ใครที่กำลังมองหาคอนโดในย่าน New CBD อย่างย่านพระราม 9 รัชดาฯ ไปจนถึงลาดพร้าว ทำเล New CBD ที่นับวันจะยิ่งมี ‘มูลค่า’ สูงขึ้นทั้งในแง่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์และความต้องการจะมองข้ามโครงการนี้ไปไม่ได้เลยครับ
แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพ จึงตั้งใจออกแบบโครงการ “Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao” ให้เป็นอีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์ Whizdom ที่หลายคนคงจะคุ้นชื่อกันดี บนทำเลทอง ติด MRT สถานีลาดพร้าว ด้วยความสูง 27 ชั้น จำนวน 497 ยูนิต
1. ศักยภาพของทำเลย่าน ‘รัชดาฯ-ลาดพร้าว’
เมื่อพูดถึงการเลือกที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม แน่นอนว่า นอกจากตัวโครงการแล้ว สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการอย่าง ‘ทำเล’ เองก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็คาดหวังที่จะได้รับความสะดวกสบายที่สุดในทุกๆ ด้าน
ดังนั้น การเลือกที่อยู่อาศัยที่พรั่งพร้อมและตั้งอยู่ในพื้นที่ Prime Area คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับหลายๆ คน แน่นอนว่า ทำเลในย่านรัชดา-ลาดพร้าวคือ หนึ่งในทำเลที่ทั้งนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยเองต่างให้ความสนใจ เพราะนี่คือโซนแหล่งรวมของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่งกว่า 40,000 ตร.ม. แถมยังเดินทางเข้าถึงได้สะดวก เพราะสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ถนนลาดพร้าว : เชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธิน
ถนนสุทธิสารวินิจฉัย : เชื่อมต่อไปยังถนนวิภาวดี-รังสิต
ถนนรัชดาภิเษก : เชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 9 มุ่งสู่ย่านธุรกิจอย่างอโศก-พร้อมพงษ์-ทองหล่อ
นอกจากนี้ในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่รายล้อมทั้ง Central ลาดพร้าว, Big C Extra, Union Mall รวมถึงตลาดนัดกลางคืนอย่างสวนลุมไนท์ บาซาร์ และมี Gourmet Market ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับโลก ขนาด 2,300 ตร.ม. เปิดอยู่ภายใน MRT ลาดพร้าวคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนที่สัญจรไปมาอีกด้วย
2. อยู่ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย
จุดที่ทำให้คอนโด Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao โจทย์สำหรับคนยุคใหม่อีกหนึ่งเรื่องเลยก็คือ การที่มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT อย่างสถานีลาดพร้าว ทางออกหมายเลข 1 อยู่ติดกับโครงการ ในระยะ 0 เมตรเลยก็ว่าได้ ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก อีกทั้งยังสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปยังจุด Interchage ใกล้ๆ อย่างสถานีห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานี BTS สายสีเขียวต่อขยาย หมอชิต-คูคต ที่สร้างเสร็จเมื่อไม่นานนี้ได้ด้วย
นอกจากนี้ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง โดยบริเวณแยกรัชดาลาดพร้าวจะกลายเป็นจุดตัดระหว่าง BTS สายสีเหลือง ลาดพร้าว – สำโรง สถานีรัชดาภิเษก และ MRT ลาดพร้าว ซึ่งคาดว่าพร้อมเปิดให้บริการปี 2565 ที่จะถึงนี้
3. ดีไซน์ที่เน้นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao เป็นโครงการคอนโด High Rise ที่ผสานระหว่างความวินเทจและโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกัน จึงให้ความใส่ใจในเรื่องการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการออกแบบให้ตรงตามมาตรฐาน “สถาบันอาคารเขียวไทย” (Thai Green Building Institute) เช่น มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 46-60% ซึ่งช่วยบังแนวเสียงและฝุ่นละอองในอากาศที่จะพัดเข้าสู่ตัวอาคาร รวมถึงการประหยัดพลังงานและน้ำตรงตามมาตรฐานการอนุรักษ์พลังงานตามมาตรฐานสถาบันอาคารเขียวไทย (Energy and Environment) ระดับ GOLD
อีกทั้งใส่ใจการออกแบบพื้นที่ให้กับคนรุ่นใหม่โดยมีพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้สามารถนั่งทำงานได้อย่างเช่นบริเวณ Library ที่ชั้น 5 หรือบริเวณ Sky Lounge รวมถึงออกแบบให้สามารถใช้ชีวิตแบบ Work-Life Balance เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเน้นการออกแบบในเชิง Universal Design ที่ให้ทุกคนใช้งานได้เท่าเทียมกันได้อีกด้วย เช่น การออกแบบทางลาด บันได พื้นกันลื่น ปุ่มลิฟต์มีอักษรเบลล์ ฯลฯ
รายละเอียด Facilities ภายในโครงการ
- Grand lobby
- Drop-off area
- Sky infinity-edged Swimming pool (Jacuzzi and Kids pool)
- Fully equipment
- Fitness
- Sky Lounge
- Sky Terrace
- Sky Garden
- Library
- Laundry room
- 24 hours security guards & CCTV
- ความแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร
- การรั่วซึมของหลังคา
- งานระบบน้ำและไฟฟ้า
- การใช้งานประตูหน้าต่าง
ดังนั้น ผู้อยู่อาศัยจึงสามารถวางใจในเรื่องของการก่อสร้างและการซ่อมแซมที่ทางโครงการรับประกันให้ได้เป็นอย่างดี
4. การออกแบบห้องพักอาศัย
สำหรับการออกแบบห้องพักอาศัยนั้น เริ่มจากการวางผังของตัวอาคารที่ออกแบบมาให้วางอาคารตามตะวัน โดยการเอาฝั่งอาคารที่ยาวกว่าไว้ทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศเลี่ยงแดด และได้รับลมดี และยังเริ่มต้นส่วนชั้นพักอาศัยที่ชั้น 5 และจะมีระบบ Keycard Access ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและห่างไกลจากเสียงรบกวนได้มากขึ้นด้วย
แต่ทุกห้องจะมีจุดเด่นอยู่ที่การจัดวางพื้นที่ภายในห้องพักที่จะเน้นการดีไซน์แบบ Detail Design for Health ที่จะออกแบบมาให้สอดคล้องกับหลักสรีรศาสตร์ของมนุษย์ ซึ่งจะช่วยให้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวก ไม่อึดอัด ทั้งเรื่องของการวางตำแหน่งแสง เครื่องปรับอากาศ และมีการดีไซน์พื้นที่ให้เหมาะสมกับการวางเฟอร์นิเจอร์ด้วย
5. ความคุ้มค่า
พิเศษสุดกับราคา Exclusive price ทุกชั้นราคาเดียว เริ่มต้นที่ 3.3 ล้านบาท เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมในย่านรัชดาฯ-ลาดพร้าวที่เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในราคาที่เอื้อมถึง หากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด