สวัสดีค่ะวันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งโดยวันนี้เราของนำเรื่องราวมาแชร์กัน สำหรับชาวต่างชาติที่เปรียบเทียบว่าประเทศไหนน่าอยู่กว่ากันระหว่าง ไทยกับมาเลย์ โดยเป็นเรื่องราวที่คุณ YoshiDa_Bangkok สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com ได้แปลและนำมาแชร์ให้เราได้อ่านกันเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
เห็นหลังมีการเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้าน อย่างมาเลย์อยู่บ่อยๆ คนไทยหลายคนอาจจะจะรู้สึกเป็นรองมาเลเซียในหลายๆเรื่อง หากมองจากมุมของคนไทย เราก็ได้มุมมองอีกแบบหนึ่ง ถ้าเรามองจากมุมมาเลย์เราก็ตะได้มุมมองอีกแบบหนึ่ง ที่นี่มาดูมุมมองของญี่ปุ่น ดีกว่าว่า เขามองไทยเปรียบกับมาเลย์ยังไง (กำลังหามุมมองของจีน และเกาหลีด้วยนะ)
เข้าเรื่องเลยดีกว่า คนแรกผู้หญิงคนหนึ่ง ทำงานที่มาเลย์และมีโอกาศได้มาทำงานที่ไทย จากที่แต่ก่อน คิดว่ามาเลย์ดีกว่าไทยหลายอย่าง เธอได้เปลี่ยนความคิดกลางคันจากการที่ได้มาเมืองไทยระยะหนึ่ง และมีแนวโน้มว่าตัวเธอเองในอนาคต จะย้ายมาอยู่เมืองไทยด้วย
ก่อนหน้านี้เคยเขียนว่าทำไมถึงชอบ กัวลาลัมเปอร์มากกว่า กทม. เหตุผลก็ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ ที่นี่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ บางทีก็มีโอกาสได้ปฎิสัมพันธ์กับคนที่ใช้คนพูดจีน คนพูดมาเลย์ เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชนชาติ มีอาหารจากหลากหลายชนชาติให้ได้เลือกรับประทาน กัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองใหญ่ แต่ค่าครองชีพก็ยังถูกหากเทียบกับ กทม. กัวลาลัมเปอร์คนญี่ปุ่นไม่เยอะจนเกินไป ที่นี้ไม่ค่อยเปิดแอร์จนหนาวเกินไป ยามกลางวันค่อนข้างยาวนาน ไม่ค่อยมีร้านอย่างว่าเยอะเท่าไหร่ ที่เขียนไว้ด้านบน เป็นความรู้สึกจริงๆ ของตอนนั้นค่ะ
เหตุผลที่เปลี่ยนใจกลางคันแล้วมาชอบกรุงเทพ สรุปเลยแล้วกันค่ะ สำหรับคนที่มาทำงานต่างประเทศ หรือ อาเซียน ครั้งแรก ควรเลือกกรุงเทพมากกว่ากัวลาลัมเปอร์อย่างมากค่ะ กัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองแบบที่บอกแหละ เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับคนที่ “ใช้ชิวิตต่างแดนแบบไฮโซ” กัวลาลัมเปอร์เป็นสังคมใช้รถส่วนตัวมากกว่าที่คิดไว้เยอะค่ะ มี Uber และ grabtaxi อาจจะช่วยได้อยู่หรอก แต่ไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ไม่ค่อยสะดวกเลย
