11 ถนนที่รถติดแบบบ้าพลังมากที่สุดเวลาฝนตก ในกทม.

จากข้อมูลจากทาง ทีมงานตลาดรถ Unseencar.com ที่ได้รวบรวม11 ถนนที่ รถติด แบบบ้าพลังมากที่สุด เวลาฝนตก เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลย

11 ถนนที่รถติดแบบบ้าพลังมากที่สุด เวลาฝนตก

1. ลาดพร้าว – วิภาวดีรังสิต

สำหรับถนนลาดพร้าว – วิภาวดีรังสิต นั้น เป็นหนึ่งในถนนที่รถติดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทางวิภาวดี ที่มีรถจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าสู่ต่างจังหวัด (สายเหนือ) หรือแม้แต่มุ่งหน้าสู่ลาดพร้าว ซึ่งถือเป็นถนนสายหลักที่มีรถสัญจรอยู่ตลอดเวลา หากขึ้นทางด่วนหรือโทลล์เวย์ก็จะสามารถย่นระยะเวลาการเดินทางไปได้บ้าง โดยเฉพาะเวลาเช้าไปจนถึงก่อนเลิกงาน นอกจากนี้ จากการดำเนินการก่อสร้างบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ต้องลดช่องทางการจราจรลง ยิ่งส่งผลให้การจราจรนั้นติดขัดมากขึ้นจากเดิมที่มีการจราจรหนาแน่นด้วยแล้ว ก็ยิ่งทวีความหนักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเวลาหลังเลิกงานและเวลาที่มีฝนตก อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 ที่จะถึงนี้ หลังจากที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ มุ่งหน้ากรมป่าไม้(มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน) เปิดให้บริการ อาจจะช่วยทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าว ลดความหนาแน่นลงได้บ้าง

2.รามคำแหง

ไม่เว้นแม้แต่ระแวกของถนนมุ่งหน้าเข้าสู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นหนึ่งในถนนที่หลายคนใช้เพื่อมาเปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่ลาดพร้าว โดยมาจากพัฒนาการ และสุขุมวิท โดยรถจะมาติดบริเวณทางตัดแถวรามคำแหง ซึ่งในขณะนี้ได้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม และมีการก่อสร้างที่ไม่ได้ปิดทางระบายน้ำ บวกกับการจราจรตามซอยรามคำแหงอีกหลาย ๆ แห่ง จึงยิ่งทำให้รถติดหนักมากขึ้น ยิ่งหากเป็นช่วงฝนตกด้วยแล้ว นอกจากจะมีการจราจรติดขัด ยังต้องเจอกับน้ำท่วมขังเนื่องจากการระบายน้ำที่ไม่ทัน ดังนั้น หากจะใช้เส้นทางนี้ อย่าลืมเผื่อเวลาในการเดินทางเอาไว้ด้วย เพราะเบื้องต้นการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้นกินเวลายาวนานถึงปี 2566 เลยทีเดียว และคาดว่าการจราจรจะติดแบบนี้อีกระยะหนึ่งเลยก็ว่าได้ จนกว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มจะแล้วเสร็จ และถนนที่ปิดเพื่อใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างจะเปิดให้บริการตามเดิม

3.พัฒนาการ – ศรีนครินทร์ – บางนา

ปิดท้ายด้วยถนนพัฒนาการ – ศรีนครินทร์ – บางนา ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนยอดฮิตที่แม้จะอยู่ชานเมือง แต่หากเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงาน และฝนตกด้วยแล้ว บอกเลยว่าติดหนักชนิดที่รอ 3 ชม. ถึงจะพ้นก็ว่าได้ อย่างเช่นช่วงขาเข้าสู่ 4 แยกบางนา ต่อให้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ฝนตกแต่ก็ทำเอารถติดนานเป็นอย่างมาก เพราะเป็นจุดที่มีศูนย์การค้าใหญ่อย่างไบเทคบางนาอยู่ หากช่วงใดที่มีการจัดงานใหญ่ ๆ ก็จะยิ่งทำให้รถติด ซึ่งไม่เพียงแต่ติดขัดจากรถที่มุ่งหน้าสู่ 4 แยกบางนา เท่านั้น แต่รวมถึงรถที่ออกจากไบเทคบางนา และรถบรรทุกที่ใช้เส้นทางนี้ด้วย เพราะฉะนั้น หากต้องใช้เส้นทางนี้ในยามที่ฝนตกหรือเลิกงาน แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงดีที่สุด โดยเฉพาะฝั่งขาเข้า ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องหลับรอรถเคลื่อนตัวกันเลยทีเดียว

4.สีลม – ศาลาแดง

สำหรับย่านสีลมนั้น ถือเป็นย่านที่รวบรวมแหล่งของกินเอาไว้มากที่สุดอีกโซนหนึ่งในกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้ จึงทำให้นักท่องเที่ยว และผู้คนต่างก็หลั่งไหลไปตามหาของอร่อย ๆ กิน ยังไม่นับรวมโซนท่องเที่ยว และแหล่งออฟฟิตที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองหลวงแห่งนี้ จึงทำให้มีผู้คนสัญจรไปมาตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนั้น หากเป็นช่วงเวลาฝนตกและเลิกงาน ก็จะมีสภาวะการจราจรที่ติดขัด ทั้งจากเหล่าพนักงานออฟฟิตที่เดินทางกลับ และเหล่าผู้คนที่เข้ามาท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้ง จึงทำให้การระบายรถนั้นลำบากตามไปด้วย ที่สำคัญ หากช่วงไหนที่มีน้ำท่วมจนระบายไม่ทันด้วยแล้ว การจราจรก็ยิ่งชะลอตัวมากตามไปด้วย ชนิดที่ว่าทำให้รถติดสาหัสเลยทีเดียว

5.ถนนประชาชื่น – ประชานุกูล

สำหรับถนนประชาชื่น – ประชานุกูล นั้น ถือเป็นสายถนนที่ติดแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ฝนตกกันเลยทีเดียว ซึ่งหากลองเปิดดูสภาพการจราจรในเวลาปกตินั้น ก็ยังคงความรถติดเอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยหลัก ๆ แล้ว รถจะติดช่วงแยกประชานุกูลเป็นหลัก เพราะมีรถจากถนนรัชดาภิเษกด้วย บวกกับสภาพถนนที่มีการซ่อมแซมเป็นประจำ เนื่องจากการถนนที่มีหลุมจากฝาท่อระบายน้ำที่ยุบตัวลงไป ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะบางครั้งผู้ใช้รถมักจะไม่ได้ชะลอรถทำให้ตกลงไปในหลุม บางคันอาจถึงขั้นเสียหายเลยทีเดียว แต่หากร้ายแรงขึ้นมาก็คือการเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลัก หรือยางแตก ไม่นับรวมรถที่มุ่งหน้าเข้าสู่รัชโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต ประชาชื่นขาออก และรถที่ลงจากทางด่วน ที่ทำให้รถติดหนักสะสมไปจนถึงถนนวงศ์สว่าง เพราะฉะนั้น หากวันใดที่ฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขังทุกช่องทาง รับรองว่ารถติดชนิดที่ไฟแดงหนึ่งอาจรอนานนับชั่วโมงเลยก็ว่าได้

6.ถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า แยกรัชโยธิน – ซอยรัชดาภิเษก

ถือเป็นสายถนนที่ติดแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ฝนตกกันเลยทีเดียว ถึงแม้อุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินจะเปิดให้บริการและสามารถระบายจำนวนรถลงไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้จำนวนการติดขัดของรถลดลงแต่อย่างใด โดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษกขาเข้า จากแยกรัชโยธิน เพื่อมุ่งหน้าไปแยกรัชดา-ลาดพร้าว และแยกสุทธิสาร – ห้วยขวาง นั้น มีการจราจรที่ติดขัดแบบสะสมเลยก็ว่าได้ และยิ่งเป็นถนนรัชดาภิเษกขาเข้าแยกประชานุกูล เพื่อไปถนนวิภาวดีรังสิตด้วยแล้ว บอกเลยว่าติดหนักหลายชั่วโมง และอย่าลืมว่า ถนนรัชดาภิเษกและแยกประชานุกูลนั้นเชื่อมต่อกัน ดังนั้น เมื่อถนนสองทางนี้มีสภาพการจราจรที่หนาแน่นเข้าด้วยกัน ก็ยิ่งทำให้การระบายรถทำได้ยาก และหากเป็นช่วงเวลาฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมาก ก็ยิ่งทำให้ไม่สามารถระบายรถได้ จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นหนึ่งในถนนที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งเวลาปกติและฝนตกเลยทีเดียว

7.บางรัก – สี่พระยา – พระราม 4

ถือเป็นหนึ่งในถนนที่หากฝนตกแล้วน้ำจะท่วมขังเป็นลำดับต้น ๆ ของกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะบริเวณหน้าไปรษณีย์บางรัก ยาวไปจนถึงแยกสามย่าน ตัดกับถนนพระราม 4 จะมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงถึงประมาณตาตุ่มกันเลยทีเดียว ซึ่งหากเป็นช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก รถรับจ้างวินมอเตอร์ไซต์ถึงขั้นต้องหยุดรับผู้โดยสาร เพราะไม่สามารถฝ่าถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงได้ แต่ข้อดีของถนนสายนี้คือ หากเป็นช่วงเวลาปกติที่ไม่มีฝนตกและน้ำท่วมขัง ก็จะมีสภาพการจราจรที่ค่อนข้างดี มีรถติดบ้างแต่ก็ไม่ได้ติดแหง็กนานนับชั่วโมง เพราะฉะนั้น หากใครที่จะสัญจรผ่านถนนเส้นนี้ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีฝนตกหนักจะดีที่สุด

8.เยาวราช – เจริญกรุง

หากนึกถึงของกินและแหล่งค้าขายที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าต้องไปซื้อของที่สำเพ็ง และแหล่งของกินที่เหล่าคนเมืองกรุงนิยมมากที่สุดอย่างเยาวราช ก็ต้องเดินทางผ่านถนนเส้น เยาวราช-เจริญกรุง อย่างแน่นอน ด้วยจำนวนพ่อค้าแม่ค้าทั้งในถิ่นและต่างถิ่นที่มาค้าขาย หรือแม้กระทั่งจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ถนนสายนี้รถติดแม้ในเวลากลางวัน บวกกับที่ตั้งที่ติดตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยแล้ว ก็จะต้องมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย ชาวต่างชาติ หรือแม้แต่คนในพื้นที่ที่ออกไปหาของอร่อย ๆ กินในช่วงเย็น จึงทำให้ถนนเส้นนี้รถติดหนักมากขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน แต่หากหลังสองทุ่มไปแล้วก็ถือว่าการจราจรคล่องตัวไปได้บ้าง แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่ฝนตก การระบายน้ำบริเวณนั้นต้องใช้เวลาในระดับหนึ่ง ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมาก เรียกว่าติดยาวไปจนถึงสำเพ็งเลยทีเดียว ที่สำคัญคือถนนเจริญกรุงนั้นมีถนนและซอยยิบย่อยที่เชื่อมต่อกันมากกว่า 100 ซอย จึงทำให้การจราจรติดขัดแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ฝนตกก็ตาม เพราะฉะนั้นหากใครที่จะเดินทางไปเส้นนี้ ต้องทำใจในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะหากไม่ใช่เวลาหลังสองทุ่มไปแล้ว ยังไงรถก็ติดอยู่ดี

9.อโศก – เพชรบุรี

สำหรับถนนสายอโศก – เพชรบุรี ที่ติดกับคลองแสนแสบ เรียกว่าเป็นหนึ่งในถนนยอดฮิตที่ติดอันดับการจราจรคับคั่งเลยทีเดียว แม้จะมีเรือด่วนให้บริการ แต่ก็ไม่ได้ทำให้การจราจรคล่องตัวแต่อย่างใด เพราะถนนระแวกนี้เป็นที่ตั้งของบริษัทหลาย ๆ แห่ง รวมถึงสถานศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย อาคาร GMM Grammy อาคาร 253 Asoke หรือแม้กระทั่งศูนย์การค้าอย่าง Terminal 21 เรียกได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งแหล่งอาศัยของผู้คนจำนวนมากเลยทีเดียว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนเส้นนี้รถติดเป็นอย่างมาก ยิ่งในส่วนของถนนทางฝั่งเพชรบุรีไปจนถึงรัชดาภิเษก (NEW CBD) เองก็มีการพัฒนาและก่อสร้างที่มากขึ้น ทั้งคอนโด สำนักงาน พื้นที่ค้าขาย ซึ่งเป็นการขยายตัวมาจากทางอโศก จึงทำให้มีรถเข้า – ออก อยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือ นับตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. เป็นต้นมา ลากยาวถึง 4 ก.ย. ได้มีการปิดซ่อมสะพานรถยนต์ข้ามแยกอโศก – เพชรบุรี จึงทำให้มีรถมารอเลี้ยวขวาที่แยกอโศกเพชรเป็นจำนวนมาก การจราจรเองก็ติดขัดตามไปด้วย กอปรกับช่องจราจรถนนเพชรบุรีขาออกมุ่งหน้าคลองตัน เหลือการจราจรไว้เพียง 2 ช่อง จึงทำให้มีการจราจรที่หนาแน่นมากตามไปด้วย และยิ่งหากฝนตกด้วยแล้ว การจราจรก็ติดชนิดที่แดงเถือกกันเลยทีเดียว

