แสนสิริแถลงปิดไตรมาส 3 โชว์รายได้กว่า 60% ทะยานสู่เป้าหมายปลายปี มูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาท

4

(ซ้าย)คุณอุทัย  อุทัยแสงสุข (ขวา)คุณเมธา อังวัฒนพานิช 

แสนสิริเผยแผนธุรกิจไตรมาส 4/2558 เปิดอีก 10 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 21,500 ล้านบาท ไฮไลท์คอนโดมิเนียมแบรนด์ THE LINE (เดอะ ไลน์) และบ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริ – สราญสิริ และคณาสิริ พร้อมรุกเปิดตัวบ้านเดี่ยวที่โคราช มั่นใจรายได้ตามเป้าหมาย 35,000 ล้านบาท ขณะที่สรุปผลงาน 9 เดือนโกยยอดขายแล้วกว่า 20,500 ล้านบาท เกินกว่า 60% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท ณ งานแถลงข่าวผลประกอบการ แสนสิริเลาจน์ ชั้น 3 สยามพารากอน

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งจากนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ และโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมทำเลแนวรถไฟฟ้า เห็นได้จากโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ ซึ่งในปีนี้สามารถปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลส์ ถึง 3 โครงการ ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทในช่วง 9 เดือน สามารถปิดการขายไปได้ถึง 20,500 ล้านบาทหรือคิดเป็นกว่า 60% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 6,800 ล้านบาททำให้เชื่อมั่นว่าในปีนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริจะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 10 โครงการ มูลค่ารวม 21,500  ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมประมาณ 5 โครงการและโครงการบ้านเดี่ยวอีกประมาณ 5 โครงการ ทั้งนี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ โครงการใหม่ คือ “เดอะ ไลน์ ราชเทวี” มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท โดยจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ที่ THE LINE Sales Centre (BTS หมอชิต)

นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบ โครงการใหม่อีกประมาณ 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการพัฒนาบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ทั้งหมด เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในหัวเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวในจังหวัดเชียงใหม่อีก 1 โครงการเพื่อตอบรับความต้องการบ้านเดี่ยวที่เชียงใหม่ที่ยังมีอุปสงค์ตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้าย จะเดินหน้าพัฒนาโครงการภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS อย่างต่อเนื่อง ใช้ Brand Management ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กรให้บริหารงานและทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนอกเหนือไปจากการบริหารงานภายใต้แผนงาน “Engineer For Growth” หรือ EFG ที่นับว่าประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ทั้งการลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย เพิ่มยอดโอนและเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ โดยบริษัทคาดว่าจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งเป้าหมายยอดขายรวมซึ่งตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้รวมซึ่งตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท