และ เริ่มโอนประมาณต้นปีที่ผ่านมานั้น ในส่วนของ จ.ชลบุรี และ ระยอง มีการโอนกรรมสิทธิ์มากกว่าในจังหวัดอื่นๆ เพราะปัจจัยที่เอื้อต่อการเติบโตของอสังหาฯในภาคนี้ เพราะ ทั้งสองจังหวัดถือว่ามีศักยภาพที่น่าลงทุนได้ เพราะ ความสะดวกในด้านการคมนาคม เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง ความเจริญทางด้านสาธารณูปโภคที่พรั่งพร้อม ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล สถานศึกษาในระดับต่างๆ แหล่งช้อปปิ้ง จึงทำให้โครงการต่างๆ ที่ไปลงทุนสร้างสามารถขายได้หมด หรือ มียอดการโอนกรรมสิทธิ์มากกว่าจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันและมากกว่าที่อื่นๆ โดยไม่นับรวมในกรุงเทพ
นอกจากนี้กำลังซื้อในภูมิภาคตะวันออกนั้น ยังสามารถเติบโตได้มากกว่านี้ เพราะจากที่กล่าวมาว่ามีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง มีการสร้างโรงงานใหม่ๆ เกิดขึ้น มีการลงทุนธุรกิจมากขึ้น ทำให้มีเงินสะพัดในภูมิภาคนี้ อีกทั้งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทำให้การลงทุนของด้านอสังหาฯยังสามารถต่อยอดเติบโตได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์เฮ้าส์ โดยจะสังเกตได้ว่า เริ่มมีบริษัทอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์หลายรายเริ่มรุกพื้นที่ภาคตะวันออกมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นโครงการต่างๆ ที่เน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง การพักผ่อน การสร้างโครงการใกล้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรือ แม้แต่บริษัทอสังหาฯเล็กๆที่อยู่ในภูมิภาคนี้ก็เปิดโครงการขั้นมาหลายแห่ง เพื่อสนองความต้องการในความต้องการบ้านไว้พักผ่อน หรือ บ้านหลังที่สอง หรือ สนองความต้องการของผู้ที่ทำงานในนิคมต่างๆ ทั้งในจังหวัด ชลบุรี และ ระยอง เพื่อที่จะมีที่พักไม่ต้องเดินทางไปกลับและยังสามารถเป็นบ้านพักผ่อนของครอบครัวได้อีก และ ปัจจัยอีกอย่างคือ ราคาที่ไม่สูงเกินไป ทำให้หลายๆคนมีกำลังซื้อไม่ว่าจะเป็นเงินดาวน์ หรือ การผ่อนกับสถาบันการเงินต่างๆ
เหตุผลอีกประการคือ การแข่งขันของภาคอสังหาฯในกรุงเทพเริ่มแน่น มีโครงการผุดขึ้นราวดอกเห็ดทำให้ในกรุงเทพเริ่มมีการชะลอตัว ดังนั้นหลายๆบริษัทจึงมุ่งไปทางต่างจังหวัดในจังหวัดที่สำคัญๆต่างๆ ซึ่งจังหวัดทางภาคตะวันออกอย่าง ชลบุรี ระยอง กำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจและน่าลงทุน
<em>ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ pr@dotproperty.co.th</em>