 11 อย่างที่คุณต้องปฏิบัติตามหากต้องการเลี้ยงสัตว์ไว้ในคอนโดมิเนียมกันดีกว่าครับ
1. ต้องนำสัตว์เลี้ยงมาลงทะเบียนกับทางคอนโด
ข้อแรกเลยคือ ควรนำสัตว์เลี้ยงมาลงทะเบียนประวัติกับนิติบุคคล และต่อทะเบียนทุกปีตามที่คอนโดในแต่ละที่กำหนด เพื่อให้ลูกบ้านท่านอื่นสบายใจ ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะแข็งแรงปลอดภัย ไร้โรคติดต่อ และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด
2. มีใบรับรองเรื่องสุขภาพ
การอยู่อาศัยในพื้นที่จำกัดและเป็นพื้นที่ส่วนรวมด้วยแล้ว สัตว์เลี้ยงควรที่จะมีใบตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน และต้องมีอายุไม่เกิด 30 วัน ก่อนวันที่ลงทะเบียนด้วย
3. ข้อกำหนดของประเภทสัตว์เลี้ยง
ส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษ สัตว์ปีก สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าสงวน และสัตว์อันตรายต่างๆ ทุกชนิด เช่น งู กิ้งก่า อีกัวน่า นก แมลงสายพันธุ์ต่างๆ ไว้ในคอนโดมิเนียมครับ แต่ถ้าเป็นสุนัขหรือแมวก็จะมีข้อกำหนดอื่นๆ ที่คุณจะต้องปฏิบัติตามในข้อต่อๆ ไป
4. ขนาดและน้ำหนัก (เมื่อโตเต็มที่)
ปกติแล้วจะมีการกำหนดขนาดและน้ำหนัก (เมื่อโตเต็มที่) ว่าไม่ควรเกินที่เท่าไหร่ เช่น กำหนดว่าไม่ให้เกิน 15 กิโลกรัม ก็อาจจะเลี้ยงได้แค่น้องแมว หรือน้องหมาไซส์เล็กเท่านั้น ส่วนสาเหตุเป็นเพราะน้องหมาไซส์ใหญ่อาจจะรู้สึกเครียดจากการอยู่ในพื้นที่จำกัดก็ได้ และพื้นที่ส่วนกลางก็อาจจะไม่เพียงพอให้น้องๆ ออกกำลังกายได้ด้วย
เช่น ห้องขนาด 50 ตารางเมตรสามารถเลี้ยงได้ 1 ตัว แต่ถ้าห้องขนาด 100 ตารางเมตรสามารถเลี้ยงได้ 2 ตัว เพื่อลดความวุ่นวาย และแออัด รวมถึงเสียงที่อาจขึ้นได้ในที่พักอาศัย
6. ต้องดูแลและฝึกสอน
เจ้าของควรทำการฝึกสอนสัตว์เลี้ยงให้ทำตามคำสั่งเบื้องต้นได้ ทั้งการรอ การขับถ่าย การสั่งให้หยุดเห่า รวมถึงเวลาพาออกมาเดินเล่นในพื้นที่ส่วนรวมก็ควรจะใช้สายจูงเสมอ เพื่อป้องกันการเพ่นพ่านหรือสัตว์เลี้ยงหลุดจากการดูแล
ควรเตรียมที่นอน, ส้วม, น้ำ และอาหารให้พร้อม หรือบางทีควรมีรถเข็น กระเป๋า สายจูงเตรียมไว้ด้วย เผื่อว่าจะพาน้องหมาเข้าออกโครงการ หรือไปใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับผู้อื่นจะได้พาไปได้สะดวก
8. พกอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้เสมอ
หากพาสัตว์เลี้ยงออกมาเดินเล่น เจ้าของจำเป็นต้องดูแลจัดเก็บอุจจาระและพ่นน้ำทำความสะอาดด้วยทุกครั้ง โดยควรมีถุงพลาสติกสำหรับเก็บอุจจาระ, กระดาษทิชชู หรือกระบอกฉีดน้ำสำหรับทำความสะอาดติดตัวไว้เสมอ เพื่อสุขอนามัย และไม่สร้างความสกปรกและกลิ่นรบกวนให้ผู้อื่น
9. พาสัตว์เลี้ยงเข้า-ออกได้เฉพาะโซนที่กำหนด
ถึงแม้จะเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีการกำหนดโซนที่ผู้เลี้ยงสามารถพาสัตว์เลี้ยงออกมาเดินเล่นได้ เช่น Pet Zone, Dog Toilet, สวนหย่อม แต่ถ้าเป็นพื้นที่สำหรับคนอย่างฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องสมุด อาจจะไม่สะดวกให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไป หรือในบางโครงการอาจจะมีการกำหนดให้ใช้ลิฟต์แยกส่วนกันด้วย ซึ่งก็ต้องปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ เพื่อความปลอดภัยด้วย
10. ห้ามสัตว์เลี้ยงสร้างความเดือดร้อน
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความรำคาญและบาดเจ็บต่อพนักงานและเจ้าของร่วมท่านอื่น หรือจะเป็นในกรณีที่เจ้าของไม่อยู่เป็นเวลานานก็ไม่ควรที่จะทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ลำพัง ควรที่จะนำสัตว์เลี้ยงไปไว้ยังสถานที่ในปกครองอื่นๆ เพื่อป้องกันการส่งเสียงรบกวนกับห้องชุดอื่นๆ ด้วย
หากเกิดการทำผิดก็ควรจะยอมรับบทลงโทษต่างๆ ตามที่กำหนดและศึกษาบทลงโทษที่ต้องเจอไว้ด้วย เช่น
- การค่าปรับอัตรารายวัน ในกรณีที่ละเว้นการลงทะเบียน การแอบเลี้ยงสัตว์ต้องห้ามและเป็นอันตรายทุกชนิด (จำนวนค่าปรับ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโครงการ)
- การเสียค่าปรับตามครั้ง ในกรณีที่สร้างความสกปรก ความเดือดร้อน เจ้าของจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย ค่าเยียวยาที่เกิดขึ้น (จำนวนค่าปรับ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโครงการหรือตามจริง)
ซึ่งกฎเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ดูกันนะครับว่า ส่วนใหญ่แล้วต่อให้เป็นคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ก็ยังมีข้อกำหนดและระเบียบปฏิบัติที่ต้องทำร่วมกัน แต่อ่านดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมครับที่จะทำตาม เพราะนี่ล้วนเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนเลี้ยงสัตว์ทุกคนสามารถปฏิบัติตามได้ง่ายๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การดูแลและจัดการสัตว์เลี้ยงเป็นไปอย่างมีระบบและไม่สร้างความรำคาญ รบกวน หรือสร้างความเสียหายให้กับผู้อยู่อาศัยท่านอื่นๆ และพื้นที่ส่วนกลางของทางคอนโดมิเนียมเองด้วย