เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดภูเก็ต ไม่เพียงแต่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อ เลื่องลือกันไปทั่วโลก เป็นเหตุให้ผู้คนหลั่งใหลกันมาใช้ชีวิตแบบชิลๆ กับน้ำทะเลสีคราม และหาดทรายสวย แต่ภูเก็ตยังเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีการลงทุนในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งประเภทการจัดสรร และอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม ที่คนเมืองคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
จากการเปิดเผยของที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ได้สรุปให้เห็นเป็นตัวเลขอย่างชัดเจนว่า อัตราการเจริญโตทางด้านอสังหาริมทรัพย์ประเภทการจัดสรร เป็นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่หวือหวา ส่วนใหญ่จะเป็นการเติบโตทางด้านบ้านจัดสรร แบบบ้านเดี่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และที่ดินเปล่าต่างเป็นที่ต้องการของนักลงทุน และผู้ที่ต้องการครอบครองเป็นเจ้าของ เป็นอย่างมาก แต่ปรากฏว่า กลับมีการชะลอตัวลง อัตราการเติบโตค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ มีที่ชะลอลงมากจนผิดสังเกตุได้แก่ บ้านแฝด ซึ่งในรอบปีก่อนหน้านี้ เคยมีผู้นิยมซื้อบ้านแฝดเป็นจำนวนมาก แต่ในปี 2556 กลับพบว่า ความต้องการในการซื้อบ้านแฝดนั้นลงลงอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารชุด ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะคนส่วนใหญ่ที่มีงานประจำ และทำธุรกิจในเขตเมืองซึ่งมีความเจริญพร้อมสรรพ มักจะนิยมซื้ออาคารชุด หรือคอนโดมิเนียมอยู่มากกว่า เพราะแลกกับระยะเวลาในการเดินทางไป-กลับ ความสะดวกที่พรั่งพร้อม ทั้งห้างสรรพสินค้า สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มักจะกระจุกตัวกันอยู่ในบริเวณกลางเมือง ซึ่งผู้ลงทุนในธุรกิจอาคารชุด ก็มักจะเล็งเห็นสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้เป็นจุดขายเช่นกัน ดังนั้นในระยะนี้ จะเห็นได้ว่า บริษัทจัดสรรบ้านและที่ดิน รวมทั้งคอนโดมิเนียม มักจะเล็งเป้าการซื้อที่ดินเปล่า หรือที่ดินที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ เปลี่ยนอาคารพาณิชย์ ที่ทรุดโทรม มาเป็นอาคารชุดหรูหรา ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตมากทีเดียว
แต่สำหรับธุรกิจการลงทุนในอาคารชุด หรือคอนโดมิเนียมในภูเก็ตนั้น ยังเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง นั่นเป็นเพราะมีตัวแปรสำคัญเกิดขึ้นหลายอย่าง สาเหตุหนึ่งสืบเนื่องมาจากโคงการรถยนต์คันแรก ที่ทำให้ผู้จองห้องชุด สละสิทธิไม่ส่งต่อ เพราะรายได้จากการทำงานประจำ ไม่เพียงพอต่อการผ่อนทั้งรถ และบ้าน อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ที่ปล่อยให้กู้ซื้อบ้าน ก็เข้มงวดกับประวัติการเงินของผู้กู้ขึ้นมาก เนื่องจากเล็งเห็นเช่นเดียวกันว่า รายได้ประจำของผู้กู้นั้น อาจไม่เพียงพอต่อการกู้ซื้อบ้าน หลังจากที่กู้ซื้อรถกันไปแล้ว ดังนั้นเป้าหมายของผู้ที่ซื้ออาคารชุดส่วนหนึ่ง จึงตัดสินใจปล่อยเงินจองทิ้งไป เพราะถึงอย่างไรก็คงกู้ธนาคารไม่ผ่านนั่นเอง
<em>ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]</em>