วันนี้เรามี ประสบการณ์ที่อยากมาแชร์ให้ท่านผู้อ่านที่กำลังจะ ซื้อคอนโด สำหรับอยุ่อาศัย เพื่อให้สามารถเตรียมตัวรับมือในเรื่องของปัญหาของคอนโดต่างๆที่อาจจะต้องเจอ โดยประสบการณ์ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ตรงจากคุณ สมาชิกหมายเลข 1417673 ที่มาแชร์ถึงปัญหาที่เจ้าตัว ซื้อคอนโดผิดคิดจนตัวตายที่มีปัญหา เรื่องราวไม่จบไม่สิ้น โดยสาเหตุต่างๆเกิดอะไรขึ้นเราไปหาคำตอบกันเลย
ซื้อคอนโดผิดคิดจนตัวตาย (รีวิว) การซื้อคอนโดที่แถมเรื่องราวมาให้ไม่จบไม่สิ้น BY คุณ สมาชิกหมายเลข 1417673
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมขอมาเล่าประสบการณ์การซื้อคอนโดแรกในชีวิตของผม ที่ดูเหมือนจะดี แต่กลับตาลปัตรจนปวดหัวแล้ว ปวดหัวอีก อยากจะขายทิ้งซะให้มันจบๆ แต่ก็ติดเงื่อนไขหลายๆ อย่าง มาเริ่มกันเลยครับ ผมเริ่มมองหาคอนโดมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 60 จนปลายๆ ปี 61 โดยมีเงื่อนไขที่ผมตั้งไว้คือ
- ต้องไม่ห่างจากที่เดิมที่เช่าอยู่มาก นั่นคือแถวๆ ราชเทวี
- ราคาต้องไม่แพงมาก
ผมสนใจคอนโดเก่าอยู่โครงการหนึ่ง ตรงต้นๆ ถนนเพชรบุรี สอบถามเซล เซลแจ้งว่าห้องขนาดที่ต้องการหมดแล้ว และเสนออีกโครงการให้ ที่พึ่งสร้างเสร็จหมาดๆ โดยตั้งอยู่ในแนวถนนเพชรบุรีช่วงตั้งแต่แยกราชเทวีไปจนถึงแยกประตูน้ำ ผมจึงตัดสินใจไปดู แล้วพบว่าเรื่องทำเลที่ตั้งค่อนข้างโอเคมากๆ สามารถเดินไปบีทีเอสราชเทวีได้เกือบจะเหนื่อยพอดี ตัวอาคารภายนอกออกแบบได้ค่อนข้างดี (ผิดกับข้างในที่เจอแต่ปัญหา)
หลังจากเซลทำให้ผมสนใจโครงการนี้ได้แล้ว เซลจึงพาไปดูส่วนกลาง และติดต่อกับเจ้าของห้องที่จะขาย (ผมใช้เซลนอกนะครับ เนื่องจากเซลในโครงการได้ราคาแพงกว่ากันเยอะ) คุยกันไปสักเกือบเดือนจึงตัดสินใจซื้อ คอนโดที่คิดว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยได้อย่างสงบ เป็นของเราจริงๆ เสียที หลังจากทำเรื่องกู้ผ่าน จนถึงการตรวจรับห้อง ปัญหาแรกเริ่มเกิดทันทีครับ โดยที่ผมเข้ามาตรวจ defect ห้อง แล้ว จนท. โครงการบอกว่าไม่ให้ผมตรวจเพิ่ม จะแก้ไขแค่จุดเดิมตามที่เคยตรวจไว้จากเจ้าของคนเดิมเท่านั้น (ด้วยวาจาและกิริยาที่ไม่สุภาพมากๆ รวมถึง ผจก. นิติบุคคลที่มาดูเรื่องด้วย) ผมแจ้งว่าในสัญญาจะซื้อจะขายระบุให้แก้ไขได้ถ้าหากพบ defect ที่ไม่ได้เกิดจากตัวผมเอง และสามารถใช้ประกันตามช่วงเวลาที่กำหนดได้ ทางนั้นเริ่มเสียงอ่อนลง แล้วเดินหนีไป ผมเลยถามว่าทำแบบนี้กับลูกค้าได้จริงๆ เหรอ ขอโทษสักคำก็ไม่มี
จากนั้นเค้าก็มาดำเนินการแก้ไขให้บางส่วน จนเกือบเรียบร้อย เว้นแต่บางอย่างที่สร้างผิดไปจากแบบเดิม ซึ่งพอผมได้แปลนห้องมาและตรวจพบว่าไม่ตรงตามแปลน (แปลนโฆษณา แปลนส่งมอบห้อง และแปลนระบบสาธารณูปโภคไม่ตรงกันสักแปลน) ผมส่งเรื่องขอเอาประกันแก้ไข แต่ปรากฏว่าไม่มีการตอบรับเรื่องกลับมา จนกระทั่งต้องยื่นเรื่องต่อ สคบ. ถึงจะดำเนินการ (แต่ตอนนี้ก็ยังรอคำตอบครับ ผ่านมาได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว) ในส่วนเรื่องของผมคงจบแต่เพียงเท่านี้ แต่! ยังมีเรื่องส่วนกลางคอนโดอีกมากมายที่ยังไม่จบจนถึงทุกวันนี้ครับ
