DotProperty.co.th

แนะนำคอนโดที่มี Co-Working Space พื้นที่ส่วนกลางคอนโดสำหรับคนที่ไม่อยากออกไปหาที่ทำงานด้านนอก

Dot Property News

พื้นที่ส่วนกลางคอนโดนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญอย่างมาก ที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อเข้าไปอยู่อาศัยหรือสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ที่ความต้องการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปจากเทรนด์การทำงานแบบ Work From Home ทำให้พื้นที่ส่วนกลางคอนโดอย่าง Co-Working Space ยิ่งเข้ามามีบทบาทสำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคมีพื้นที่สำหรับการทำงานมากขึ้น ดังนั้นในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคอนโดโครงการต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่คอนโด อย่าง Co-Working Space

พื้นที่ส่วนกลางคอนโดมีความจำเป็นมากแค่ไหน

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าผู้บริโภครุ่นใหม่นั้น ต้องการพื้นที่คอนโดที่จะช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งพื้นที่คอนโดดังกล่าวก็ต้องเป็นพื้นที่ที่มากกว่าแค่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ส่วนกลางคอนโดที่คอยช่วยอำนวยสะดวกในด้านการทำงานให้กับลูกบ้านได้อย่างแท้จริง

เพราะหากคอนโดมิเนียมโครงการใด มีพื้นที่ส่วนกลางคอนโดอย่าง Co-Working Space ก็จะทำให้ลูกบ้านไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปหาพื้นที่ทำงานที่ไหนไกล อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการเลือกพื้นที่ทำงานให้กับลูกบ้านอีกด้วย เช่น หากลูกบ้านทำงานในห้องของตนเองจนรู้สึกเบื่อ หรือเกิดความเครียด การได้เปลี่ยนบรรยากาศใหม่ ๆ โดยใช้ Co-Working Space ที่คอนโด ก็ถือว่าเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างดีเลยทีเดียว อีกทั้งยังช่วยให้ลูกบ้านประหยัดมากกว่าการออกไปทำงานในศูนย์การค้า ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟอีกด้วย

4 โครงการคอนโดมิเนียม ที่มีพื้นที่ส่วนกลางคอนโดอย่าง Co-Working Space ที่น่าสนใจ

หลังจากที่เราได้เห็นถึงความจำเป็นของพื้นที่ส่วนกลางคอนโดอย่าง Co-Working Space กันไปแล้ว คราวนี้มาลองทำความรู้จักกับ 4 โครงการคอนโดมิเนียม ที่มีพื้นที่ Co-Working Space ที่น่าสนใจกันบ้าง

โครงการ Kave TU 

สำหรับโครงการแรกอย่างโครงการ Kave TU จากผู้พัฒนา Assetwise นี้ ถือได้ว่ามีความโดดเด่นตรงที่ทางผู้พัฒนาได้แบ่งอาคารออกมาเป็น 4 อาคาร เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ อาคาร A สำหรับ Be Relaxed อาคาร B สำหรับ Be Socialixed อาคาร C สำหรับ Be Active และ อาคาร D สำหรับ B Focused ซึ่งในอาคาร D นี้เองที่ทางผู้พัฒนาได้ออกแบบ Co-Working Space มาได้อย่างน่าสนใจ โดยได้แบ่งโซนการใช้งานออกเป็นมุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มุมสำหรับเรียนรู้ มุมอ่านหนังสือ ห้องสำหรับ Workshop รวมไปถึงห้องสำหรับการประชุมหรือสนทนากัน ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ใหญ่วัยทำงานที่ต้องการพื้นที่ในการทำงานได้เป็นอย่างดี

โครงการ Attitude BU

สำหรับคอนโดโครงการต่อมาจากผู้พัฒนาอย่าง The Urban Property ยังถือเป็นอีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางคอนโดอย่าง Co-Working Space เพราะตัวโครงการเองตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ทำให้ผู้พัฒนาได้เล็งเห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่ต้องการทำงานในพื้นที่แบบจำกัด โดยนอกจากพื้นที่ Co-Working Space แล้ว ก็ยังมีพื้นที่ Co-Living Space และ Co-Playing Space ที่จะเข้ามาช่วยรองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

โครงการไอดีโอ พระราม 9 ตัดใหม่

ในส่วนของคอนโดโครงการไอดีโอ พระราม 9 ตัดใหม่ จาก อนันดา ดีเวลลอปเมนท์แห่งนี้ มีความน่าสนใจตรงที่ผู้พัฒนาได้มีการออกแบบคอนโดออกมาในคอนเซ็ปต์ Live Work Play เพื่อเป็นการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังมีการให้ความสำคัญในเรื่องพื้นที่ของการทำงาน ดังนั้นแล้วพื้นที่ Co-working Space ในโครงการคอนโดมิเนียมแห่งนี้จึงมีขนาดที่ใหญ่ เพื่อรอบรับผู้คนได้หลากหลายและยังมีมุมห้องสมุดสำหรับใครที่ต้องการใช้สมาธิอีกด้วย

โครงการดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105

สำหรับโครงการ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 จากผู้พัฒนา ออริจิ้น ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยทีเดียว เนื่องจากพื้นที่ Co-working Space ของโครงการแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีการเปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง ซึ่งเรียกได้ว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของผู้บริโภครุ่นใหม่เป็นอย่างมาก ที่ไม่ต้องการการกำหนดเวลาที่ตายตัว และนอกจากนี้พื้นที่ Co-working Space ภายในโครงการ ก็ยังมีการจัดมุมต่าง ๆ ออกมาเพื่อลดความน่าเบื่อในการทำงาน ทั้งมุมโซฟา มุมขั้นบันได หรือจะเป็นเก้าอี้บาร์แบบหันหน้าชมวิว