โมเดลห้องตัวอย่างในแมนชั่นที่เรานำมาฝากคุณในวันนี้ เค้าว่ากันว่า เด็กที่อยู่ห้องแบบนี้ โตขึ้นจะเป็นเด็กฉลาดค่ะ และความความลับของห้องก็ซ่อนอยู่ในแปลนห้องนี่เองค่ะ ห้องนี้พอเดินเข้าไปในห้องจะพบว่า ไม่ค่อยมีทางเดินยาวเข้าไปในตัวบ้านเท่าไหร่ เข้าห้องไปแป๊ปเดียวก็เจอห้องนั่งเล่นเลยค่ะ ห้องนี้มีขนาด 74.81 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว ดูแคบ แต่ว่าใช้กระจกกั้นห้องทำให้ดูเหมือนห้องเดี่ยวที่กว้างๆเลยล่ะค่ะ
แปลนห้องเปิดโล่งที่ทำให้ห้องดูใหญ่เหมือนเป็นห้องเดี่ยว
ตรงกลางของห้องนั่งเล่น เป็นห้องครัวไอแลนด์ (คือ ห้องครัวที่มีโต๊ะบิวท์อินตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งทำให้ใช้พื้นที่มาก) ทำให้มองเห็นห้องทั้งห้องได้ การให้ห้องครัวอยู่ตรงกลางแปลนแบบนี้จะดูเวอร์ไปหน่อย แต่ด้วยความที่เป็นห้องที่เปิดโล่งอยู่แล้วจึงทำให้ไม่ดูแปลก หรือขัดหูขัดตา
การสำรวจแปลนห้องของเด็กประถมที่สอบผ่านการสอบสุดโหด
นอกจากนั้น เมื่อได้หาข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็น สำหรับการเรียนรู้ของเด็กๆ ในหนังสือที่เป็นที่โด่งดัง “บ้านที่เด็กอยู่แล้วจะฉลาด” ผู้เขียนกล่าวว่า สิ่งจำเป็นในการเรียนรู้ของเด็ก จริงๆแล้วมีอยู่สามอย่าง เรียกสั้นๆว่า 3EX ประกอบไปด้วย Express (การแสดงความรู้สึก), Explore (การสำรวจ), Exchange (การแลกเปลี่ยน)
การที่ห้องมีลักษณะเปิดโล่ง อย่างในแปลนของห้องนี้ จึงทำให้มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนกันได้ง่าย และจากการสำรวจของบริษัทให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย พบว่า เด็กที่ผ่านการสอบที่โหดร้าย ส่วนมากไม่ได้อ่านหนังสือในห้องของตัวเอง แต่อ่านในห้องนั่งเล่น หรือห้องรับประทานอาหาร พร้อมๆกับคนในครอบครัว ซึ่งถ้าดูจากแปลนห้องนี้ คุณแม่ก็จะสามารถเตรียมอาหารไปด้วย และยังดูแลคุณลูกที่อ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นอยู่ได้ด้วยค่ะ
ชั้นหนังสือ และโต๊ะทำงานที่พ่อแม่ และลูกๆใช้ร่วมกัน
Family Libraryของห้องนี้มีขนาดเท่ากับ 9 โจว (เท่ากับเสื่อทาทามิ 9 ผืน ทาทามิ 1 ผืน ขนาดประมาณ 90 cm x 180 cm) ในแปลนพื้นฐานจะแบ่งห้องแบบตะวันตกเป็นสองห้อง ขนาดห้องละ 4.5 โจว ในห้องของครอบครัวที่มีลูก 2 คน ตอนที่ลูกยังเล็กๆอยู่จะให้อยู่เป็นห้องใหญ่ๆห้องเดียวค่ะ พอโตแล้ว อยากแบ่งห้องก็สามารถแบ่งห้องให้แยกกันได้
ที่มา: allabout