เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วย นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมแถลงข่าวเปิดมหกรรม บ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 ซึ่งกำหนดเปิดจองระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม ที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ สำนักงานขายที่มีโครงการตั้งอยู่ และศูนย์ขาย 12 แห่งทั่วประเทศ
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การเปิดจองโครงการ บ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 นับเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่สามารถผ่อนชำระได้
อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามเจตนารมณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้คัดสรรโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อให้ประชาชนได้จองจำนวน 148 โครงการ 20,817 หน่วย มีรูปแบบโครงการ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 4,865 หน่วยบ้านแฝด 1,462 หน่วย ทาวน์เฮ้าส์ 522 หน่วย ทาวน์โฮม 1,051 หน่วย อาคารพาณิชย์ 48 หน่วย และอาคารชุด 12,869 หน่วย
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า สำหรับรูปแบบโครงการดังกล่าว แบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย
1) โครงการบ้านสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 90 โครงการ 10,614 หน่วย ราคาขายอยู่ระหว่าง 242,000 – 2,600,000 บาท บนทำเลที่ตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น รามอินทรา (ซอยคู้บอน) ปัญญารามอินทรา ลาดกระบัง 2 และร่มเกล้า ส่วนทำเลที่ตั้งในพื้นที่ปริมณฑล เช่น จ.นนทบุรี (บางบัวทอง วัดกู้ ซอยกันตนา) จ.ปทุมธานี (รังสิต สี่แยกปทุมวิไล ลาดหลุมแก้ว) จ.นครปฐม (ท่าตำหนัก บ่อพลับ ศาลายา พุทธมณฑล) จ.สมุทรปราการ (บางนา ขจรวิทย์ แพรกษา) จ.สมุทรสาคร (บางกระเจ้า เศรษฐกิจ กระทุ่มแบน) และในพื้นที่ภูมิภาค เช่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี ระยอง นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุบลราชธานี แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ และภูเก็ต
2) โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 38 โครงการ จำนวน 4,600 หน่วย ราคาขายอยู่ระหว่าง 480,000 – 4,450,000 บาท บนทำเลที่ตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น ร่มเกล้า ลาดกระบัง หนองจอก บางขุนเทียน ส่วนทำเลที่ตั้งใน พื้นที่ปริมณฑล ได้แก่ จ.นนทบุรี (บางบัวทอง วัดกู้ ซอยกันตนา) จ.ปทุมธานี (ตลาดไท) จ.นครปฐม (สระสี่มุม) จ.สมุทรปราการ (บางบ่อ บางปู เทพารักษ์) จ.สมุทรสาคร (เศรษฐกิจ) และในพื้นที่ภูมิภาค เช่น พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ลำปาง พิษณุโลก เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร บุรีรัมย์ อุดรธานี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ตรัง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และกระบี่ และ
3) โครงการที่เปิดขายใหม่ จำนวน 20 โครงการ 5,603 หน่วย บนทำเลที่ตั้งในพื้นที่ปริมณฑล ได้แก่ จ.ปทุมธานี (รังสิต) และ จ.สมุทรปราการ (เทพารักษ์ บางปู) ส่วนทำเลที่ตั้งในพื้นที่ภูมิภาค เช่น สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี นครราชสีมา ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น, นครสวรรค์ สุราษฎร์ธานี ตรัง และภูเก็ต
พล.ต.อ. อดุลย์ กล่าวว่า สำหรับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองโครงการบ้านเคหะประชารัฐครั้งนี้ประกอบด้วย ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ทุกโครงการ ลูกค้าสามารถเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ เฉพาะโครงการที่เข้าร่วม 30 โครงการ โดยรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% หรือสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อเป็นการเช่าในลักษณะโครงการเช่าเพื่อซื้อ หรือ Rent to buy เฉพาะโครงการที่เข้าร่วม 24 โครงการ หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ย โครงการบ้านประชารัฐจากธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน เฉพาะโครงการที่มีราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยมีอัตราการผ่อนชำระเป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่กำหนด หรือจะเลือกรับอัตราดอกเบี้ยตามโครงการบ้านกตัญญูของธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน (ตามเงื่อนไขของธนาคาร) หากจองโครงการที่เปิดขายใหม่ จำนวน 20 โครงการ 5,603 หน่วย
ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้กันที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุไว้ร้อยละ 10 ของจำนวนหน่วยก่อสร้าง โดยอาคารแนวราบจะอยู่ใกล้สวนสาธารณะ ส่วนอาคารแนวสูงจะมีห้องพักอาศัยสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ บริเวณชั้น 1 พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งนี้ การจองโครงการต้องเตรียมเอกสารหลักฐาน ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หนังสือรับรองรายได้ หรือสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ตนเอง และเงินจองตั้งแต่ 1,000 บาท สำหรับคุณสมบัติของผู้จอง ประกอบด้วย มีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะแล้ว มีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน สำหรับการจองโครงการที่ราคาไม่เกิน 740,000 บาท และ ไม่จำกัดรายได้สำหรับการจองโครงการที่ราคาเกิน 740,000 บาทขึ้นไป
“เพื่อตอบสนองนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล กคช.ได้พัฒนานวัตกรรมระบบการให้บริการค้นหาบ้านว่างพร้อมขายและจองผ่านระบบจองบ้านออนไลน์ขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการขายและบริการข้อมูลให้กับประชาชนที่สนใจจะจองโครงการ ซึ่งสามารถจองได้ง่ายๆ ผ่าน http://house.nha.co.th บนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรือโทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่ง กคช. ได้นำโครงการที่เปิดจองในครั้งนี้ จำนวน 48 โครงการ 4,044 หน่วย มาออกขายในระบบจองบ้านออนไลน์ด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถนำใบจองหรือบาร์โค้ดไปชำระเงินที่สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ สำนักงานเคหะชุมชน และเคาน์เตอร์เซอร์วิส นอกจากการจองที่อยู่อาศัยในงานมหกรรมบ้านเคหะประชารัฐฯ แล้ว ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี จำกัด (มหาชน) ได้มาให้บริการสินเชื่อกับลูกค้าภายในงานด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก prachachat.net