เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนเพื่อนสนิทที่คบหากันมานับสิบปี ณ บ้านหลังใหม่ที่เขาได้ซื้อไว้เพื่อทดแทนที่อยู่อาศัยเดิม เป็นบ้านสองชั้นขนาดย่อมๆ ละแวกรอบนอกชานเมือง ที่แม้ว่าจะไม่ได้ใหม่สวยสด แต่ก็นับว่าอยู่ในสภาพที่ดีเพียงพอสำหรับเขาและคุณแม่ได้อย่างสบายๆ เรานั่งลงสนทนาปราศรัยกันอยู่นานสองนานตามประสาคนไม่ได้พบพานกันมาแรมปี ก็อดถามไปด้วยความสงสัยไม่ได้ ว่าเหตุใด จึงเลือกที่จะซื้อบ้านเดี่ยว แทนที่จะเป็นคอนโดมิเนียมทำเลศักยภาพเช่นเดียวกับที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน
ด้วยข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ และวิถีการใช้ชีวิต คอนโดมิเนียมจึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งในปัจจุบัน
Credits: apthai.com
ในส่วนคำตอบ ขอละไว้ในฐานที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทความหัวข้อวันนี้มากนัก (สรุป: ใกล้ที่ทำงาน มีเวลาให้กับที่บ้าน…) แต่เมื่อมาดูทิศทางของอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ.2558 และปี พ.ศ.2559 ที่กำลังจะมาถึง ก็ชวนให้คิดคำนึงต่อไปอีกขั้น ว่าบางที มันอาจจะเป็นวาระที่ดี ที่ผู้ซื้อ (ไม่ว่าจะเพื่อการลงทุนหรืออยู่อาศัย) จะได้พิจารณาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทั้งเก่าใหม่ ไว้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกระเป๋ากันดู
//สภาวะ Oversupply คอนโดมิเนียมเริ่มก่อตัวชัดเจน
Credits: thestar.com.my
มันดูจะเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง กับสภาวะตลาดคอนโดมิเนียมในรอบสองไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ.2558 ถึงอาการ ‘ล้นตลาด’ หรือ Oversupply อันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการเติบโตของอสังหาฯ ในเวลาที่ผ่านมา แน่นอนว่าหลายเสียงอาจจะบอกกล่าวกันว่า นี่เป็นจังหวะที่ดีสำหรับการซื้อหาและลงทุนคอนโดมิเนียมทำเลดี มีศักยภาพ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปอีกชั้นหนึ่ง เราอาจจะพบว่า ท่ามกลางตัวเลือก (และโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม) ที่มากมายละลานตานั้น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเมื่อคำนึงถึงผลตอบแทนระยะยาว (รวมถึงระยะสั้นสำหรับการซื้อมาขายไป ที่สภาพคล่องใดๆ เริ่มจะเกิดการฝืดเคืองจากสภาวะเศรษฐกิจที่ทำท่าจะชะลอตัวแน่ๆ ในปีหน้า…)
//การขยายตัว ‘แนวราบ’
Credits: sansiri.com
ในจุดนี้ ถ้าพิจารณาถึงโครงการต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะการกำหนดเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่กระจายไปหัวเมืองรอบนอก การทบทวนแผนรถไฟความเร็วสูงกระจายตัวออกต่างจังหวัด จนถึงความคืบหน้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC จะพบว่า มันมีแนวโน้มของการกลับสู่การขยาย ‘แนวราบ’ ที่มากขึ้น และความเป็นจริงเหล่านี้ ทางผู้ประกอบการรายใหญ่เองก็ขานรับกันเป็นอย่างดี จากแผนธุรกิจในปี พ.ศ.2559 ที่เริ่มมีโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์เข้ามาในผังคิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าโอกาส และสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อก็น่าจะมีให้เห็น เช่นเดียวกับการเติบโตของแนวดิ่งในช่วงเริ่มต้น
//ความคุ้มค่าด้าน ‘ราคา’
Credits: homedit.com
แม้จะเหลือเวลาจนกว่าจะถึงเดือนเมษายน พ.ศ.2559 ที่การลดค่าจดจำนองและค่าธรรมเนียมโอน 0.01% รวมถึงสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยค่ำของภาครัฐจะลุล่วง แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เราได้คิดตริตรองถึงความคุ้มค่าด้านราคา ที่คอนโดมิเนียมทำเลดีย่านใจกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ดูจะมีราคาที่ไต่เกินกว่าที่จะซื้อหาได้ในงบ 3 ล้าน (รวมถึงผู้ประกอบการที่เริ่มหันมาจับตลาด ‘Luxury’ กันมากขึ้น…) เช่นนั้นแล้ว ถ้าต้องถอยออกไปอยู่รอบนอก การซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ ในราคาที่ใกล้เคียงกัน น่าจะเอื้อประโยชน์ด้านพื้นที่มากกว่า
ท้ายที่สุดนี้ มันอาจจะยังเป็นเพียงการคาดประมาณถึงทิศทางอสังหาฯ แนวราบที่กำลังจะมาถึง เราจึงขอให้คุณผู้อ่านพิจารณาและเลือกซื้อหาตามความเหมาะสม ทั้งกำลังทรัพย์ ทำเล และการใช้งาน เช่นเดียวกับสหายรักของผู้เขียน ที่ค่อนข้างสงบสุข ในยามที่นั่งอยู่ชานเรือนของบ้านสองชั้นหลังเล็กๆ ที่เขาเลือกซื้อหามาด้วยการพิจารณาที่รอบคอบและดีเพียงพอ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นปลายทางที่น่ายินดีสำหรับผู้ซื้อบ้านในท้ายที่สุดเฉกเช่นกัน…