จากผลสำรวจของ U.S.Census Bureau, International Data Base ระบุว่าในปี 2563 ประเทศไทยจะมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 1.5 ล้านคน โดยเฉพาะ “ผู้หญิงโสด” จะมีตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้นถึงประมาณ 5.6 ล้านคน
และข้อมูลจากสถาบันวิจัยเอเชีย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้สาวไทยอายุ 30-34 ปี ยังคงครองตัวเป็นโสด ซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสัดส่วนสาวโสดในประเทศอาเซียน ซึ่งจากจำนวนประชากรสาวโสดที่เพิ่มมากขึ้นดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น ก็พอจะทำให้ผู้ประกอบการหลายต่อหลายคนโฟกัสตลาดไปที่ประชากรกลุ่มผู้หญิงโดยเฉพาะสาวโสด ตัวคนเดียว ซึ่งมีอำนาจในการใช้จ่ายมากกว่านั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีการระบุอีกด้วยว่า 18% ของสาวๆ “เจน วาย” มุ่งมั่นกับตัวเองว่าจะเป็นโสด เหตุผลของการเป็นอยากเป็นโสดของคน”เจนวาย” ได้แก่ เรื่องมาตรฐานของหนุ่มๆกับการศึกษานั่นเอง เรียนสูงขึ้น ก็คิดเยอะขึ้น คิดเยอะขึ้น ก็เลือกมากขึ้น ด้วยความคิดที่ว่าอยู่ด้วยตัวเองได้ ก็เลยทำให้สนุกกับการใช้จ่าย และใช้ชีวิต
“บ้าน” เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ สาวโสดให้ความสำคัญ เนื่องมาจากปัจจัย 3 ประการ นั่นก็คือ
- อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง
- อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง
- อยากจะหาที่พักที่ใกล้กับที่ทำงานหรือครอบครัว
จากแนวโน้มของสาวโสดที่เริ่มมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เราคาดหวังว่า อยากจะเห็นบ้าน ที่สร้างขึ้นเพื่อสาวโสดในเมืองไทยกับเค้าสักครั้ง อาจจะเป็นบ้านหรือคอนโดที่สามารถแชร์พื้นที่เม้าท์มอย เพื่อให้คลายความเหงาของสาวโสด หรือ บ้านที่ให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยมากขึ้นเป็นพิเศษ
เมื่อถึงวันนั้น บ้านของ ”สาวโสด” อาจจะขายดีเป็นเทน้ำ เทท่าเลยก็เป็นได้ !!!