สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาพบกันอีกเช่นเคย วันนี้เรามาเอาใจหลายๆท่านที่กำลังมองหาบ้านอยู่และอีกหลายๆท่านที่คงคิดว่าเงินเดือนเราแค่นี้ชาตินี้จะมีบ้านได้หรือ? ตอบเลยค่ะว่าได้ ถ้าหลายๆท่านสนใจเรามาลองไปดูกันดีกว่าค่ะว่าจะทำได้อย่างไรก่อนอื่นเราลองมาดูกันก่อนว่าบ้านสมัยนี้ ราคามันเป็นอย่างไรบ้างและราคาที่ดินมันก้าวไปขนาดไหนกันบ้างแล้ว มาดูว่าถ้าเราจะมีบ้านเราต้องเตรียมเงินในกระเป๋าเท่าไรที่จะสามารถซื้อบ้านหลังแรกได้ เพราะราคาบ้านไม่ใช่หลังหนึ่งจะถูกๆใช่ไหมละคะ เพราะฉะนั้นบทความนี้อาจจะเป็นแนวทางสำหรับคนที่ อยากมีบ้าน และคนที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีบ้านยิ่งต้องอ่านเพราะมันจะไม่ใช่ความฝันที่ไกลอีกต่อไปค่ะ
เคยสังเกตุกันไหมคะว่าเวลาเราผ่านไปไหนมาไหนเราจะสามารถพบเห็นป้ายตามข้างถนน หรือเวลาเราท่องอินเตอร์เน็ตเราก็จะเห็นป้ายโฆษณาบ้านและคอนโดใหม่ๆอยู่เสมอ ยิ่งตอนนี้มีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่างๆยิ่งทำให้มีโครงการบ้านหรือคอนโดผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด !!! ตามมาด้วยราคา เริ่นต้น….ล้านบาท ตามด้วยเครื่องหมาย(*) ที่บอกเป็นนัยว่ามันต้องมีเงื่อนไขแน่นอน ยกตัวอย่าง ราคาเริ่มต้นที่ 1.6 ล้าน* เป็นราคาห้องโปรโมชั่นเท่านั้นมีแค่ 10 ห้องเท่านั้นหรืออาจจะเป็นห้องที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เป็นห้องเปล่าๆเท่านั้น จะว่าแบบนี้ก็ได้หรือมันเป็นหลักการขายของเป็นธรรมดาค่ะ
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราที่เป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเด็กจบใหม่ที่มีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000 บาทคงคิดว่านี้คงเป็นความฝันแน่ๆเพราะ1ปีเราจะเก็บเงินได้ไม่เกิน 180,000 หรือถ้ากู้ผ่านจะให้มาอดข้าวอดน้ำมาเพื่อผ่อนบ้านสงสัยเราคงต้องตายก่อนบ้านหลังนั้นจะมาเป็นของเราแน่ๆ เพราะอย่างน้อยๆเราต้องผ่อน 10 ปีเป็นอย่างต่ำ และไหนจะเป็นของตกแต่งอีกที่เราต้องซื้อเข้าบ้าน เพราะฉะนั้นเราจะมาขอชี้แจงและแนะนำวิธีที่จะทำให้เรามีบ้านเป็นของตัวเองสักที เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
เริ่มแรก สำหรับในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเรานั้น โดยเฉพาะในส่วน กทม. และปริมณฑล ไปจนถึงหัวเมืองใหญ่ๆในประเทศไทย ที่อยู่อาศัยจะมีการแบ่งออกเป็นส่วนใหญ่ๆได้ 4 ประเภทและแต่ละประเภทจะมี มูลค่าและราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยทำเลและพื้นที่ใช้สอยรวมไปถึงขนาดที่ดิน สามารถแบ่งได้ดังนี้ค่ะ
- ที่ดินทำเลติดBtsหรือทางด่วนจะแพงกว่าทำเลที่ไม่ติดกับBts
- ที่ดินทำเลติดถนนใหญ่จะแพงกว่าทำเลในซอย
- ที่ดินทำเลในเมืองหรือพื้นที่ธุรกิจจะแพงกว่าทำเลชานเมือง
- ที่ดินทำเลเหมือนกัน ราคาจะเรียงลำดับตามนี้ บ้านเดียว>บ้านแฝด<ทาวน์โฮม<คอนโดมิเนียม
- ขนาดพื้นที่ใช้สอยมาก ขนาดค่าใช้จ่าย เป็นปัจจัยให้ราคาแพง
- ขนาดที่ดินที่มีขนาดใหญ่ก็จะมีราคาที่แพงกว่าที่ดินขนาดเล็ก
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นภาพรวมแบบคร่าวๆส่วนเรื่องรายละเอียดเจาะลึกเราจะมาค่อยๆขยายความในบทความต่อๆไปค่ะ
