ด้วยความสวยงามของท้องทะเลของจังหวัดกระบี่จึงเป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ที่ต้องการจะไปสัมผัสความงามของท้องของน้ำทะเลใสหาดทรายสวยๆที่ขึ้นชื่อดังไปทั่วโลก นี่เองเป็นเหตุให้ กระบี่ มีการท่องเที่ยวที่ขยายตัวขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ นักลงทุนต่างๆ มาลงทุนด้านอสังหาฯมากยิ่งขึ้น โดยทำเลทองของจังหวัดกระบี่อยู่ที่ อ่าวนาง ซึ่งมีราคาอาคารพาณิชย์อยู่ที่ 20-30 ล้านบาท โดยในย่านของการค้าขาย อาคารพาณิชย์ กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้ง ใจกลางย่านธุรกิจและอำเภอรอบนอก โดยเฉพาะในอำเภอลำทับ อำเภอคลองเหนือ เกาะลันตา คลองท่อม อ่าวลึก เขาพนม ปลายพะเยา โดยผู้ลงทุนมีทั้งคนในพื้นที่เองและ ผู้ลงทุนจากนอกพื้นที่ ที่เข้ามาลงทุนเนื่องจากเล็งเห็นถึงความเติบโตของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากอาคารพาณิชย์ ที่ได้รับความต้องการจากตลาดเป็นจำนวนมากแล้ว ด้านที่พักอาศัย โรงแรมก็ถือว่ามีการลงทุนที่ไม่แพ้กัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันเข้ามาท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคม ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ถือเป็นช่วง ไฮ ซีซั่น ด้วยเหตุผลนี่เองทำให้ นักลงทุนต่างๆสนใจ ที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก
โดยจากผลสำรวจระบุว่าประชาชน,นักลงทุน มีความต้องการซื้ออาคารพาณิชย์และบ้านที่พักอาศัยในย่านเศรษฐกิจและท่องเที่ยว เพื่อจะใช้ในการประกอบกิจการต่างๆหรือ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย โดยราคาส่วนใหญ่ เฉลี่ยอยู่ที่ 4-7 ล้านบาท ในส่วนของราคาที่สูงกว่านั้น ก็จะถูกซื้อเพื่อนเป็นที่พักต่างอากาศ เป็นส่วนมาก ถึงแม้ว่า ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ผู้ค้า ผู้ประกอบการจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคา อสังหาฯต่างๆ แต่คาดว่าในอนาคต ในปี 2558 นี้จะต้องมีการปรับขึ้นราคาอย่างแน่นอน
จังหวัดกระบี่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงาม ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยงขึ้นชื่อหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น อ่าวนาง เกาะลันตา สระมรกตที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวต่างๆโดยเฉพาะ ชาวต่างชาติ จึงไม่แปลกที่เศรษฐกิจด้านธุรกิจอสังหาฯทั้งอาคารพาณิชย์ หรือที่อยู่อาศัย เติบโตอย่างรวดเร็ว
ที่มา : reic