คุณเคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมบางคนถึงได้กลายเป็นนายหน้าอสังหาฯ สายตลาดลักซ์ชัวรี่ ที่ประสบความสำเร็จเหลือเกิน?
ถ้าคุณเองก็สงสัย วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
เวลาพูดถึงตลาดลักซ์ชัวรี่ หรือตลาดบ้านและคอนโดลักซ์ชัวรี่แต่ละที สิ่งที่ตามมาก็คือกลิ่นอายของ “การผูกขาด” ที่มักหลอกหลอนเหล่าเอเจ้นท์ทั้งหลาย ไหนจะความรู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่เคยขายลิสต์ติ้ง หรือแม้แต่ช่วยผู้ซื้อที่อยู่ใน tier สูงมาก่อน
ยังไม่หมดนะคะ เพราะยังไม่นับนานาคำถามที่น่าสงสัย อย่างเช่นว่า ถ้าต้องการเป็นนายหน้าตลาดลักซ์ชัวรี่ที่ประสบความสำเร็จ เราต้องมีคอนเนคชั่นมั้ย? หรือ ต้องเคยขายบ้านหลักสิบล้าน ร้อยล้านมาก่อนหรือเปล่า?
ข่าวดีก็คือการจะเป็นนายหน้าขายบ้านหรูให้ประสบความสำเร็จนั้นง่ายกว่าที่คุณคิดไว้ค่ะ งานนี้ขึ้นอยู่กับของที่คุณมี และ mindset ของคุณล้วนๆ การจะขายบ้านหรูคอนโดหรูนั้นถามว่าต้องมีคอนเนคชั่นหรือประสบการณ์การขายหรือไม่? แน่นอนว่าถ้ามีก็คงเป็นข้อได้เปรียบประมาณหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีเลย… ประตูแห่งความสำเร็จก็ยังคงเปิดรับคุณอยู่ค่ะ!
ไหนๆ ก็จะทุ่มสุดตัวแล้ว ก็ไปให้สุดเลยซะไม่ดีกว่าหรือคะ? เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งท้อแท้ใจไป มาดูทริคที่เรานำมาบอกต่อไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
1. เมื่อไหร่ที่รู้สึกไม่แน่ใจ ให้ลอง co-list ดู
กำแพงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการที่จะแทรกตัวเข้าไปในตลาดบ้านและคอนโดหรูนั่นก็คือการขาดประสบการณ์นั่นเองค่ะ ฟังดูแบบนี้ก็ยิ่งดูเหมือนขัดแย้งกันเองใช่มั้ยล่ะคะ ก็ใครๆ ต่างก็พูดว่าจะขายได้ต้องมีประสบการณ์ แล้วถ้าไม่มีประสบการณ์จะเข้าไปขายในตลาดนี้ได้ยังไงกันเล่า?
คำตอบก็คือการ co-listing นั่นเองค่ะ!
เวลาที่คุณ co-listing อสังหาริมทรัพย์ คุณไม่ได้แค่สร้างพอร์ทของตัวเองเท่านั้น แต่คุณยังจะได้เห็นวิธีการทำงานของมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูงในตลาดลักซ์ชัวรี่ ตั้งแต่ต้นจนจบด้วย ในอีกนัยน์หนึ่งก็คือนี่คือห้องเรียนที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณที่จะเรียนรู้การขายอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี่ แถมยังได้ค่าคอมมิชชั่นก้อนโตเป็นของติดไม้ติดมือมาด้วย
ข้อดีอีกอย่างของการ co-listing นอกจากได้เรียนรู้แบบคลุกวงในแล้ว ยังได้ขยายคอนเนคชั่นของเราในกลุ่มเอเจ้นท์มืออาชีพด้วย ไม่ต้องกลัวว่าเอเจ้นท์กลุ่มนี้จะสนใจการ co-listing นะคะ เพราะว่ากันง่ายๆ ก็คือว่าในท้ายที่สุดแล้วทั้งคุณและอีกฝ่ายต่างก็ได้ค่าคอมมิชชั่นด้วยกันทั้งคู่ เรียกว่าเป็น win-win situation ยังไงล่ะ
2. มองหาเมนเทอร์มาช่วยแนะนำ
ใช่ค่ะ ข้อนี้ก็คือส่วนหนึ่งของการ co-listing ด้วย แต่เมนเทอร์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นคนที่ทำงานกับคุณเสมอไปหรอกนะคะ จริงๆ แล้วเมนเทอร์อาจจะเป็นโค้ชด้านอสังหาริมทรัพย์ในตลาดลักซ์ชัวรี่ หรืออาจจะเป็นนายหน้าที่เกษียณตัวเองจากวงการแล้ว เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม การมีที่ปรึกษาก็จะช่วยให้คุณมีข้อได้เปรียบในแง่ของการเป็นหูเป็นตาให้กับธุรกิจของคุณ แถมยังจะเป็นคนที่ช่วยให้คุณไม่ต้องคอยพะวงกับเรื่องบางเรื่อง คุณสามารถโฟกัสกับสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญได้อย่างเต็มที่
การมีเครือข่ายมันก็เหมือนกับการสร้างมูลค่าให้กับคุณเองนั่นแหละค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังจะก้าวขึ้นเป็นนายหน้าที่ประสบความสำเร็จ
ปัญหาก็คือว่านายหน้ามือโปรส่วนใหญ่กลับไม่ได้มีระบบการ follow-up หรือการติดตามผลอย่างเป็นระบบนั่นเอง ในความเป็นจริงแล้วการจะเปลี่ยนจาก lead เป็นยอดเซลส์ได้ก็ต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งในตลาดอสังหาฯ ทั่วไป การรอคอยอาจจะไม่ทำให้เกิดรายได้ก้อนโตนัก ทำให้หลายคนปล่อยเลยตามเลยไป แต่สำหรับตลาดลักซ์ชัวรี่แล้ว การทะนุถนอมเฝ้าเลี้ยงเวลาไปสัก 2-3 ปีแต่ได้ผลลัพธ์เป็นหลักหลายล้านบาทก็น่าจะลงทุนไม่ใช่หรอคะ?