สำหรับคนที่พึ่งจบใหม่และกำลังเริ่มทำงาน เริ่มต้นเราอาจจะได้เงินเดือน 15,000 บาท โดยหักค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในแต่ละเดือน 10,000 บาท เก็บ 5,000 บาท จากที่บอกมาข้างต้นคงเป็นเรื่องยากมากๆที่เราจะสามารถเก็บเงินได้ 5,000 บาทเพราะว่าเด็กจบใหม่ก็คงอยากจะซื้อของที่เราต้องการใช่ไหมละคะ การที่จะให้เราเก็บเงินเพื่อจะได้ 1.6 ล้าน เพื่อจะซื้อบ้านในเวลา 10-20 ปี ราคาบ้านที่เรามองๆไว้ราคาคงจะขึ้นเป็น 2.6 ล้านแน่ๆ เพราะฉะนั้นทางออกของเหล่ามุนษย์เงินเดือนก็คงจะหนีไม่พ้นการกู้เงินเพื่อนำเงินมาซื้อบ้าน โดยเราจะยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
” นาย มงคล มีเงินเดือน 15,000 บาทสามารถที่จะกู้ได้สูงสุด 1ล้านบาท รายละเอียดวงเงินกู้ตามเงินเดือน (https://goo.gl/7eH3tV) ผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 6,000บาท ต่อเดือน โดยอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ธนาคารที่เรากู้แต่โดยส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 6% ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ต้องผ่อนเป็นหนี้ไปอีก 30 ปี “
สำหรับบางท่านที่ต้องการอยากจะได้บ้านแต่เรามีเงินเดือนแค่ 15000 บาทเองจะทำเรื่องกู้คงจะไม่ผ่านแน่ๆ ดังนั้นวิธีที่พอจะทำให้เราสามารถที่จะทำได้คือการ กู้ร่วมค่ะ โดยผู้กู้ร่วมจำเป็นต้องเป็นคนในครอบครัวที่นามสกุลเดียวกันหรือสามีภรรยาก็ได้ค่ะ โดยผู้กู้ร่วมแต่ละคนจะต้องเอารายได้ไปหักค่าใช้จ่ายมาร่วมกันคิด ตัวอย่างเช่น นาย จำดี มีเงินเดือน 20,000 บาท ผ่อนรถ 7,000 หลังจากหักแล้ว จะมีเงิน เหลือ 13,000 มารวมกับ ของเรา 15,000 จะเป็น 28,000 ซึ่งจะทำให้เรามีรายได้เหลือมากขึ้น จะทำให้เราสามารถเพิ่มวงเงินสำหรับกู้ได้สูงขึ้น ส่วนบ้านราคา 3 ล้านเราจะต้องมีผู้กู้ร่วมเท่าไรถึงวงเงินจะสามารถกู้ได้ สามารถตรวจสอบได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://goo.gl/eAgCDA
นอกจากนี้ในบางครั้งก็มีกรณีที่ผู้กู้ร่วมไม่อาจจะช่วยอะไรเลยก็ได้ ตัวอย่างเช่นผู้กู้ร่วมมีหนี้สินท่วมท้นอยู่แล้ว แบบวงเงินกู้เต็มยอด พอเอามารวมเป็นผู้กู้ร่วมแทนที่จะเอามาเพิ่มยอดการกู้กลับกู้ได้ยอดน้อยลงอีก หรือบางรายหนักกว่านั้นคือไม่มีหนี้สิ้นแต่ชอบใช้จ่ายเงินสุร่ยสุร่ายไม่มีเงินเก็บ แต่เราซื้อเขามากู้ร่วมอาจจะไม่สามารถช่วยเราผ่อนได้ในอนาคตปีแรกอาจจะผ่อนได้แต่ถ้ามีนิสัยแบบข้างต้นรับรองว่าอนาคตเราคงต้องผ่อนบ้านคนเดียวแน่ๆเพราะฉนั้นคนแบบนี้อันตรายมากกว่าแบบแรกอีกค่ะ
เพราะว่าเมื่อเราไม่สามารถผ่อนบ้านไหวนอกจากเราจะโดนยึดบ้านแล้วนั้นเราจะมีหนี้ก้อนโตแถมมาด้วยอีกค่ะ ดังนั้นเราต้องระวังให้มากๆสำหรับผู้กู้ร่วมที่เราจะเอามาร่วมลงด้วย ทางที่ดีหาทางแก้ไขไว้ร่วงหน้าหรือถ้าเราคิดแล้วว่าไม่สามารถผ่อนได้ก็ค่อยเก็บเงินรอไปก่อนค่ะเพราะว่าคงไม่ดีแน่ถ้าเราเสียเงินไปหลายปีแล้วเราไม่ได้อะไรเลยแถมยังโดนยึดบ้านอีกค่ะ
ว่าแย่จังเลยนะคะวันนี้หน้ากระดาษหมดซะละ เรื่องราวกำลังสนุกเลยเดี๋ยวเรามาต่อกันในครั้งต่อไปค่ะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