นายอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อธุรกิจขนาดย่อม ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และเลขาธิการสมาคมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงเดือน พ.ค.59 มีทิศทางชะลอตัวลงจากช่วง 4 เดือนแรก หลังจากสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ซึ่งมีส่วนให้คนชะลอการซื้อบ้านใหม่
“ในช่วง 4 เดือนแรกที่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ช่วยกระตุ้นลูกค้าให้มีการเร่งซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และก็มีการดึงกำลังซื้อล่วงหน้าไปบางส่วนด้วย โดย 4 เดือนแรกตัวเลขสินเชื่อบ้านของกสิกรไทยเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมาย ปล่อยไปได้ประมาณ 15,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 50,000 ล้านบาท และคาดว่าเป้าหมายทั้งปีจะเติบโตประมาณ 5-6% ใกล้เคียงกับตลาด”
ทั้งนี้หลังจากสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว คงต้องจับตาดูว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเป็นอย่างไร ซึ่งเริ่มเห็นเจ้าของโครงการจัดโปรโมชั่นเร่งระบายสต๊อกที่อยู่อาศัยที่เหลืออยู่ เช่น การให้โอนและจดจำนองพิเศษเท่ากับช่วงมีมาตรการฯ น่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อบ้านได้ เพิ่มขึ้น
ด้าน น.ส.อรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยช่วงเดือน พ.ค.- มิ.ย.59 มีสัญญาณลดลงอย่างที่คาดไว้ เพราะหมดมาตรการลดหย่อนค่าโอนและจดจำนอง แต่หลังจากนี้ ธนาคารจะมีการเสนอปล่อยกู้ดอกเบี้ยถูก สำหรับลูกค้าที่มีประวัติดีเพื่อกระตุ้นยอดปล่อยสินเชื่อเพิ่ม เช่น หากลูกค้ามีรายได้ 3 หมื่นบาท ซื้อบ้านหลังละ 1.5-2 ล้านบาท และมีเครดิตดี อาจได้รับดอกเบี้ย 3.9% คงที่ 3 ปี หลังจากนั้นคิดแบบดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยแบบทั่วไป (เอ็มอาร์อาร์) ลบแต่ถ้าลูกค้าที่มีความเสี่ยงก็อาจคิดดอกเบี้ยสูงกว่า.
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปจากthairath.co.th
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากซื้อ ขายบ้าน คอนโด หรือ ทาวน์เฮ้าส์ มือ1 มือ 2 สามารถเข้าดูได้เลยที่ https://www.dotproperty.co.th/