TerraBKK ได้นำเสนอผลวิจัยเกี่ยวกับความพึงพอใจของลูกค้าต่อแบรนด์อสังหาฯ ซึ่งก็ต้องขอแสดงความยินดีกับบริษัทพัฒนาอสังหาอย่าง แสนสิริ เป็นอย่างยิ่งที่ยังคงเป็นที่ 1 ในดวงใจของลูกค้า และยังคงครองแชมป์ The Most Powerful of Real Estate Brand 2020 เป็นปีที่ 3 ด้วย Brand Powerful Score ที่เป็นอันดับ 1 ในทุก ๆ ด้าน จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม 1,581 คน ไม่ว่าจะเป็นในด้าน Brand Love (แบรนด์ที่ทุกคนรัก), Brand Famous (แบรนด์ที่มีชื่อเสียง), Brand Unique (แบรนด์ที่มีความแตกต่าง), Brand Familiarity (แบรนด์ที่คุ้นเคย), Brand Trusted (แบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นในคุณภาพ), Meet Needs (ตรงกับความต้องการของลูกค้า) และ Dynamic (ไม่หยุดนิ่ง ปรับตัวตลอดเวลา)
ผลสำรวจพบว่าลูกค้าเลือกพิจารณาซื้อและจ่ายเงินในราคาที่แพงขึ้น เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของอสังหาแบรนด์แสนสิริ
เรียกได้ว่าแบรนด์อสังหาอย่างแสนสิริเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าทุกคนอยากมีไว้ในครอบครองจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เทรนด์เกี่ยวกับการต้องการที่อยู่อาศัยที่แตกต่างออกไปจากปี 2562 ที่ผ่านมา ด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 หรือปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ส่งผลเสียอย่างมากต่อประเทศไทย อีกทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว การดำเนินกิจการต่าง ๆ รวมไปถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลทำให้ลูกค้ามีความสามารถหรือกำลังในการซื้อลดลง และเลือกที่จะพักการซื้อโครงการต่าง ๆ ไว้ก่อน ถึงแม้จะมีความต้องการในการซื้ออยู่มากก็ตาม
จากการสำรวจนั้นพบว่าลูกค้าก็ยังเลือกที่จะพิจารณาซื้อและจ่ายเงินในราคาที่แพงขึ้น เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของอสังหาแบรนด์แสนสิริ ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาในปี 2564 นี้ หรือสำหรับลูกค้าเจนเนอร์เรชั่นใหม่ ๆ นั้นไม่ได้ต้องการอสังหาที่มีราคาถูกเสมอไป แต่ต้องได้มาซึ่งความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัย ว่าตอบโจทย์กับตนเองหรือไม่ รวมไปถึงในด้านการบริการ ซึ่งลูกค้าเจนเนอร์เรชั่นใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมการหาข้อมูลหรือสอบถามข้อมูลทางออนไลน์ก่อนที่จะเข้าชมโครงการจริง ดังนั้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความมีคุณภาพของแบรนด์ รวมไปถึงยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและไว้วางใจที่จะเลือกแบรนด์นี้อีกครั้งในอนาคต
โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 90% นั้นมีความรู้จักแบรนด์แสนสิริเป็นอย่างดี ซึ่งนั่นก็หมายถึงการที่แสนสิริยังคงความมีชื่อเสียงและยังสามารถสร้างลูกค้าในกลุ่มใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ที่ต้องการลงทุนในโครงการของแสนสิริ หรือผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง เช่น First Jobber ซึ่งนอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามก็ยังมองว่าแบรนด์แสนสิริ เป็นผู้นำในหลายด้านอีกด้วย อาทิ มาตรฐานงานก่อสร้าง บริการหลังการขายที่ดี มีคุณภาพ การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ การออกแบบเพื่อผู้สูงวัย และนวัตกรรมสำหรับการอยู่อาศัย และยังเห็นว่าแสนสิริเป็นแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยรวมถึงนักลงทุนอีกด้วย ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าลูกค้าที่มีความสนใจในบริษัทพัฒนาอสังหาอย่างแบรนด์แสนสิรินี้ ส่วนใหญ่มีความมั่นใจในคุณภาพของแบรนด์อสังหาของแสนสิริอยู่แล้ว และยังคงรู้สึกภูมิใจต่อการได้เป็นเจ้าของโครงการ โดยยอมจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นจากราคาตลาดเพื่อให้ได้มาเพื่อแบรนด์อสังหาคุณภาพอย่างแสนสิรินั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีบริษัทพัฒนาอสังหาอย่าง อย่างบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ยังได้ขึ้นแท่นแบรนด์อสังหาผู้ท้าชิงในปีนี้ด้วย โดยจากการวิจัย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มีความโดดเด่นในด้าน Brand Trusted หรือแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค คุ้มค่า คุ้มราคา เข้าถึงง่าย และมีการออกแบบรองรับผู้สูงอายุ ส่วนบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีความโดดเด่นในด้าน Brand Differentiate หรือแบรนด์ที่โดดเด่นในโลกออนไลน์ มีความแตกต่างไม่หยุดนิ่ง หรูหรามีระดับ ดูอินเตอร์ และภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ นอกจากนี้ในด้านสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็ตาม ผู้นำองค์กรถือเป็นผู้ที่มีบทบาทในการเป็นสื่อสารกับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้ว่า ทั้งบริษัท แสนสิริ, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ศุภาลัย และพฤกษาฯ ต่างก็มีการนำเสนอข้อมูลออกมาสู่กลุ่มลูกค้าและผ่านสื่อมวลชนอยู่เสมอ จึงทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในแบรนด์มากยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
อ้างอิง
https://www.thansettakij.com/content/property/458905
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9630000124711