10.หน้าสวนจตุจักร ถนนพหลโยธิน ขาเข้า/ออก

เรียกว่าเป็นถนนสุดฮิตที่ติดชนิดที่ขยับไปไหนแทบไม่ได้เลยทีเดียว เพราะเป็นถนนที่มีการจราจรหนาแน่นทั้งขาเข้าและขาออก บวกกับการใช้รถไฟฟ้า BTS และ MRT จตุจักร ก็ยิ่งทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้นไปอีก เพราะถึงแม้จะมีผู้คนใช้รถไฟฟ้าบ้าง แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องขึ้นมาต่อรถเมล์และแท็กซี่เพื่อเดินทางไปถนนเส้นอื่น เช่น ลาดพร้าว วิภาวดีรังสิต บวกกับช่วง 5 แยกลาดพร้าว ที่ขณะนี้มีการก่อสร้างก็ยิ่งทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความลำบาก ยังไม่นับรวมคนที่ต้องการเดินทางไปเซนทรัลลาดพร้าว Unionmall เหล่าผู้คนจากสถานีขนส่งหมอชิตทั้งเข้าและออก (ช่วงถนนพหลโยธิน) หรือแม้แต่การเดินทางไปสนามบินดอนเมือง ก็ยิ่งทำให้สภาพของถนนไม่สามารถระบายจำนวนรถและคนได้ทัน สังเกตจากช่วงเวลาหลังเลิกงาน ช่วงเย็นของวันศุกร์ และช่วงเวลาที่ฝนตก ที่สภาพการจราจรนั้นย้ำแย่แบบสุด ๆ เลยทีเดียว

11.กรุงเทพ – นนท์

เริ่มต้นด้วยถนนสาย กรุงเทพ – นนท์ ซึ่งถือเป็นเส้นทางสายหลักที่ชาวกรุงเทพและชาวนนทบุรีใช้กันเป็นประจำ โดยถนนสายนี้ติดอยู่เขตบางซื่อ มีส่วนที่เชื่อมต่อมาจากแยกแคราย สามารถตัดเข้าสู่ติวานนท์ได้ ออกวงศ์สว่างได้ หรือแม้กระทั่งออกจากนครอินทร์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ที่สำคัญยังเป็นเส้นทางที่ชาวนนทบุรีสามารถใช้เดินทางเพื่อเข้ามายังกรุงเทพมหานครได้อีกด้วย จึงทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้น ไม่เพียงแต่ยามเลิกงานเท่านั้น แต่รวมไปถึงในยามที่ฝนตกด้วย เพราะถนนสายนี้มีระดับน้ำท่วมขังที่ถือว่าสูงในระดับหนึ่ง ชนิดที่หากจอดรถยนต์ไว้ก็คงจะต้องรอให้ระดับน้ำลดถึงจะใช้งานได้ เพราะไม่เช่นนั้น ระดับน้ำที่ท่วมขังจะเข้าสู่ห้องเครื่องรถยนต์จนทำให้ห้องเครื่องเสียหาย พอฝนเริ่มซาและน้ำลดระดับลง เหล่าคนที่กำลังจะเดินทางกลับบ้านก็จะหลั่งไหลออกมาพร้อมกัน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนสายนี้รถติดชนิดที่ขยับไปไหนไม่ได้หลายสิบนาทีเลยทีเดียว
สำหรับถนนที่รถติดยามฝนตกของกรุงเทพนั้น เรียกได้ว่าส่วนมากแล้วจะติดขัดอันเนื่องมาจากการก่อสร้างเป็นหลัก และรองลงมาคือเป็นแหล่งที่มีออฟฟิต แหล่งการค้า ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นแหล่งที่มีคนเดินทางทั้งเข้าและออกตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หากช่วงเวลาใดที่ฝนตก แนะนำว่าให้พยายามหลีกเลี่ยงการจราจรบริเวณดังกล่าวดีที่สุด หากมีรถไฟฟ้าบริเวณนั้นอาจจะเลือกใช้รถไฟฟ้าแทนรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเมล์ เพราะสามารถย่นเวลาการเดินทางลงได้อย่างเห็นได้ชัด หรือหากจำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว ควรที่จะวางแผนและเผื่อเวลาการเดินทางดีที่สุด เพราะจะได้ไม่ต้องไปนั่งในรถรอบนถนนให้เสียเวลา

ที่มา unseencar.com

บ้านว่างเจาะพื้นที่ น่าเป็นห่วง บ้านว่าง มากสุด ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คนซื้อบ้านใหม่พึงระวัง

มาเลเซีย

ความห่างชั้นระหว่าง  รถไฟ มาเลเซีย และ รถไฟไทย หลัง มาเลชิงเปิดตัวที่นั่งชั้นธุรกิจ “บิสซิเนส คลาส”

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก