แต่ไหนแต่ไรมา เรามักจะคุ้นเคยกับประโยคที่ว่า ‘ไทยแลนด์แดนสไมล์’ หรือ ‘สยามเมืองยิ้ม’ กันจนแทบเป็นความเคยชิน ทั้งนี้ คงเพราะความยิ้มง่ายใจกว้าง ต้อนรับขับสู่แขกบ้านแขกเมือง และไม่มีอาการแบบ Xenophobia หวาดกลัวชาวต่างชาติอย่างเช่นภูมิภาคอื่นๆ เป็น (ก็ฟุดฟิดฟอไฟกันไป ยูฟังได้ไอเข้าใจ จะมีอะไรมากไปกว่านี้) เลยไม่ค่อยน่าแปลกใจ ที่ใครต่อใครที่ได้มาเมืองไทย ก็อดไม่ได้ที่จะต้องย้อนกลับมา ไม่ว่าจะเป็นในแง่ท่องเที่ยว การอยู่อาศัย การรักษาพยาบาล หรือธุรกิจ
Credits: thai-blogs.com
แต่ลองพาตัวเองออกจากความโฉบเฉี่ยวสุดวิไลของเมืองไทยแดนยิ้ม แล้วพินิจในแง่อสังหาริมทรัพย์แล้วนั้น มันมีปัจจัยที่หลากหลาย ที่ทำให้เมืองไทย เป็นที่หมายของนักลงทุนทั้งหน้าใหม่และมือฉมังเจนสนาม ด้วยปัจจัยที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ที่ทำให้ผู้ลงทุนต้องยิ้มได้สมกับคำขวัญประเทศกันเลยทีเดียว
Credits: propertiesinthailand.net
//ราคาน่าคบหา
เริ่มต้นหัวข้อนี้ เราอาจจะต้องมาดูผลสำรวจราคาอสังหาริมทรัพย์ที่จัดทำขึ้นโดย CBRE ครั้งล่าสุด ที่แม้ว่าฮ่องกงจะครองตำแหน่งราคาที่แพงที่ในโลก (แซงหน้าลอนดอนและนิวยอร์คไปเรียบร้อย) แต่สำหรับเมืองไทย ก็ยังคงตำแหน่งที่เก้า ของราคาอสังหาริมทรัพย์ต่อตารางเมตรที่ถูกที่สุดในโลก (โปรดดูตารางประกอบกัน)
ตารางผลการสำรวจราคาอสังหาริมทรัพย์สูงที่สุดและต่ำที่สุดจาก CBRE
อนึ่ง ราคาอสังหาฯ ที่ถูกกว่าประเทศรอบข้าง บวกรวมกับการมาถึงของสาธารณูปโภคที่เกิดขึ้นมาในช่วงทศวรรษที่ 80 ก่อให้เกิดความตื่นตัวและความสนใจในการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์จากชาวต่างชาติไม่น้อย
//ยุทธศาสตร์แห่งอาคเนย์
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทย เป็นที่หมายที่น่าจับตาของภูมิภาคอาคเนย์นั้น ก็คงหนีไม่พ้นภูมิศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับหลากหลายประเทศได้อย่างสะดวก อีกทั้งการเติบโตของย่าน CBD อย่างกรุงเทพมหานคร และการขยายตัวของเมืองที่กระจายออกไปทางหัวเมืองที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งส่งผลต่อความน่าจับจองอสังหาริมทรัพย์ในสายตาต่างชาติอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
Credits: thaitechno.net
//ภาครัฐให้การสนับสนุน
แม้ในปัจจุบัน เปอร์เซ็นต์การถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติจะอยู่ที่เฉลี่ย 5% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด (ถ้าเป็นคอนโดมิเนียม) แต่กระนั้น เงื่อนไขที่ค่อนข้างยืดหยุ่นต่อการถือครอง ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
Credits: siamrealestate.com
//ต่างชาติสนใจ คนไทยได้ประโยชน์
จะเห็นได้ว่า ทิศทางที่ต่างชาติให้ความสนใจต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองในแง่ของเราชาวไทยที่เริ่มสนใจในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะแบบไหนหรือประเภทใด น่าจะใช้ประกอบการพิจารณาในการลงเล่นในกลุ่มลูกค้าฐานต่างชาติ เพราะแม้ว่ามันจะยังเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ แบบ ‘จ่ายมาก็ให้ไป’ แต่ต่างฝ่ายก็ต่างได้ เราได้กำไร ต่างชาติได้ความสบายใจ ยิ้มได้ใต้ฟ้าสยามกันเลยทีเดียว
Credits: phuketgazette.net