เริ่มจากการนัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งแรก ของเจ้าของร่วม เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดนล้มการประชุม ทั้งที่เหตุการณ์วันนั้นเรียกได้ว่าประชุมจนเสร็จ ขาดแต่ผล แนนเท่านั้น แต่เจ้ากรรม บริษัทที่ทำนิติบุคคลหายเรียบตอนช่วงบ่าย จนการประชุมไม่ทราบ แนน แล้วลูกบ้านต้องหอบเอาเอกสารไปลงบันทึกประจำวันด้วยตนเองว่าเกิดออะไรขึ้นในวันนั้น
ช่วงหลังจากวันนั้นมา คอนโดที่พึ่งสร้างเสร็จไม่ถึงปี เสมือนคอนโดร้าง ไฟไม่เปิด รปภ. มีคนเดียว ไม่มีใครเข้ามาทำงานในนิติ ลูกบ้านก็ได้ข่าวมาว่านิติก็ไม่มีเงินบริหาร เพราะโครงการไม่ให้มา (ตอนโอนเงินต่างๆ ที่ที่ดิน จะไม่ได้โอนเข้าในนามนิติบุคคล แต่จะโอนเข้าเจ้าของโครงการ ตรงนี้พึ่งมาเอะใจตอนหลังครับ) แถม air bnb ระบาดในคอนโดทุกวัน มีชาวต่างชาติเข้ามาไม่ซ้ำหน้า บางคนว่ายน้ำตัวเปียกๆ ก็ไปนั่งโซฟาในห้องนั่งเล่นต่อ สุดท้ายก็เป็นคราบขัดไม่ออก
จนสักพักก็เริ่มส่งทีมนิติใหม่มาดูแล คอนโดก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาได้สักแปป ก็สั่งให้มีการจัดประชุมสามัญใหม่ โดยอ้างเหตุว่าลูกบ้านวุ่นวายครั้งที่แล้ว ทำให้การประชุมไม่สามารถต่อได้ โดยวันที่จัดประชุม มีห้องลูกบ้านไปจริงๆ ไม่ถึง 10 ห้อง มีแต่ห้องชื่อของโครงการทั้งนั้น มติต่างๆ ก็ผ่านไปโดยง่ายเพียงครึ่งวัน ไม่เหมือนรอบที่ลูกบ้านมากันเอง หลังจากนั้นลูกบ้านก็ไปยื่นจดทะเบียนต่อกรมที่ดิน ฝั่งโครงการเองก็ไปยื่นจด งงแล้วงงอีกว่าทำไมไปจดซ้อนกัน 2 ที แล้วที่ดินจะเอายังไง
ในส่วนของความเป็นอยู่ หลังจากทีมนิติใหม่เข้ามาก็ดีขึ้นครับ แต่ปัญหาเดิมๆ ก็ยังมี เช่น ลิฟท์เสียรายวัน บางคนถึงขนาดลงไปไม่ได้เป็นวันๆ ท่อน้ำแตกท่วมชั้นนึงไปเลยก็มี หรือการขอเปลี่ยนชื่อมิเตอร์ไฟก็ยังไม่เป็นชื่อลูกบ้านซะที
แต่ล่าสุดไม่รู้ทำไม ก็เปลี่ยนทีมนิติไปอีกแล้ว พร้อมออกเชิญประชุมวิสามัญโดยมีวาระคือ
- ถอดถอนกรรมการชุดแรก จากการประชุมครั้งแรก
- รับรองการประชุมครั้งหลัง
ทีนี้ในฐานะลูกบ้าน ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรมันไม่จบไม่สิ้นสักที ได้คอนโดทำเลดีมา แต่ก็เหมือนได้ทุกข์แสนสาหัสมาด้วยไม่น้อย เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนมาขออาศัยเค้าอยู่ จนอยากจะย้ายออกแล้วย้ายออกอีกลูกบ้านคนอื่นๆ ที่ทนไม่ไหว ขายไปบ้างแล้วก็มี ให้เช่าไปแล้วก็มี เซ็งจริงๆ ครับ บอกได้เลยว่าซื้อคอนโดผิด คิดจนตัวตายจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากคุณ สมาชิกหมายเลข 1417673
แชร์ประสบการณ์ ซื้อคอนโด 50 กว่าล้านบาทในฮ่องกง แล้วจะเข้าใจทำไมชาวจีนถึงแห่มาซื้อคอนโดที่ไทยแทน
แชร์ประสบการณ์ตรงโดน เทศบาล โกง เสียที่ดินในโฉนดครึ่งนึงให้ไปฟรีๆ