นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ จำกัด ในเครือบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ ได้ให้เปิดเผยแผนการตลาดในปีนี้ไว้ว่า จากสภาพการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากปัจจัยหลายๆด้านนั้น ทางบริษัทได้มีการประเมินผลในไตรมาสแรกออกมาว่า ไตรมาสแรกคอนโดฯ ลดวูบ 20-30% เหตุปัญหาการเมืองกระทบเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น ส่วนตลาดแนวราบโตสวนทาง 5% ขณะที่ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง 25-30% คาดไตรมาส 3 กำลังซื้อฟื้น คืนสู่สภาพปรกติ ซึ่งในส่วนของบริษัทเองก็ได้รับผลกระทบนี้ เช่นกัน แต่ในภาพรวมยังมองว่ายังโตได้แม้จะไม่มากเท่าที่ควร
และในภาพรวมนั้นมีการคาดไว้ว่า โดยจำนวนคอนโดมิเนียมที่จะเปิดในปีนี้ คาดว่าจะไม่เกิน 70,000 ยูนิต แต่โครงการแนวราบจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ยูนิต ส่งผลให้เติบโตขึ้นประมาณ 5% ซึ่งเกิดจากผู้ประกอบการหันมาทำโครงการแนวราบมากขึ้น เนื่องจากคอนโดมิเนียมรับรู้รายได้เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จใช้เวลา 2-3 ปี ในขณะที่โครงการแนวราบบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ จะรับรู้รายได้ในรอบปีทำให้ปลอดภัยกว่าในภาวะตลาดไม่แน่นอนซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเห็นตัวเลขการเปิดตัวโครงการที่มากขึ้นในไตรมาส 3 อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆเช่น ธนาคารต่างๆที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนั้นเข้มงวดขึ้น ปล่อยสินเชื่อน้อยลงโดยมียอดการไม่อนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากถึง 25-30% ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วถึง 10% โดยพิจารณาปล่อยสินเชื่อโดยอาศัยหลักเกณฑ์ที่ละเอียดขึ้น เพื่อลดปัญหาหนี้เสีย และ เป็นการกรองลูกค้าเพราะผู้ที่ขอสินเชื่อผ่านนั้นย่อมหมายถึงการมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี มีฐานรายได้สูง และ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกที่จะส่งเสริมให้ภาคอสังหายังพอโตได้และมีรายได้จาก อัตราเงินเฟ้อเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ยังทรงตัว ซึ่งคาดกันว่าอัตราเงินเฟ้อยู่ในช่วง 1.9-2.9% เทียบกับปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 2.2% 2.อัตราดอกเบี้ย MLR เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวลดลงจาก 7.00-7.38% ในไตรมาสก่อนหน้าลงมาอยู่ที่ 6.75-7.37% ต่อปี จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ราคาก่อสร้างที่ไม่สูงขึ้นจากเดิมทำให้ต้นทุนยังคงที่ และ มีการใช้นวัตกรรมใหม่ๆมากขึ้นทำให้ราคาก่อสร้างไม่สูงมากและบางแห่งมีการผลิตวัสดุป้อนโครงการของตนเองทำให้ต้นทุนต่ำลง การก่อสร้างที่ทำได้ไวขึ้น ลดค่าแรงคนงานต่อโครงการได้มากขึ้น ปิดการขายได้ไว ต่างส่งผลเป็นปัจจัยบวกทั้งสิ้น
ในส่วนของบริษัทเองนั้น วางแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้นั้น 11 โครงการมูลค่ากว่าพันล้าน ซึ่งยังคงนโยบายเดิม ซึ่งมีพื้นที่และทำเลที่เรียกได้ว่ามีศักยภาพแน่นอนเช่น ติวานนท์ บางนา ปิ่นเกล้า ลาดปลาเค้า รัตนาธิเบศร์ วัชรพล สุขสวัสดิ์ และรามคำแหง และเน้นแนวคิดที่จะพัฒนาโครงการในแบบสมบูรณ์กว่าในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ โดยยึดแนวคิด An Affordable Stylish Living 4 ประการ ได้แก่ 1.การผสานนวัตกรรมเข้าไปในทุกขั้นตอนการออกแบบบ้าน และฟังก์ชัน 2.เลือกทำเลที่ตั้งโครงการที่มีศักยภาพ 3.พัฒนาโดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย และ 4.ราคาสามารถแข่งขันในตลาดได้ และกำลังจะมีโครงการที่จะเปิดขายในเร็วๆนี้อีกด้วย
<em>ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]</em>