ตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2563 เป็นต้นมาถือเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมีการชะลอตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงและผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการเก็บเงินสดไว้กับตัวมากกว่าการลงทุนกับทรัพย์สินต่าง ๆ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในสภาวะที่การเงินมีความฝืดเคืองเช่นนี้ หลาย ๆ คนเลือกที่จะตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องของกิน ของใช้ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่อยู่อาศัย อย่างการผ่อนคอนโด ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิธีขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมดว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ และจะมีขั้นตอนอย่างไร เผื่อเป็นคำแนะนำให้กับคนที่กำลังอยากจะตัดรายจ่ายในส่วนนี้ไปให้เงินในกระเป๋ามีสภาพคล่องที่ดีขึ้น
ขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมดได้หรือไม่ ?
แน่นอนว่าการขายคอนโดผ่อนไม่หมดนั้นสามารถทำได้อย่างแน่นอน สำหรับใครก็ตามที่กำลังเริ่มอยากตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ในเรื่องของที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทั้งการมีรายได้ไม่เพียงพอ มีความต้องการที่จะถือเงินสดไว้เผื่อการใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือต้องการที่จะซื้อคอนโดใหม่ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยมากกว่าเดิม หากได้ลองพิจารณาและตัดสินใจจากเหตุผลและปัจจัยต่าง ๆ อย่างดีแล้ว ก็สามารถขายคอนโดผ่อนไม่หมดที่กำลังเป็นเจ้าของอยู่ได้เลย
เมื่อได้ทำการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็มาเริ่มทำความรู้จักกับวิธีขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมดกันได้เลย
1. เริ่มจากการหาลูกค้า
สำหรับวิธีขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมดในขั้นตอนแรกนั้น คือเริ่มจากการหาลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการประกาศหาลูกค้าทางช่องทางต่าง ๆ เองหรือจะให้นายหน้ามืออาชีพช่วยหาลูกค้าเพื่อเป็นการประหยัดเวลาก็สามารถทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธีในการหาลูกค้าแบบง่าย ๆ นั่นก็คือการติดต่อกับทางธนาคารที่กำลังผ่อนชำระคอนโด ว่าต้องการขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมด ซึ่งทางธนาคารก็จะแจกแจงรายละเอียดและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ผู้ที่ต้องการขายคอนโดได้ทราบ รวมไปถึงยังช่วยหาลูกค้าที่ต้องการซื้อคอนโดต่อให้อีกด้วย
2. ทำสัญญาจะซื้อจะขายกับลูกค้า
เมื่อได้ลูกค้าหรือผู้ที่ต้องการจะซื้อคอนโดต่อจากเราแล้ว ก็ควรที่จะเริ่มทำสัญญาจะซื้อจะขายกับลูกค้าในทันที เพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลทั้งสองฝ่ายได้มีการตกลงที่จะซื้อจะขายคอนโดแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
3. ให้ลูกค้าวางเงินมัดจำ
เพื่อเป็นการให้ลูกค้าใช้เงินเป็นหลักประกันว่าต้องการที่จะซื้อคอนโดแห่งนี้จริง ๆ ซึ่งผู้ขายเองก็จะได้นำเงินในส่วนนี้เป็นใช้ในการสำรองจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ต่อไป
4. นัดกับลูกค้าไปจดทะเบียนนิติกรรมที่กรมที่ดิน
หลังจากเก็บเงินมัดจำแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการจดทะเบียนต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองห้องชุด จดทะเบียนขายห้องชุด หรือจดทะเบียนจำนองห้องชุด
แน่นอนว่านอกจากการทำความรู้จักกับวิธีขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมดแล้ว เอกสารก็ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้เป็นหลักฐานตั้งแต่เริ่มทำการซื้อขาย ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยที่จะใส่ใจกับการทำเอกสาร ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ในการซื้อขายคอนโดผ่อนไม่หมดมีดังนี้
1. บัตรประชานชนทั้งแบบสำเนาและตัวจริง
เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการใช้ยืนยันตัวตน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ซื้อหรือผู้ขายก็ตาม ซึ่งหากเรามีหลักฐานชิ้นนี้ เมื่อเกิดกรณีที่มีการโกงหรือไม่ทำตามสัญญาใด ๆ ขึ้นมา ก็จะทำให้มีหลักฐานในการเอาผิดคู่กรณีนั่นเอง
2. ทะเบียนบ้านทั้งแบบสำเนาและตัวจริง
เนื่องจากเจ้าของห้องเดิมหรือผู้ขายนั้นจะต้องย้ายออกจากทะเบียนบ้าน และผู้ซื้อใหม่จะทำการย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้านแทน
3. โฉนดห้องชุดตัวจริง
ใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า ผู้ขายนั้นเป็นผู้ที่ครอบครองและมีความเป็นเจ้าของห้องชุดที่ระบุไว้ในโฉนดจริง
4. ใบปลอดหนี้
ใช้เป็นหลักฐานให้กับเจ้าของโครงการคอนโดว่าผู้ขายไม่ได้มีการค้างชำระค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค้างชำระค่าใด ๆ ก็ตาม
หลังจากที่ได้รู้จักกับวิธีขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมดไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอย่าางคร่าว ๆ กันบ้าง ว่าจะมีรายการอะไรบ้าง
- ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการขาย ร้อยละ 2 ของราคาประเมินทุนทรัพย์
- ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะร้อยละ 3.3 ของราคาประเมินทุนทรัพย์
- ค่าภาษีอากรร้อยละ 0.5 ของราคาซื้อขาย
- ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
- ค่าจดจำนอง
คำแนะนำในการขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมด
- ควรคำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ดีเสียก่อน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับรายจ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้น
- ควรนัดเจอลูกค้าเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง และเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจในการคอนโดของตนเอง
- การทำสัญญาต่าง ๆ ควรมีความชัดเจนและควรเก็บหลักฐานไว้ แม้ทำการขายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะหากมีปัญหาตามมาจะได้ใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าทำการขายไปเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นแล้วจึงจะเห็นได้ว่าวิธีขายคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมดไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากเลย เพียงแต่มีขั้นต้องที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถตัดรายจ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นและเก็บเงินสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน หรือไปหาซื้อคอนโดแห่งใหม่ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้นแล้ว
อ้างอิง
https://www.ananda.co.th/blog/thegenc/อยากขายคอนโด/
https://storylog.co/story/5e903b65b823af8543f0da48