ด้วยความที่ไปไหนมาไหนไม่สะดวกนี่แหละ อาจจะทำให้ฉันถอนตัวจากกัวลาลัมเปอร์ เมือเขียนถึงกัวลาลัมเปอร์ แนน่อนว่าไม่ใช่ทุกคนที่อาศัยใจกลาง กัวลาลัมเปอร์ อาจรวมไปถึงคนที่นอกเมืองด้วย แถวๆที่เราอยู่ เหมือนไม่มีรถเมล์วิ่งเลยค่ะ (ป้ายเขียนไว้ว่า) 30 นาทีมา 1 สาย แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขียนบอกเอาไว้หรอกค่ะ หรือยกเลิกการเดินรถตามใจชอบก็มีนะ (แบบไม่บอก) เคยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการรอขึ้นรถสักสายไปซื้อของด้วยค่ะ
Uber ก็คิดตามระยะทางยิ่งไกลยิ่งแพง ไม่มี Uber จะใช้Taxiก็แพงนะสำหรับค่าครองชีพที่นี่ แถมยังถูกโกงมิเตอร์อยู่บ่อยๆ อีก อื้ม แต่การโกงของมาเลย์จะแบ้วๆใสๆไปเลย ถ้าเอาไปเปรียบกับของเวียดนาม แล้วก็นะ เรืองปล้นจี้ ข่มขืนนี่ก็ได้ยินบ่อย ๆ แล้วแต่ว่าจะขึ้นลงไปไหน ถ้าแบบไปที่ที่ไม่น่าไว้วางใจไม่ขึ้นดีกว่า ยังมีอีกๆ ถ้าครอบครัวไหนมีเด็กน้อย รถจะจำเป็นมากๆ เพราะต้องใช้รับส่งลูกหลาน เพื่อเป็นการป้องกันการถูกลักพาตัวนั่นเองค่ะ เท่าที่ดูข่าวมาเห็นว่า ที่มาเลย์มีการลักพาตัวเด็กปีหนึ่งมากกว่า 200 คนเลยทีเดียว ที่นี้หันมาดูการพยายามเติมเต็มระบบขนส่งในไทย ที่เยี่ยมมากๆ (กทม และ เชียงใหม่)
ตอนนั้นเราไปที่เชียงใหม่ แล้วก็มา กทม. ความประทับใจที่มีต่อประเทศไทยเปลี่ยนไปแบบสิ้นเชิงค่ะ และที่ว่าไปมานี่คือไปแถวๆพื้นที่โลคอลรอบนอกนะคะ ต่างจากที่ที่เคยไปมาครั้งก่อน ๆ และนึกๆในใจว่า ระบบขนส่งที่นี่มันช่างสะดวกมากๆ อันดับแรก ที่มาเลย์มีแค่ รถไฟฟ้า รถบัส รถTaxi แต่รถไฟฟ้า หรือรถบัสที่ว่าหนะ มันน้อยมาก ในความเป็นจริง สำหรับคนที่อยู่นอกเมืองแล้ว มันไม่เพียงพอเลยค่ะ ที่ไทย ที่กทม. อันดับแรกมี รถไฟฟ้า BTS แล้วก็ยังมีรถตู้ มีตุ๊กๆ เยอะแยะไปหมดเลย
ตอนที่จำเป็นเร่งด่วน ก็เรียกใช้งานได้ทันที (อย่างภาพด้านล่างที่เรานั่งมินิบัส) ที่เชียงใหม่ก็มีรถบรรทุก สำหรับนั่งร่วมนะคะ (เหมือนกับว่าเค้าเรียกสองแถวค่ะ) ที่เชียงใหม่ ไม่ต้องใช้เท็กซี่ แต่ใช้รถบัส 20 บาทก็ไปไหนมาได้แล้ว สำหรับมาเลย์จะไปไหนมาไหนด้วยตัวเองแต่ละที Taxi อย่างเดียวจ้า แถมปัญหาร้อยแปด เลยตัดปัญหาใช้ Uber หรือ grab ไปเลย อย่างในรูปนอกจากในรูปที่เชียงใหม่ ที่ไทยจะมีตารางการเดินรถอยู่ ตารางการเดินรถแบบนี้ ในมาเลย์เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงหรอกค่ะ ที่มาเลย์จะไม่มีตารางการเดินรถ แล้วก็ความถี่บอกไว้ว่า 30 นาทีมา 1สาย ซึ่งจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเมื่อไหร่รถจะมา นี่แหละมาเลย์ ที่ไทยออกรถตามตาราง (เมื่อเทียบกับมาเลย์นะ) ที่ป้ายรถมีตารางเดินรถอยู่
เลยทำให้คิดว่าประเทศไทยค่อนข้างมีวินัยหรือเปล่านะ ไม่ว่าเรื่องตารางเวลา หรือเรื่องการให้ข้อมูล ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามที่กำหนด แม้แต่รถไฟก็ออกตามตารางเวลา (จริงเหรอ 555 คนแปลนะ ) แม้แต่เกตขึ้นเครื่องก็เปิดตามตารางเวลาทุกประการ ที่มาเลย์ทุกอย่างจะเลื่อนจากตารางเวลาประมาณ20นาทีเป็นปกติ มาเลย์เป็นสังคมรถยนต์ส่วนตัว เปรียบกับ กทม ที่มีระบบขนส่งที่สะดวกมาก อาจจะด้วยเหตุผลนี้ คนที่ไม่มีรถหรือคนที่ขับรถไม่เก่ง ควรอาศัยที่ กทม.จะเวิร์คกว่ามาก ที่นี้เราจะมาบอกว่า อะไรที่ทำให้ กทม เป็นเมืองที่อยู่สบาย ค่ะ
ระบบขนส่ง (ตามที่บอกไปก่อนหน้า) รู้สึกว่าใช้เงินได้คุ้มค่า ระบบขนส่งก็ไม่แพง เติมเต็มชิวิตความเป็นอยู่ประชาชน ร้านนวดเยอะมาก และราคาครึ่งหนึ่งของมาเลย์ ร้านนั่งกลางแจ้งเยอะแยะไปหมด ของกินถูกกว่ามาเลย์หลายอย่าง แน่นอนว่าร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ราคาพอๆกับญี่ปุ่นก็เยอะแยะมากมาย อยากจะอยู่แบบแพงๆก็อยู่ได้ หรือจะอยากอยู่แบบชาวบ้านๆ คนที่นี่ที่ข้าวของไม่แพงก็อยู่ได้ ต่อข้างล่างนะ
ความหลายหลาย และตัวเลือกที่มาเลย์ จะหาร้านกาแฟสักร้านตามถนนนี่ยากมากๆ แต่กรุงเทพจะเจอทันที และที่นี่เป็นอะไรที่ธรรมดามาก ร้านนวดก็ด้วย แล้วราคายังถูกกว่ามาเล และคุณภาพดีกว่า ที่กัวลาลัมเปอร์ต้องไปเป็นบางย่านถึงจะมี แถมแพงและคุณภาพห่วยมาก อีกอย่างถ้าอยากกินข้าวสวย อยากกินข้าวกล่องญี่ปุ่น(โอเบนโตะ) ที่กรุงเทพจะมีตามสถานีรถไฟ หรือตามมุมถนนเยอะแยะไปหมมด เหมือนกับเบ็นโตะที่ญี่ปุ่นเลยและเป็นระดับที่คนญี่ปุ่นทานได้ กัวลาลัมเปอร์ไม่มีอะไรแนวนี้หรอกนะ ต่อให้มีก็ไม่แน่ใจเรื่องความสะอาด แค่เรื่องความหลากหลายของอาหารที่เยอะและถูก ที่ไทยยังมีอย่างอื่นอีกมายจริงๆนะคะ ที่กัวลาลัมเปอร์ของกินถูกมีค่อนข้างจำกัด นอกจากอาหารมาเลย์ก็แพงไปหมดเลยค่ะ เสื้อผ้าก็เหมือนกันค่ะ ที่มาเลย์ร้านขายเสื้อผ้าน่ารักๆ ราคาถูกๆหรือร้านโชห่วยแบบสินค้าเอเชียแทบจะไม่มีอยู่เลยค่ะ ต่อให้มีก็มีแต่แบบมุสลิมหรืออินเดีย แล้วแพงด้วย
ร้านกาแฟก็เช่นกันค่ะ ที่กรุงเทพมีมากมายและหลากหลายมากๆค่ะ ร้านที่ไปนั่งได้ก็ไปได้หมดเพราะระบบขนส่งมันครอบคลุมหมด ที่กัวลาลัมเปอร์ร้านกาแฟส่วนใหญ่เป็นแบบเฟรนไชส์นะคะ ร้านกาแฟแบบคนทั่วไปทำเองหาได้น้อยมากๆ ถ้าเป็นร้านนอกเมืองหากไม่มีรถก็ไปไม่ได้เลยค่ะ เซอร์วิสต่างๆจากญี่ปุ่น สินค้าญี่ปุ่น และอาหารญี่ปุ่น สมบูรณ์แบบมากที่ไทย ตัวเราเองไม่ค่อยได้ใช้เซอร์วิสอะไรจากญี่ปุ่นเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ถ้าให้พูดถึงความพร้อมสรรพเวลาที่คุณอยากใช้บริการอะไรจากญี่ปุ่น กรุงเทพกับกัวลาลัมเปอร์คนละชั้นกันเลยค่ะ ที่กรุงเทพมีหมดค่ะ ของกินจากญี่ปุ่นก็ด้วยค่ะ กัวลาลัมเปอร์จะเอาไปเปรียบกับกรุงเทพไม่ได้เลยในแง่ความสมบูรณ์แบบ แล้วอาอาหารญี่ปุ่นที่ กทม นี่ถูกมากๆค่ะ อาจจะเพราะที่นี่แข่งขันกันรุนแรง
