DotProperty.co.th

อัปเดตสถานการณ์อสังหาฯ 2563

จากบทสรุปของ PropTomorrow ที่มองว่าเหล่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และเหล่ากูรูนักวิเคราะห์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ล้วนแล้วแต่มองไปในทิศทางที่สอดคล้องกันว่า ข่าวอสังหา 2563 ยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกมาจากมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยของทางภาครัฐจากช่วงปลายปี 2562 อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสองของปี 2563 ตลาดอสังหา ริมทรัพย์อาจกลับไปอยู่ในสภาพชะลอตัวอีกครั้ง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย และคงต้องรอลุ้นดูทิศทางการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมก่อน จึงจะสามารถมองภาพได้ชัดเจน

ข่าวอสังหาวันนี้ ชี้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว

จากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก สำนักและกูรูอสังหาฯ จากข่าวอสังหาวันนี้ล้วนต่างชี้แนะผู้ประกอบการว่าต้องปรับตัวเข้าหาผู้บริโภคและแหล่งทุนมากขึ้น สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ ต้องเลือกเปิดตัวโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ มองเห็นเรียลดีมานด์ชัดเจน รู้จักพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุปทานสะสมและเพื่อสร้างกระแสเงินสดให้ดีขึ้น อีกทั้งในด้านโครงการเก่าที่ยังเปิดการขาย ก็มีการเสนอโปรโมชั่น ส่วนลด ของแถม หรือสิทธิพิเศษมากมายให้กับลูกค้าใหม่ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการโอน ซึ่งนับเป็นทางรอดที่ผู้ประกอบการทำได้ในปี 2563  นี้

อาทิ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ประกาศแผนธุรกิจปี 2563 ภายใต้แนวคิด “Change the Plan Never the Goal” มาสู้กับตลาดอสังหาฯ ที่ไม่ค่อยสดใสนัก โดยมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียม โครงการไอดีโอ พหล-สะพานควาย เพียงแค่ 1 โครงการเท่านั้น และยังเป็นโครงการเดิมที่เอามาปรับราคาใหม่ 1.39 แสนต่อตารางเมตร

ทางด้าน แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ เอง ก็เร่งระบายสต็อกสินค้าเก่า ด้วยการจัดการเช่าสินทรัพย์ โดยนำคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วมาปล่อยเช่า รวมทั้งเร่งการขายและโอนโครงการเพื่อเป็นการระบายอุปทานสะสมที่มีอยู่ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท

จากข่าวอสังหาวันนี้ ต้องยึดหลักลูกค้าคือศูนย์กลาง

การที่ลูกค้าไม่มี Brand Royalty กลายเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องทำใจยอมรับให้ได้แล้วในเวลานี้ ดังนั้นจากข่าวอสังหาวันนี้ชี้ว่าผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องมองให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) ตั้งแต่การออกแบบ product ที่ต้องเข้าใจ Insight ของลูกค้า ว่ามีลักษระการใช้ชีวิต เป้าหมาย และมีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยอย่างไร จากนั้นคือการวางกลยุทธ์เพื่อสื่อสารกับลูกค้า การให้คำปรึกษา และการอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์

เช่นเดียวกับ แสนสิริ ดีเวลลอปเม้นท์ ก็มีการปรับตัวด้วยการปรับพอร์ต โดยเปิดโครงการใหม่ทั้งหมดเป็น segment ระดับกลาง-ล่าง โดยเน้นจับตลาด Mass market เพื่อให้แสนสิริกลายเป็นแบรนด์ที่จับต้องง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมอสังหาวันนี้ที่แม้อาจจะดูเป็นลบ แต่ยังมีปัจจัยบวกที่ได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ รวมถึงโอกาสใหม่ๆจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่ช่วยเปิดทำเลใหม่ เจาะกลุ่มตลาดลูกค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้าไปได้มากขึ้น โดยพิสูจน์ได้จากคความต้องการที่อยู่อาศัยจาหเรียลดีมานด์ที่มีอยู่ตลอดเวลา โดยในบางทำเลที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง สามารถทำยอดขายได้โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ โซนบางนา-ตราด บางพลี บางเสาธง บางบ่อ ที่สามารถทำยอดขายบ้านเดี่ยวสูงถึง 88% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยยอดขายบ้านเดี่ยวโดยรวมของกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ อสังหาวันนี้ยังได้รับแรงสนับสนุนจากภาครัฐ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถกู้สินเชื่อบ้านในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เนื่องจากมีแนวโน้มของการทรงตัวขังอัตราดอกเบี้ยต่ำสูง จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว การส่งออกยังไม่ดีพอ รวมถึงสถานการณ์โรคระบาด ทำให้เป็นโอกาสของการเร่งซื้อและเร่งโอน

นอกจากนั้นข่าวอสังหา 2563 บรรดาผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง ก็ได้แสดงความเห็นให้มีการปรับเพดานไปสู่ที่อยู่อาศัยจากเดิมเพดาน 3 ล้านบาท ไปสู่เพดานไม่เกิน 5 ล้านบาท รวมถึงมีการเสนอให้ผ่อนมาตรการ LTV จากที่เริ่มบังคับใช้กับบ้านหลังที่ 2 ด้วยการกำหนดเพดานกู้ไว้ 80% เป็นปรับใช้กับบ้านหลังที่ 3 แทน แต่อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้ยังคงต้องรอติดตามลุ้นกันต่อไป

อย่างไรก็ตามไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในสภาพแบบใด แต่หากลองพิจารณาดูสถานการณ์อย่างแท้จริงแล้ว จะเห็นว่าการที่ผู้ประกอบการก็ต่างงัดกลยุทธ์มาปรับตัวตามกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเร่งระบายอุปทานสะสมด้วยการนำมาปรับราคา อัดโปรโมชั่นกระตุ้นการโอน นับเป็นโอกาสที่ดีของลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัย และอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ Real demand ในการซื้อบ้านเลยก็ว่าได้

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิก