DotProperty.co.th

เปิดเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมือง เชื่อมต่อ 10 สถานี แบรนด์ใหญ่ยึดทำเลทองที่ดินพุ่ง 30%

นับเป็นข่าวดีท่ามกลางวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อรัฐบาลมีแผนพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมืองกว่า 10 เส้นทาง เชื่อมโยงการเดินทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้เมืองขยายตัวและราคาที่ดินขยับสูง สะท้อนได้จากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC ที่ได้สำรวจที่ดินดิบในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาในปีนี้ โดยสำนักงานที่ดินเขตกรุงเทพมหานครพบว่าปรับขึ้นสูงสุดกว่า 30% โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ตลอดจนเส้นทางรถไฟฟ้าย่านชานเมืองในอนาคต อย่างเช่น สายสีชมพู ช่วงแครายมีนบุรีที่ปรับขึ้น 35.7% รองลงมาเป็นสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) 34.23% ที่จะเปิดเดินรถปลายปีนี้

รถไฟฟ้าชานเมืองสายใหม่ทำให้ราคาที่ดินพุ่ง

การดำเนินงานของ รฟม.ในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมานั้นมีการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 5 โครงการ ได้แก่

  1. สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ เปิดให้บริการตลอดเส้นทางอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2563
  2. สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการแล้ว 5 สถานี ช่วงสถานีหมอชิต-สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2562 คาดว่าจะเปิดให้บริการตลอดทั้งสายภายในปีงบประมาณ 2564
  3. สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) การก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 46.88% ซึ่งเร็วกว่าแผน คาดว่าจะเปิดบริการในเดือน มี.ค. 2567
  4. สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี การก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถแล้วเสร็จ 40.72% เร็วกว่าแผน คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ต.ค.2564
  5. สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง การก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถแล้วเสร็จ 40.34% เร็วกว่าแผน คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2564

ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา 1 โครงการ คือ สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณาแนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงตลอดสายทางในรูปแบบ PPP Net Cost  และศึกษาแนวทางการปรับเส้นทางโครงการเพื่อใช้ประกอบการปรับปรุงรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการฯ คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย.2569

สำหรับตัวอย่างของรถไฟฟ้าชานเมืองที่มาแล้วทำให้ราคาที่ดินพุ่งสูงที่เห็นได้ชัดนั้นคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายจากบางแคไปพุทธมณฑลสาย 4 และส่วนต่อขยายสายสีแดงวิ่งต่อจากตลิ่งชันไปศาลายา จังหวัดนครปฐม แม้ยังไม่มีการก่อสร้างแต่รัฐมีแผนลงทุนชัดเจน แต่กลุ่มดีเวลอปเปอร์ยังคงให้ความสนใจ และมี แนวโน้มที่จะพัฒนารูปแบบโครงการบ้านจัดสรรตามแนวรถไฟฟ้าชานเมือง เนื่องจากความนิยมที่อยู่อาศัยแนวราบย่านชานเมืองมีมากขึ้นและยังเป็นที่ต้องการ ประกอบกับฐานราคาที่ดินยังต่ำและสามารถขยับได้สูงเฉลี่ยเกือบ 30% เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าที่ให้บริการในเขตเมือง 

อย่างไรก็ตามราคาที่ดินทำเลใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าชานเมือง ถือเป็นโอกาสทองของคนซื้อบ้านและดีเวลอปเปอร์ เริ่มตั้งแต่ ย่านบางแคปลายทางส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมฑลสาย4) ราคาที่ดินขยับไปที่ 3 แสนบาทต่อตารางวา เนื่องจากเป็นปลายทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เปิดให้บริการ อีกทั้งมีห้างเดอะมอลล์ทำให้ราคาปรับตัวค่อนข้างสูง 

นอกจากนั้นระหว่างทางตามแนวเส้นทางใหม่ก่อนถึงพุทธมณฑล ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกมาก หากรถไฟฟ้าชานเมืองผ่านจะขยับขึ้นได้อีกเท่าตัวซึ่งประเมินได้ว่าทำเลนี้จะมีที่อยู่อาศัยขยายตัวตามมาอย่างมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมเพราะนอกจากจะใกล้เมือง ใกล้มหาวิทยาลัยที่ศาลายาแล้ว ยังมีห้างเซ็นทรัลยังเปิดดักนักช็อปก่อนเข้ากรุงเทพมหานครอีกด้วย

เดอะมอลล์จ่อปักหมุด สถานีมีนบุรี

ในโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ เองก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่คืบหน้าไปกว่า 71% แล้ว ประกอบกับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) ที่เอื้อต่อการพัฒนา ทำให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ผู้ประกอบการแห่ซื้อที่ดินมากขึ้น ซึ่งทำเลบริเวณสถานีมีนบุรีก็เป็นที่น่าจับตามจากกลุ่มเดอะมอลล์ที่ซื้อที่ดินเพื่อเตรียมพัฒนาศูนย์การค้าเป็นการวางแผนดักกำลังซื้อปลายทางเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางไปยังภาคตะวันออกที่จะเข้าเมืองด้วยการเชื่อมโยงรถไฟฟ้าสายสีส้มทะลุใจกลางเมืองย่านพระราม 9 ออกประตูน้ำไปยังฝั่งธนบุรีได้อย่างสะดวก นอกจากนั้นเจ้าถิ่นอย่างบริษัทพร็อพเพอร์ตี้เพอร์ เฟค จำกัด (มหาชน) เริ่มสะสมแลนด์แบงก์ทำเลรามคำแหงตอนปลายเพื่อรอพัฒนาบ้านแนวราบไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ อีกด้วย 

รามอินทราร้อนฉ่า คอนโดแห่ผุด

สำหรับถนนรามอินทรากิโลเมตรที่ 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าลำลูกกา ซึ่งจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านทำให้มีราคาที่ดินสูงถึง 3 – 4 แสนบาท ต่อตารางวานั้น ก็มีค่ายใหญ่อย่าง “พฤกษา” ซื้อเพื่อพัฒนาเตรียมขึ้น “พลัมคอนโดมิเนียม” ที่อยู่ใกล้กับเซ็นทรัลรามอินทรา และก่อนหน้านี้มีคอนโดมิเนียมแบรนด์ลุมพินี ของบริษัทแอล.พี.เอ็น ดีเวล็อปเม้นท์จำกัด (มหาชน) เกิดขึ้นมาอยู่ ซึ่งคาดว่าย่านสถานีรถไฟฟ้าลำลูกกานี้จะเติบโตอย่างรวดเร็วไม่แพ้โซนรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือที่มีโครงการแนวสูงเปิดขายเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน

สำหรับ บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) นั้นได้ซื้อที่ดินทำเลรามอินทราไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ในราคา 100,000 – 130,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งปัจจุบันทะลุไป 4 แสนบาทต่อตารางวาแล้ว 

3 บิ๊กอสังหาฯ ตุนที่ดิน พัฒนาโครงการแนวราบ

ฮอตฮิตไม่แพ้กันสำหรับทำเลคูคตปลายเส้นทางสายสีเขียวเหนือ ทำเลย่านสถานีรถไฟฟ้าลำลูกกาที่มีการเติบโตสูงและขยายตัวไปจนถึงเขตดอนเมืองหลังจากมีรถไฟฟ้าเชื่อมถึงส่งผลให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เป็นบ้านจัดสรรโดย 3 บริษัทพัฒนาอสังหาใหญ่อย่าง บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน), บริษัทศุภาลัยจำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่งจำกัด (มหาชน) ได้ยื่นขออนุญาตจัดสรรที่ดินเพื่อจะดำเนินการพัฒนาโครงการในแนวราบซึ่งกำลังรอการพิจารณาในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ดี นี่ถือได้ว่าเป็นช่วงนาทีทองของคนซื้อบ้านที่จะใช้ช่วงเวลานี้รวบรวมข้อมูลและศึกษาแผนการลงทุนของกลุ่มดีเวลอปเปอร์ในทำเลต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อในอนาคต ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าหากโครงการการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมืองนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่ก็จะนำมาซึ่งการเชื่อมโยงโอกาสการพัฒนาพื้นที่และพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนอย่างแท้จริง

ที่มาข้อมูล
https://www.thansettakij.com/content/property/458661
https://www.prachachat.net/property/news-463703