ความมีวินัยของไทยถ้าเทียบกับมาเลย์ ถ้าพูดถึงว่ามีนัยอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดได้ แต่พออกจากมาเลย์เข้ามาที่ไทยปึ๊บ ดูเหมือนว่าสรรพสิ่งต่างๆมันถูกดำเนินไปด้วยความมีวินัย(ตรงต่อเวลา/รอบคอบ/เอาการเอางาน หาคำแปลเปะๆไม่ออก) เป็นต้นว่า ที่วินรถบัสจะมีตารางเดินรถอยู่ ซึ่งทำให้ไม่ต้องเครียดเวลาต้องรอนานๆ แล้วเมื่อวานที่เจอมาหมาดๆ คือที่กัวลาลัมเปอร์ออกเดินทางล่าช้าให้รอกว่า 1 ชั่วโมง จากเท่าที่มีในความทรงจำนะ ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรที่ล่าช้าให้รออะไรนานๆถึง 1 ชั่วโมงใน กทม เลย แล้วรถไฟที่นี่ก็ออกตามเวลาด้วยนะเออ เซอร์ไพรส์เหมือนกัน ยังมีนะ เกตขึ่นเครื่องเปิดตามตารางเวลาตลอด อันนี้ก็เซอไพรส์ ที่มาเลย์จะเลท 20 นาทีเป็นประจำ
ที่ไทย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสัมภาระ การเดินงานตรวจคนเข้าเมืองทุกคนจะขยันขันแข็งตรวจสอบอย่างเรียบร้อย ที่มาเลย์พนักงานดู youtube ไป ตรวจสัมภาระไปจ้า บางทีตรวจตรวจผิดตรวจถูก ลงสแตมป์ผิดก็มี ถ้าเอามาเปรียบกับไทยนะ ข้าราชการมาเลย์ ( ภูมิปุตรา หมายถึงชาวมลายูดั้งเดิม ) แทบจะไม่ได้ทำงานแบบมีวินัยขั้นพื้นฐานเลย ไทยไม่มีข้อจำกัดเรื่องอาหาร สุราราคาถูก ที่มาเลย์เป็นประเทศอิสลาม เลยไม่สามารถหาเนื้อหมูมาทานได้ทั่วไป การขายเนื้อหมูต้องแอบขายกันบ่อยๆ เทียบกับไทย ลูกชิ้นหมูเอย ไส้กรอกหมูย่างเอย แถมราคาก็ไม้ละ 30 เยน (10บาท) ก็ซื้อกินได้ละ แถมยังทำสดๆใหม่ๆด้วย ที่มาเลย์ภาษีเหล้าสูงมากนะคะ มันเลยทำให้เหล้าแพง ที่ไทยเหล้าถูกค่ะ ของกินก็ไม่มีข้อจดำกัด โอ้ยเอนจอยเวอร์ๆ ทั้งๆที่ไทยเป็นประเทศที่ไม่ได้พูดอังกฤษ แต่ฝรั่งกับเยอะมากๆ (เมื่อเทียบกับมาเลย์) เพราะอยู่สบายนี่แหละ
ขอขอบคุณข้อมูลและรุปขาก คุณ YoshiDa_Bangkok และ Catontheroof สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com
อ่านหน้า 2
ต้องการซื้อ-เช่า !!!คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่
ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินกับ Dot Property ขายง่าย ขายไว ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย