‘บ้าน-คอนโด’ กรุง เหลือกว่า 1.3 แสนยูนิต 5.3 แสนล้าน

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2559 ว่า ผลการสำรวจข้อมูลอสังหาริมทรัพย์กลางปี 2559 สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า โครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายล่าสุดมีอยู่ 1,077 โครงการ จำนวน 203,000 ยูนิต โดยมีหน่วยเหลือขายในตลาดประมาณ 77,900 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 340,150 ล้านบาท จากมูลค่ารวมประมาณ 900,000 ล้านบาท

ปัจจุบันสัดส่วนของทาวน์เฮ้าส์ มากกว่าบ้านเดี่ยว 2.8 เท่า ส่วนราคาบ้านจัดสรร พบว่า 15% มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท 26% ราคาในช่วง 2.01 – 3 ล้านบาท 35% อยู่ในช่วง 3.01 – 5 ล้านบาท และ 24% ราคาเกิน 5 ล้านบาท โดยพื้นที่ซึ่งมีหน่วยบ้านจัดสรรเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อ.บางบัวทอง อ.บางพลี อ.เมืองสมุทรสาคร อ.บางใหญ่ และอ.ลำลูกกา

สำหรับโครงการอาคารชุด ซึ่งอยู่ในระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีประมาณ 442 โครงการ รวมกันประมาณ 231,400 ยูนิต โดยมีหน่วยเหลือขายในตลาดประมาณ 59,700 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 181,100 ล้านบาท ซึ่ง 32% ของหน่วยห้องชุดทั้งหมดมีขนาดห้องไม่เกิน 25 ตร.ม. และ 36% อยู่ระหว่าง 26-30 ตร.ม. ที่เหลือเป็นห้องชุดที่มีขนาดห้องมากกว่า 60 ตร.ม.ส่วนราคา พบว่า 42% เป็นห้องชุดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท 28% อยู่ในช่วงราคา 2.01-3 ล้านบาท และ 16% เป็นช่วงราคา 3.01-5 ล้านบาท ที่เหลืออยู่ในช่วงราคาเกินกว่า 5 ล้านบาท ส่วนเขตหรืออำเภอที่มีหน่วยห้องชุดเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ธัญบุรี เขตจตุจักร และเขตบางซื่อ

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าภาพรวมการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในปี 2559 คาดว่าจะต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 หรืออยู่ที่ 94,000 ยูนิต ลดลงประมาณ 10 – 15% แต่เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่น่ากังวล เนื่องจากในปีนี้ผู้ประกอบการจะเน้นการระบายสินค้าในสต๊อกเดิมที่มีอยู่ในตลาดมากกว่า หลังได้รับผลดีจากการลดค่าธรรมเนียมการโอนในช่วงต้นปี และมั่นใจว่าในปี 2560 การเปิดตัวโครงการใหม่ จะกลับมาเป็นบวกได้ราว 10% หรือประมาณ 100,000 ยูนิต แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 60,000 ยูนิต และบ้านจัดสรร 40,000 ยูนิต เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐที่จะชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะได้รับผลดีจากการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางต่าง ๆ

สำหรับการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 1-2 ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าไม่ถึง 600,000 ล้านบาท เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ จากภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ตามในปีนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนในพื้นที่อีสต์เทิร์น อีโคโนมิก คอริดอร์ส ซึ่งจะช่วยให้ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทราเกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น มีแหล่งงาน ประชากรมีรายได้เพิ่ม ซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนในจังหวัดมีการเติบโตได้อย่างมาก โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี ซึ่งถือว่าเป็นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ โดยที่ผ่านมาพบว่ามีภาวะโครงการอสังหาริมทรัพย์เกินความต้องการติดต่อกันเป็นเวลานาน และจากแนวโน้มดังกล่าวทำให้โครงการที่เปิดการขายไปก่อนหน้านี้ถูกดูดทรัพย์ได้ในระดับหนึ่งด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก khaosod.co.th

                                                                                                                                           

Dot Property เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซื้อ-ขาย อย่างมืออาชีพ…

ท่านต้องการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่หรือไม่ ลงประกาศขายกับ Dot Property ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงประกาศง่าย ขายได้ไว
หรือหากท่านกำลังมองหา คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน เว็บไซต์ Dot Property มีให้ท่านเลือกมากกว่า 300,000 รายการ ได้ตรงตามความต้องการ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย