สำหรับ ภาพรวมอสังหาฯ ในปี 2019 มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยหลายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่างทยอยออกกองทุนและทรัสต์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund & REIT) ทั้งในและต่างประเทศมากมายออกมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีระดับอัตราปันผลเฉลี่ยที่อยู่ในระดับดีกว่าเงินปันผลของหุ้น และแน่นอนว่าดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
สำหรับในปี 2020 นี้ หลายคนที่อยากจะเริ่มลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ คงจะมีคำถามในหัวแล้วว่าควรเลือกลงทุนใน กองทุนอสังหาฯ ตัวไหนดี? เรามาลองดูข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาพรวม ในปีที่ผ่านก่อนเริ่มลงทุนกันดีกว่า
กองทุนรวมอสังหาฯ ในปีที่ผ่านมา
ข้อมูลที่น่าสนใจจาก บลจ.กรุงไทย (KTAM) ระบุว่าภาพรวมของอัตราเงินปันผลของกองทุนและทรัสต์อสังหาฯ (REIT) ของไทย ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 22.00% และให้เงินปันผลเฉลี่ย 5.00% ต่อปี ในขณะที่ช่วง 3 ปีและ 5 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 13.30% ต่อปีและ 13.40% ต่อปี ตามลำดับ
ควรลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ ตัวไหนดี?
สำหรับในปี 2563 นี้ หากกำลังอยากรู้ว่าควรเลือกลงทุนกองทุนอสังหาฯ ตัวไหนดี แนะนำว่าควรเลือกกองทุนรวมอสังหาฯ ที่มีการลงทุนใน
ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะมีการเติบโตสูง โดยได้แก่ สำนักงานให้เช่า, โรงแรม, คอนโดมิเนียม และโรงงานและคลังสินค้า ด้วยเหตุผลดังนี้
กองทุนอสังหาฯ กลุ่มสำนักงานให้เช่า
สำหรับอสังหาริมทรัพย์กลุ่มอาคารสำนักงานให้เช่า ปัจจุบันมีอุปทานประมาณ 8.98 ล้านตารางเมตร โดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรดเอ ในทำเล CBD มีอัตราการเช่ามากกว่า 90% และมีอัตราค่าเช่าเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
กองทุนรวมอสังหาฯ กลุ่มโรงงาน
สำหรับกลุ่มประเภทโรงงานและคลังสินค้า บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มีการประเมินว่ากลุ่ม Induatrial RIETs น่าจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์สงครามการค้าโลก นอกจากยังยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าโครงการ EEC อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่อง
กองทุนรวมอสังหาฯ กลุ่มโรงแรม
สำหรับอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทการท่องเที่ยวและบริการที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และยังเป็นธุรกิจที่สามารถสร้าง GDP ให้กับประเทศได้สูง ในปี 2563 นี้ ในช่วงไตรมาสแรกยังมีสถานการณ์ที่ควรระวัง จากสถานการณ์โรคระบาด แต่คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป จะมีสถานการณ์ดีขึ้น
กองทุนรวมอสังหาฯ ประเภทคอนโดมิเนียม-อพาร์ตเมนต์
สำหรับการลงทุนที่น่าสนใจ คือกองทุนที่ลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาว (leasehold) ในที่ดิน อาคารที่พักอาศัยที่ประกอบด้วยเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ เนื่องจากการลงทุนในสิทธิการ (leasehold) มักจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนรวมอสังหาฯ มาเป็นกรรมสิทธิ์ (freehold) เนื่องจากได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง
5 กองทุนรวมอสังหาฯ ที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูง
ปีที่ผ่านมา หลายกองทุนมีการให้เงินปันผล โดยได้จัดอันดับกองทุนที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะลงทุนในกองทุนอสังหาฯ ตัวไหนดี
- TNPF : กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้ อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 20.81%
- POPF : กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 7.71%
- CPNCG : กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 7.67%
- URBNPF : กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 7.52%
- TTLPF : กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 6.88%
ทั้งนี้ยังมีกองทุนรวมอสังหาฯ ที่มีอัตราเงินปันผลต่อเนื่องที่น่าสนใจอีก 5 กองทุน ได้แก่
- BKKCP : กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 6.11%
- CPTGF : กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 6.22%
- CTARAF : กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือฯ อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 6.03%
- HPF : กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 6.77%
- QHPF : กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 6.76%
ทำความรู้จัก REIT หรือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์