นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตทแวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาด อสังหา ยังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นการปรับขยับของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ทำให้บริษัทต้องเน้นกลุ่มเรียลดีมานด์มากยิ่งขึ้น
“ตลาดคอนโดปีที่ผ่านมาเติบโตด้วยแรงซื้อจากลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่ผลักดันให้ยอดขายในตลาดโตได้ แต่ในปีนี้มีปัจจัยลบรุมเร้าทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาเน้นตลาดเรียลดีมานด์มากขึ้น จากเดิมที่พฤกษาเน้นตลาดนี้เป็นหลักอยู่แล้ว” นายปิยะ กล่าว
ทั้งนี้ รูปแบบการทำธุรกิจจะต้องมีการบริหารพอร์ตโครงการให้ไวขึ้นในการพัฒนาโครงการเนื่องจากกรอบธุรกิจช้าจะรับรู้รายได้ช้าตามไปด้วย ขณะเดียวกันจะต้องใช้การบริหารงานผ่านเอาต์ซอร์สมากขึ้นและขยับหารายได้จากธุรกิจให้เช่า
ปัจจุบันบริษัทยังได้นำฐานข้อมูลหรือ บิ๊กดาต้ามาใช้ในการเก็บข้อมูลลูกค้า อย่างเช่นการพัฒนาโครงการเดอะทรี ดินแดง มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท จำนวน 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท/ยูนิต สามารถขายผ่านช่องทางออนไลน์หมดภายในเวลา 10 นาที ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมากขึ้น
ขณะที่การเจรจากับธุรกิจนันแบงก์ในการหาแนวทางในการช่วยให้ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นมาช่วยเสริม เนื่องจากการขอสินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์อย่างเดียวจะถูกเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยคุมซึ่งปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
โปรเจคสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง รัฐเร่งปิดดีล ซี.พี. “ ไฮสปีด-มอเตอร์เวย์ ” มูลค่า 2.24 แสนล้าน
เพราะอะไร อสังหาปี 62 เสี่ยง เหลือขายพรึ่บ