พอคิดได้แบบนี้แล้ว การติดต่อและติดตามลูกค้าอย่างเป็นประจำ ไม่ใช่แค่เพื่อธุรกิจเท่านั้น จึงค่อยฟังดูเข้าท่าขึ้นมาหน่อย เพราะฉะนั้นการ keep connection ตามตารางที่คุณวางแผนไว้ไม่ว่าจะเป็นอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลยล่ะค่ะ
4. ลงทุนกับตัวตนบนโลกออนไลน์ก็ช่วยได้
จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถสร้างคอนเทนท์ที่สามารถเข้าถึงคนที่เป็นกลุ่มลูกค้าของคุณ?
สมัยนี้เวลาทำคอนเทนท์ออนไลน์แล้วไม่ได้จ่ายค่าโฆษณาก็เรียกว่าเป็นการยากที่คนจะเห็นงานของเรา นั่นหมายความว่าหากคุณต้องการที่จะเป็นนายหน้าที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ก็ยิ่งต้องลงทุนกับตัวตนบนโลกออนไลน์ของเราให้มากกว่าเดิม
สิ่งที่สามารถช่วยให้ตัวตนบนโลกออนไลน์ของเราได้รับการมองเห็นมากขึ้นนอกจากการจ่ายเงินค่าโฆษณาก็คือการหา Graphic Designer, Web Developer และ Copy Writer ที่มีประสบการณ์มาช่วยสร้างเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือในงบที่คุณยังพอรับได้ค่ะ
ในโลกของอสังหาริมทรัพย์ เราต่างปฏิเสธไม่ได้ว่า เวลาคือเงิน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าอีเมล์อัตโนมัติ การตั้งโพสต์บน Social Media ไว้ล่วงหน้า การตั้งค่าการเข้าถึงอัตโนมัติด้วย VA (Virtual Assistance) หรือช่องทางการหา Lead ต่างๆ ก็ควรเตรียมไว้ให้พร้อมเสมอ นอกจากความสะดวกแล้ว เรียกได้ว่าส่วนนี้คือส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลากับงานหลังบ้าน สามารถโฟกัสงานหน้าบ้าน การหาคอนเนคชั่น หรือการออกนอกสถานที่ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
6. ตั้งเป้าหมายให้ ‘ไกลเกินเอื้อม’ ไว้ก่อน
สิ่งหนึ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนทำเหมือนกันคือความสามารถในการที่จะไม่ใช่แค่ตั้งเป้าหมายและไปให้ถึง แต่เป็นการ ‘ยกระดับ’ เป้าหมายอยู่เสมอ สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณตั้งเป้าเพียงเพื่อไปให้ถึงคือในท้ายที่สุดแล้วคุณจะรู้สึกเฉยชากับความสำเร็จนั้น
แต่ความสำเร็จที่แท้จริงคือการที่คุณสามารถบรรลุเป้าหมายที่คุณคิดไว้ไกลกว่าที่ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกต่างหากล่ะ
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสามารถทำตามเป้าหมายได้ ก็อย่าลืมที่จะตั้งเป้าหมายต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวเราเองหยุดอยู่กับที่จนสุดท้ายลืมที่จะท้าทายตัวเองยังไงล่ะ
7. อย่าหยุดที่จะเรียนรู้!
อย่าเพิ่งเบื่อกับคำว่า ‘เรียนรู้’ กันเลยค่ะ ในยุคที่การเรียนรู้สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย เราไม่ได้ต้องไปสมัครเรียนที่สถาบันต่างๆ อีกต่อไป การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา และที่สำคัญที่สุดคือ ยิ่งคุณเรียนรู้มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับตัวคุณในมุมมองของลูกค้ามากขึ้นเท่านั้น
นายหน้าอสังหาฯ ที่ประสบความสำเร็จในตลาดลักซ์ชัวรี่ ส่วนใหญ่คือกลุ่มคนที่ไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้ สิ่งที่กลุ่มคนเหล่านี้ทำคือการเข้างานอีเวนท์ การฝึกอบรม อ่านหนังสือเพิ่มเติม ฟัง Podcast และฝึกฝนทักษะความรู้อย่างสม่ำเสมอ