มายุคนี้สมัยนี้ เป็นที่ประจักษ์กันอย่างชัดเจนแล้วว่า การเช่าอยู่ หรือซื้ออสังหาริมทรัพย์แนวดิ่งอย่างอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมิเนียม ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและไปกันได้ดีกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องเข้าใกล้ศูนย์กลางเมืองหรือ CBD ให้มากที่สุด แน่นอนว่าขั้นตอนการเลือกซื้อ การขอสินเชื่อ และการส่งมอบก็ดูจะเป็นอะไรที่วุ่นวายชวนปวดหัวพอแรงอยู่แล้ว แต่มันคงจะดี ถ้าคุณจะลองพิจารณาถึงองค์ประกอบ ‘ของแถม’ ปลีกย่อยเหล่านี้เพิ่มเติมกันสักนิด
//ระบบรักษาความปลอดภัย
ในที่นี้ เราไม่ได้หมายถึงแค่พี่ยามหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าทางเข้าเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงส่วนปลีกย่อยอื่นๆ เช่น กล้องวงจรปิด CCTV, ระบบคีย์การ์ด ไปจนถึงกระบวนการสกรีนคนเข้าออก ว่ามีความรัดกุมมากน้อยเพียงใด เพราะมันคงไม่สนุกแน่ๆ ถ้าประตูทางเข้าลิฟท์คอนโดฯ หรืออพาร์ทเมนต์จะมีคนแปลกทั่วไปหมุนเวียนไปมาอย่างหน้าตาเฉย หรือกลอนประตูแบบเก่าที่พร้อมจะถูกงัดแงะ อันตรายต่อสวัสดิภาพทางร่างกายและทรัพย์สินเมื่อใดก็ได้
//ที่จอดรถ
หลายคนอาจจะคิดว่า จะแคร์อะไรกับที่จอดรถ ยิ่งกับโครงการติดรถไฟฟ้าด้วยแล้ว แทบไม่มีความจำเป็น (และเชื่อเถอะว่าฝั่งเซลส์โครงการเองก็จะพูดประโยคเดียวกันนี้…) แต่สังเกตหรือไม่ว่า ทุกโครงการที่อยู่อาศัยแนวดิ่งในประเทศไทย ต้องมีการกันพื้นที่บางส่วนเอาไว้สำหรับที่จอดรถโดยเฉพาะ ยอมรับเถอะว่าประเทศไทยยังอีกไกลกว่าที่ระบบขนส่งมวลชนจะอยู่ในระยะที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนฮ่องกงหรือสิงคโปร์ เช่นนั้นแล้ว พิจารณาอัตราส่วนของที่จอดรถเอาไว้แต่เนิ่นๆ เพราะนั่นหมายถึงความสะดวกในระยะยาว รวมถึงราคาขายที่จะดีขึ้นถ้าคุณคิดจะปล่อยต่อ
//ฟิตเนสและพื้นที่ส่วนกลาง
ในข้อนี้ ต่อให้คุณไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิต Healthy รักสุขภาพ เราก็ขอให้คุณพิจารณาเสียตั้งแต่แรกที่เข้าไปพิจารณาเลือกซื้อ (หรือเช่า) ตั้งแต่ฟิตเนส สระว่ายน้ำ จนถึงพื้นที่ส่วนกลาง เพราะคุณภาพ ความสะอาด และการบำรุงรักษา มันสะท้อนว่านิติของโครงการนั้นๆ มีประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎระเบียบและลูกบ้านให้ความร่วมมือมากน้อยเพียงใด และพื้นที่ส่วนกลางที่ดี มันก็น่าใช้บริการไม่น้อย
//ทำเลที่ตั้ง
ฟังดูกำปั้นทุบดินไม่น้อย กับการที่เราจะบอกให้คุณพิจารณาทำเลที่ตั้ง ทั้งที่มันเป็นสิ่งแรกๆ ด้วยซ้ำที่อาจจะต้องดู แต่ในกรณีนี้ เราอยากให้คุณมอง ‘ทะลุโฆษณา’ กันสักหน่อย เพราะแม้ว่าอสังหาฯ ติดรถไฟฟ้า ทำเลศักยภาพ จะถูกปะเอาไว้เด่นหราขนาดไหน แต่ถ้าพื้นที่เหล่านั้น ห่างไกลลึกเข้าไปในซอยจนน่ากลัว หรือไม่มีแนวโน้มจะพัฒนา (เอาแค่ร้านสะดวกซื้อหรือวินมอเตอร์ไซค์ก็ได้) ต่อให้ทำเลดีขนาดไหน มันก็อาจจะไม่เหมาะเมื่อมองการใช้ชีวิตในระยะยาว (หรือใครที่เงินหนา จะใช้โอกาสนี้นำร่องการพัฒนาเปิดกิจการร้านค้าก็แล้วแต่สะดวก)
//Freehold หรือ Leasehold
ถ้าคุณเป็นเพียงผู้เช่า ข้ามข้อนี้ไปได้เลย แต่ถ้าคุณเป็นผู้เลือกซื้อคอนโดมิเนียม ปัจจัยนี้ถือเป็นโบนัสพิเศษ เพราะในปัจจุบัน ที่ดินสำหรับโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ นั้น มีลักษณะของการเช่าหรือ Leasehold ตามระยะเวลาสัญญาของผู้พัฒนาโครงการเสียเป็นส่วนใหญ่ นั่นหมายถึง เงินที่คุณจ่าย ไม่ได้รับประกันว่ายูนิตนั้นๆ จะเป็นของคุณจริงๆ (แม้ว่าระยะเวลามันจะยาวนานจนคุณลืมไปก็ตาม) ในแง่นี้ ถ้าคุณได้เจอคอนโดมิเนียมทำเลดี และเป็นลักษณะ Freehold ซื้อขาด แม้จะเป็นมือสองเก่าอายุสักหน่อย แต่การได้อะไรที่เป็นของเราจริงๆ นั้น มันก็ดูเข้าท่ากว่า หรือไม่จริง?
ทั้งหมดนี้ แม้ว่ามันจะอยู่ในการครอบคลุมของโครงการอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมิเนียม ‘เป็นส่วนใหญ่’ แต่เราก็อยากให้คุณละเอียดกับข้อปลีกย่อยเหล่านี้อีกสักนิด เพราะแม้จะเป็นเพียงข้อจุกจิก จนถึงไม่สลักสำคัญ แต่ก็อาจจะสร้างความต่างให้กับการใช้ชีวิตของคุณได้บ้าง ไม่มากก็น้อย