จากการที่อสังหาริมทรัพย์ในภาคอิสาน มีการเติบโตมากใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตอนนนี้เกิดสภาวะล้นตลาด กล่าวคือ มีโครงการเหลือค้างมามาย โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างขอนแก่น และ นครราชสีมา ที่มีโครงการเกิดขึ้นทั้ง คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ เพราะช่วงที่ผ่านมานั้นพื้นที่ในภาคอิสานมีการเข้ากว้านซื้อที่ดินจากนายทุนเป็นจำนวนมาก เพื่อทำโครงการในแบบต่างๆ เพราะข่าวพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง และ การเปิด AEC และความนิยมในการสร้างโครงการที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เขตอุทยานฯอย่างเขาใหญ่ ทำให้พื้นที่ในหลายๆจังหวัดของภาค อิสานมีราคาสูงขึ้นและมีโครงการมากขึ้น
จากการสำรวจ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ลงพื้นที่ทำการสำรวจพบว่า มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดขอนแก่น และ นครราชสีมา ค่อนข้างเยอะ รวมทั้งโครงการเหลือขายด้วย อาทิ ที่นครราชสีมา มีโครงการบ้านเดี่ยวเหลือขายมากถึง 50% และมีตัวเลขจากการสำรวจ มีที่อยู่อาศัยเปิดขายรวม 12,940 หน่วย แยกเป็น “บ้านจัดสรร” 78 โครงการ 9,400 หน่วย “ห้องชุด” 23 โครงการ 3,100 หน่วย และ “บ้านพักตากอากาศ” 10 โครงการ 440 หน่วย ส่วนที่จังหวัดขอนแก่นนั้นก็เช่นเดียวกัน จากการสำรวจนั้น ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยกำลังเปิดขายรวม 8,300 หน่วย แบ่งเป็น “บ้านจัดสรร” 34 โครงการ 4,000 หน่วย ในจำนวนนี้เหลือขาย 40% 1,600 หน่วย ซึ่งแบ่งออกเป็นบ้านเดี่ยว 86% อาคารพาณิชย์ 7% ทาวน์เฮาส์ 4% บ้านแฝด 3% และ “ห้องชุด” ซึ่งมีการลงทุนร้อนแรงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีจำนวน 20 โครงการ 4,300 หน่วย ปัจจุบันเหลือขายสะสม 1,700 หน่วย คิดเป็นมูลค่าขาย 3,600 ล้านบาท และ นี่แสดงให้เห็นว่าในภาคอิสานแม้จะมีการเติบโตแต่ด้วยเหตุที่มีผู้ประกอบการแห่งลงทุนและเปิดโครงการมากจนทำให้เกิดสภาวะขายไม่หมดนั้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเกิดอาการขาดทุน
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีการดำเนินงานใหญ่โต มีการลงทุนในแต่ละโครงการมีมูลค่าสูง แต่ เป็นเพราะโครงการใหญ่ๆที่ไปเปิดยังภาคอิสานนั้นบางโครงการมีราคาสูง หรือ บางโครงการราคาไม่แพงก็จริงแต่ลูกค้ายังไม่ให้ความสนใจ จะมีแค่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น เช่น กลุ่มเศรษฐีที่ต้องการวิลล่าพักผ่อน กลุ่มนักธุรกิจที่ต้องการที่พักในจังหวัดที่ต้องไปเปิดกิจการ กลุ่มนักศึกษากลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งสองกลุ่มหลังนั้นจะเน้นไปที่โครงการราคาถูก และ คอนโดมิเนียม อีกทั้งความนิยมของคนในพื้นที่นั้นๆมีน้อยและโครงการส่วนใหญ่กระจุกตัวกันอยู่แต่ในเมือง ซึ่งผู้คนในพื้นที่นั้นไม่ค่อยนิยมการเข้าใช้ชิวิตในตัวเมือง เพราะหากจะเข้าเมืองก็คือมาทำงานกันในกรุงเทพฯและมักจะซื้อที่ดินเปล่าในบริเวณใกล้เคียงกับบ้านเดิม หรือ ซื้อบ้านในกรุงเทพฯ มากกว่าที่จะซื้อบ้านในตัวเมืองของจังหวัดที่ตัวเองอาศัยอยู่นั่นเอง
- ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com