DotProperty.co.th

7 สัญญาณ โอกาสธุรกิจ ปี 2563 ของบริษัทอสังหาในไทย

             แม้เวลากำลังจะย่างก้าวเข้าสู่ไตรมาสสอง 2563 แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกยังไม่พ้นจุดวิกฤต เพราะนอกจากพิษเศรษฐกิจและสงครามการค้าที่ทิ้งทวนมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว โลกก็เหมือนเจอกับคลื่นยักษ์สึนามิแบบ Aftershock จากเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ Covid-19

สำหรับผู้ประกอบการและบริษัทอสังหาเอง ช่วงนี้ถือว่าต้องประคับประคองสติไปพร้อมๆ กับการบริหารจัดการอย่างรอบคอบและรัดกุม เพราะนอกจากจะต้องประเมินสถานการณ์ให้แม่นยำแล้ว ยังต้องคอยมองหาช่องทางสำหรับการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เพื่อการต่อยอด โอกาสธุรกิจ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง

 

ย้อนดูบทเรียนการสร้าง โอกาสธุรกิจ จากวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา

แม้สถานการณ์ในปี 2563 นี้จะดูเป็นฝันที่ไม่สดใสเท่าไรนักสำหรับผู้ประกอบการ แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ล้วนหวั่นเกรงฝันร้ายจากวิฤตการณ์ต้มยำกุ้งในปี 2540 มากกว่า เนื่องจากในช่วงนั้นภาคอสังหาริมทรัพย์เหมือนโดนตบหน้าด้วยพิษเศรษฐกิจและฟองสบู่ไปตามๆกัน อีกทั้งยังถูกตราหน้าว่าเป็นต้นเหตุจนทำให้เกิดเหตการณ์ฟองสบู่แตกอีกด้วย

เหตุการณ์ที่ถูกจารึกให้เป็นบทเรียนราคาแสนแพงอย่างวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลางต้องรับภาระหนี้สินก้อนใหญ่จนสุดท้ายต้องปิดกิจการลง อนุสรณ์ที่เห็นจะชัดที่สุดก็คงจะเป็นโครงการ สาทร ยูนีค ที่เหลือเพียงแต่ภาพตึกร้างให้คนกรุงเทพฯ ได้ระลึกถึงวิกฤตครั้งนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีการปรับตัวโอนแอ่นตามกระแสเศรษฐกิจและสามารถก้าวข้ามวิกฤตการณ์มาได้ ก็มีการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส อาทิ บมจ.แอล.พี.เอ็น ที่มีการปรับตัวโดยเลือกขายทรัพย์สิน รวมทั้งที่ดินออกไป เพื่อสร้างกระแสเงินหมุนเวียน นอกจากนั้นยังลดจำนวนพนักงาน และเร่งก่อสร้างโครงการให้เสร็จภายใน 1 ปี เพื่อดึงกระแสเงินกลับเข้ามาในบริษัท

ในขณะเดียวกัน บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บมจ.มั่นคงเคหะการ เลือกใช้กลยุทธ์บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาจากลูกค้าในช่วงสถานการณ์อ่อนไหว โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อพร้อมโอน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระดอกเบี้ยของบริษัท

 

วิกฤตปี 2563 จะสามารถสร้าง โอกาสธุรกิจ ได้หรือไม่?

สถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่า มีทีท่าว่าจะกระทบยาวไปถึงไตรมาสสาม ปี 2563 ซึ่งมีการคาดการณ์ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลอดทั้งปี 2563 นี้ว่าจะมีการเหยียบเบรคเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลงถึงร้อยละ 50 หรือประมาณ 50,000 – 58,000 หน่วย เห็นได้จากบริษัทอสังหาระดับมหาชนหลายบริษัท เริ่มออกมาผ่อนคันเร่งในการดำเนินการตามแผนธุรกิจปี 2563 ที่ออกมาแถลงในช่วงต้นปีแล้ว สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์และที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน คาดการณ์ว่าจะติดลงถึงร้อยละ 30 หรือประมาณ 78,000 หน่วยเลยทีเดียว (ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ : REIC)

โดยหากพิจารณาจากสินค้าคงเหลือจากปี 2562 ที่ประมาณ 58,0000 หน่วย ประกอบกับการคาดประมาณตัวเลขโครงการใหม่ 50,000 หน่วยในปี 2563 นี้ อาจทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ กลับเข้าสู่ภาวะสมดุลของ Natural Demand ซึ่งประมาณ 1% ของจำนวนประชากรในกรุงเทพฯ และอาจทำให้การระบายสินค้าคงเหลือในปีต่อๆไปมีสภาพคล่องมากขึ้น

แม้ไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่าปี 2563 จะผ่านพ้นไปอย่างง่ายดาย เนื่องจากประสบคลื่นลมอุปสรรคหลายระลอก ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจถดถอย เศรษฐกิจโลกชะลอตัว มาตรการกำกับสินเชื่อ ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง การบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และล่าสุดวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นใจและกำลังซื้อของผู้บริโภค เกิดการชะลอตัวของนักลงทุนชาวต่างชาติ ทำให้ผู้ประกอบการต้องลุกขึ้นมาปรับตัวกันขนานใหญ่

 

7 กลยุทธ์การปรับตัวพลิกวิกฤตสร้าง โอกาสธุรกิจ ปี 2563

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิก