DotProperty.co.th

ทำความรู้จัก อสังหาฯแนวดิ่ง กับ อสังหาฯแนวราบ คืออะไรแต่ต่างกันตรงไหน

สำหรับท่านไหนที่กำลังอยากจะเข้ามาในแวดวง อสังหา หรือก่อนตัดสินใจจะเริ่มลงทุนในธุรกิจอสังหาฯนั้น แน่นอนว่า ท่านอาจจะต้องรู้จักกับลักษณะของอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภทกันซะก่อนเพราะถ้าหากท่านมีความรู้ในเรื่องลักษณะโดยรวมของอสังหาฯแต่ละประเภทแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราได้ดียิ่งขึ้น โดยวันนี้เราอยากจะหาแนะนำความรู้เกี่ยวกัน

อสังหา แนวดิ่ง กับ อสังหาแนวราบ คืออะไรและแต่ละประเภทมีความแต่ต่างกันอย่างไร

อสังหาฯแนวราบ คือ

อสังหาฯแนวราบนั้นเรียกง่ายๆเลยคือ  บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์   ที่มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  1. บ้านเดี่ยว : บ้านยอดนิยม ตั้งอยู่เดี่ยวๆ เนื้อที่กว้างขวาง รั้วรอบขอบชิด ได้ความเป็นส่วนตัว ปลอดการรบกวนของชาวบ้าน ซึ่งความใหญ่และเล็กก็จะแตกต่างกันไปตามรสนิยมและฐานะของเจ้าของบ้าน สำหรับเนื้อที่ของบ้านเดี่ยวนั้น ตามกฎหมายได้กำหนดขนาดไว้ว่า ต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวา โดยที่ดินจะต้องมีหน้ากว้างติดถนนไม่ต่ำกว่า 10 เมตร และลึก 20 เมตร
  2. บ้านแฝด : บ้านที่สร้างขึ้นเป็นคู่ เป็น 2 หลัง แต่มีฝาบ้านติดกัน มีลักษณะคล้ายกับบ้านเดี่ยวแต่เนื้อที่น้อยกว่า ซึ่งการที่จะเป็นบ้านแฝดได้ ตามกฎหมายนั้นกำหนดไว้ว่าจะต้องมีขนาดที่ดินไม่ต่ำกว่า 35 ตารางวา และคู่หนึ่งต้องมีความกว้างของที่ดินไม่ต่ำกว่า 16 เมตร ซึ่งแบ่งเป็นข้างละ 8 เมตร
  3. ทาวน์เฮ้าส์ : เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บ้านแถว ตั้งอยู่ตามเมือง มีพื้นที่จอดรถและสวนหย่อมหน้าบ้าน และตามกฎหมายทาวน์เฮ้าส์จะต้องมีขนาดที่ดินไม่เกิน 16 ตารางวา และมีขนาดความกว้างไม่ต่ำกว่า 4 เมตร ลึก 16 เมตร
  4. อาคารพาณิชย์ : เรียกอีกอย่างว่าตึกแถว นิยมในชุมชนเมือง เพราะนอกจากจะใช้อยู่อาศัยได้แล้ว ยังใช้เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจได้อีกด้วย และเนื่องจากมีพื้นที่ไม่มาก จึงนิยมก่อสร้างหลายชั้น

 

อสังหาฯแนวดิ่ง คือ

อสังหาฯแนวดิ่งมีเรียกง่ายๆได้อก่พวก คอนโดมิเนียม โรงแรม อพาร์ตเม้นต์ ซึ่งแต่ละประเภท มีลักษณะดังต่อไปนี้

1.คอนโดมิเนียม : เรียกกันอีกอย่างว่าอาคารชุด มีหลายชั้น แต่ละชั้นประกอบด้วยห้องพักจำนวนมาก และภายใน 1 ห้อง ประกอบด้วย ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องน้ำ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมักจะตั้งอยู่ในทำเลดี สะดวกต่อการเดินทาง คอนโดมิเนียม มีทั้ง เพื่ออยู่อาศัย และคอนโดมิเนียมเพื่อสำนักงาน ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีการกำหนดข้อตกลงต่างๆ หรือค่าใช้จ่ายส่วนกลางเพื่อการดูแลทรัพย์สินส่วนกลางด้วย

  1. โรงแรม : ลักษณะคล้ายคอนโดมิเนียม แต่มีการแบ่งประเภทตามลักษณะต่างๆ ทั้งทำเล, หน้าที่(เพื่อการค้า,พักผ่อน,ประชุม,พักอาศัย,ท่องเที่ยว), แบ่งตามจำนวนห้องพัก, ราคาห้อง และระยะเวลาที่ลูกค้าเข้าพัก (ชั่วคราว, ประจำ)
  2. อพาร์ตเม้นต์ : ลักษณะคล้ายกับคอนโดมิเนียม หรือ ตึกแถว ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก สร้างหลายชั้นและประกอบด้วยห้องพักจำนวนมาก

เป็นยังไงกันบ้างคะ พอรู้ลักษณะของแต่ละประเภทแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถตัดสินใจกับการลงทุนเพื่ออยู่อาศัยหรือการลงทุนเพื่อการเช่าหรือขายได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก