หากจะกล่าวถึง แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ แนวหน้าของเมืองไทย ชื่อของ “ไรมอน แลนด์” คงเป็นที่คุ้นเคยและคุ้นหูมากว่า 30 ปี และด้วยการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เกิดกลุ่มผู้บริโภคที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจยุคใหม่ในวัยที่เด็กลงทำให้แบรนด์ “ไรมอน แลนด์” ซึ่งมีฐานลูกค้าเดิมอยู่ในกลุ่มวัยกลางคนขึ้นไปไม่ได้นิ่งนอนใจ และทำการวิเคราะห์และวิจัยเพื่อมองหาว่าตอนนี้ แบรนด์ “ไรมอน แลนด์” อยู่ในกลุ่มไหนของตลาดในภาพรวม ซึ่งผลจากการศึกษาครั้งนี้ จึงเป็นที่มาของการปรับแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี เพื่อขยายฐานลูกค้า สร้างการรับรู้และความพึงพอใจให้เข้าถึงกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงมากและสร้างรายได้ให้ตัวเองได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยที่ไม่ได้ละเลยที่จะดูแลฐานลูกค้าเดิมในวัยกลางคนซึ่งมีความสำคัญต่อรากฐานของแบรนด์ไม่น้อยเช่นกัน
โดยแนวคิดในการรีแบรนด์ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ครั้งนี้ สะท้อนแนวคิดที่ว่าภาพของความลักซ์ชัวรี่ในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงยากอีกต่อไป ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่ทำให้ “ไรมอน แลนด์”ต้องการ ขยายฐานลูกค้า ผ่านกลยุทธ์แบรนด์ดิ้งรวมถึงภาพในการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงทุกเจเนอเรชั่น ดูทันสมัยขึ้น Fresh, Young & Energetic เข้าถึงง่าย ทันสมัย มีสไตล์มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงความขลังในแบบฉบับความเป็นลักซ์ชัวรี่ที่เป็นแก่นของแบรนด์มาโดยตลอด
โดยการรีแบรนด์เพื่อขยายฐานลูกค้าครั้งนี้ ได้วางแผนให้สื่อสารผ่านส่วนสำคัญ สามส่วนนั่นคือ
- การปรับ New Logo ใหม่ โดยมีการออกแบบคำว่า RML ให้เป็นกราฟิกเชิงแอปสแตรค สามารถดูเป็นลวดลายแต่มีความหมายของตัวอักษรซ่อนอยู่ มีการใช้ภาพกราฟิกแนวแท่ง แสดงถึงความมั่นคงแข็งแรง และเติบโต จัดวางเป็นระนาบให้สูงขึ้น ในรูปแบบที่เป็นอิสระต่อกัน สื่อถึง ความอิสระ สร้างสรรค์ และไม่หยุดนิ่ง โดยที่ยังคงโทนสีน้ำเงิน Royal blue แสดงถึงความหรูหรา โมเดิร์นของแบรนด์ไว้ โดยการออกแบบโลโก้ใหม่ครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ทันสมัย เพื่อให้โดนใจ ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อจากทุกเจเนเรชั่น
- การใช้สโลแกนใหม่ “Raimon Land – Luxury Reimagined” ซึ่งก็คือ แนวคิดใหม่ของความหรูเหนือระดับ นั่นก็การทำให้ความลักซ์ชัวรี่ เข้าถึงง่ายทันสมัย มีสไตล์มากยิ่งขึ้น
- การขยายฐานลูกค้าโดยชูกลยุทธ์แบรนด์ดิ้งใหม่ที่เรียกว่า Customer Centric หรือ การมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ในการทำงานและการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ที่คนรุ่นใหม่ใส่ใจและให้คุณค่าเป็นอย่างยิ่ง โดยสะท้อนผ่านแนวคิดขององค์กร (Core Value) ที่ว่า
1.) Customer Centric มุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก นำความต้องการ และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้ามาเป็นหลักสำคัญในการทำงานเสมอ
2.) Creative Centric ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในทุกส่วนงาน เพื่อสร้างความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ อันจะนำไปสู่ประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้า
3.) Value Centric สร้างคุณค่าที่เกินมูลค่าและความภาคภูมิใจในทุกโครงการ ด้วยคุณภาพ ความละเอียด และการบริการที่เป็นเลิศ เพื่อส่งมอบคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพและการบริการที่ดี ภายใต้แนวคิดลูกค้าคือศูนย์กลาง
ไม่เพียงเท่านี้ ทางบริษัท “ไรมอน แลนด์” ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของช่องทางการสื่อสารบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งเป็นสื่อหลักที่มีบทบาทและอิทธิพลในการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ โดยทางแบรนด์ได้เตรียมปรับโฉมเว็บไซต์ https://www.raimonland.com ทั้งการดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้ ให้ตอบโจทย์ความต้องการได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของช่องทางการติดต่อสื่อสารของแบรนด์ ที่จะช่วยขยายฐานลูกค้าเปิดประตูให้คนกลุ่มใหม่ๆได้เข้ามาเปิดประสบการณ์การเข้าถึงคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ได้ง่ายกว่าที่เคย อีกทั้งยังมีการวางแผนการทำงานโดยได้เชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันผ่านโมเดลธุรกิจ ที่เรียกว่า Offline 2 Online เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของบริษัทในอนาคต
ซึ่งการปรับเปลี่ยนแบรนด์ครั้งสำคัญนี้ทาง “ไรมอน แลนด์” เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะนำมาซึ่งมิติใหม่ของการทำงาน โดยคาดหวังที่จะสร้างความรู้สึกที่แตกต่างให้แก่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นในด้านภาพลักษณ์ใหม่ที่ชัดเจน โดนใจคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพคอนโดมิเนียมและบริการ โดยนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในทุกกระบวนการทำงาน และการบริการ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี สมดั่งกลยุทธ์ Customer Centric Organization ที่ได้วางไว้
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/pr/detail/76208