ล่าสุด นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมทั้งปี จะไม่เติบโตมากนัก ซึ่งถึงแม้ว่าที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์บางส่วนจะไม่ได้โตอย่างหวือหวาเช่นเดียวกับตลาดคอนโดมิเนียม แต่ก็ยังคงมีสภาวะการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการปรับตัวลดลงมากเท่ากับคอนโดมิเนียมเช่นกัน ทำให้ทั้งปีสามารถคาดการณ์ได้ว่า จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5% ส่วนทางด้านคอนโดมิเนียมเนื่องจากมีสต็อกคงเหลือในตลาดจำนวนมาก ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นตัวเท่าที่ควร เลยทำให้ตลาดติดลบไม่น้อยกว่า 10% หรือมีอัตราการเติบโตลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10,000 ยูนิตด้วยกัน
ทั้งนี้ ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงหลักการเมืองเข้าสู่สภาวะที่ดีขึ้น ก็มีการขยายและเติบโตพร้อมทั้งมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่า 40-50% ทีเดียว แต่หลังจากนั้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้มีการปรับตัวลดลงอีกครั้ง เพราะส่วนหนึ่งมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ได้ฟื้นตัวมากเท่ากับที่หลาย ๆ ฝ่ายได้คาดการณ์เอาไว้ โดยตัวเลข GDP มีอัตราการเติบโตเพียง 1.7 – 1.8 % เท่านั้น ซึ่งจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 2% ด้วยกัน และเมื่อเหตุการณ์โดยรวมเป็นเช่นนี้ ประกอบกับการเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐไม่ได้มีมาก ทำให้ความเชื่อมั่นในผู้บริโภคจึงไม่ฟื้นตัวขึ้นตาม ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการก็เช่นเดียวกัน รวมถึงผู้ประกอบการบางส่วนที่มีการชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ ก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่ 4 มีการคาดการณ์ว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ 3 อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นฤดูขายที่อยู่อาศัย และในช่วงต้นปีตลาดชะลอตัว ทำให้ยอดขายจากหลายบริษัทไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงต้องออกโปรโมชั่นแรง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง