เคล็ด(ไม่)ลับ ฉบับ “กู้ซื้อบ้าน”


จากข่าวคราวและกระแสของการปฎิเสธสินเชื่อบ้านที่นับวันดูเหมือนว่าดูจะเลวร้ายลงนั้นส่งผลโดยตรงต่อการยื่นขอสินเชื่อเงินกู้เพื่อซื้อบ้านกับธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะผลพวงจากสภาวะเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่นับวันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้นะคะ เพราะทุกปัญหา ย่อมมีทางออกด้วยตัวของมันเอง แต่การที่จะรอเวลามาเยียวยา แก้ไขปัญหา ก็คิดว่าใช่เรื่อง วันนี้เราก็เลยมี “เคล็ด(ไม่)ลับ เพื่อคนอยากกู้บ้าน” มาฝากกันค่ะ

 

เอาน่า…ถ้าทำตามกฎ สถานะทางการเงินถูกระเบียบขนาดนี้แล้ว กู้ไม่ผ่านก็ให้มันรู้กันไป !!

 

มาเช็คๆกันก่อน ว่าคุณมีพร้อมหรือยัง…?

1. ไม่ติดเครดิตบูโร
2. มีเงินออมอย่างพอเหมาะพอควร (เนื่องจากโดยปกติธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้ที่ 70-90% และจะไม่ปล่อยกู้เต็มจำนวนของราคาซื้อขาย)
3. รายได้ สัมพันธ์กับ ราคาบ้าน และมีความสามารถในการผ่อนชำระ

Tips…

1. สมมุติว่าคุณรายได้น้อย ให้เลือกผ่อนชำระในระยะเวลาที่นานขึ้น เช่น 20-30 ปี เพื่อเฉลี่ยเงินงวดให้ลดลง
2. ธนาคารจะปล่อยกู้ประมาณ 15-30 เท่าของรายได้ และประเมินจากอาชีพที่ทำอยู่ด้วย
3. วงเงินที่ธนาคารอนุมัติต่อเดือนคือ 25-30% ของรายได้รวมของผู้กู้ ตัวอย่างเช่น รายได้ 20,000 บาท / เดือน ต้องผ่อนชำระที่ 5,000-6,000 บาท / เดือน

โดยปกติแล้ว ธนาคารจะใช้เวลาพิจารณาอนุมัติเงินกู้ประมาณ 10-20 วันทำการ ใช้เวลาประเมินราคาบ้านที่ดินที่จะนำมาเป็นหลักประกันประมาณ 2-5 วัน จากนั้นจึงจะเข้าสู่การพิจารณาคำขอโดยวิธีวิเคราะห์รายได้และหลักประกัน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ และแจ้งผลต่อไป ส่วนระยะเวลาในการกู้ทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 5-30 ปี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวงเงินกู้ และความสามารถในการผ่อนชำระของผู้กู้ สำหรับวงเงินที่ธนาคารจะให้กู้นั้นอยู่ที่ประมาณ 70-80% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย แต่หากทางสถาบันทางการเงินมีการตกลงกับโครงการบ้านต่างๆไว้ ก็อาจทำให้ธนาคารออกเงินกู้ให้ถึง 90-100% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะให้ระยะเวลากู้สูงสุด 15-30 ปี ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันด้วยค่ะ