ปลดล็อก LTV-มาตรการ พยุงเศรษฐกิจ อานิสงส์ตลาด บ้านมือสอง หวังระบายทรัพย์ NPA 1.4 แสนล้านปัจจุบันตลาดบ้านมือสองปรับตัวดีขึ้น หลังจากมีปัจจัยใหม่ๆที่เอื้อต่อการซื้อและการลงทุน นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดบ้านมือสองว่า สถานการณ์โดยรวมของตลาดที่อยู่อาศัยปี 2562 มีหลายประเด็นกดดัน
แต่การที่รัฐบาลใหม่เตรียมนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากวงเงิน 3.1 แสนล้านบาท มาใช้พยุงเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดจะช่วยดึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้กลับมาดีขึ้นได้ ประกอบกับการลงทุนขยายโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มเส้นทางรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ย่อมช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินชะลอตัวปรับลดลง ทำให้ซัพพลายทั้งเก่าและใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดมีราคาลดลงด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านมือสอง เนื่องจากทำเลถูกครอบคลุมมากขึ้นกว่าอดีต
เทกระจาด บ้านมือสอง 1.4 แสนล้าน รับมาตรการปลดล็อกผู้กู้ร่วม
ทั้งนี้ จากตัวเลขประมาณการของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คาดในปี 2562 จะมีบ้านมือสองในกรุงเทพฯปริมณฑลที่จะโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งสิ้น 6.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของจำนวนที่อยู่อาศัยที่จะโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดในปีนี้ ส่วนมูลค่าคาดอยู่ที่ 1.43 แสนล้านบาท ประมาณ 30% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งตลาดที่ 5 แสนล้านบาท แม้จะเป็นจำนวนหน่วยที่ลดลงจากปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 7.2 หมื่นหน่วย แต่นับว่าเป็นสัดส่วนที่สำคัญมากต่อภาคที่อยู่อาศัยไทย สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และภาวะตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น
ขณะเดียวกัน เห็นด้วยกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมปรับลดเงื่อนไขหลักเกณฑ์การควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) โดยผ่อนปรนให้กับผู้กู้ร่วม รวมถึงมาตรการรัฐ ที่ส่งเสริมให้สิทธิ์ลดหย่อนค่าโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% เป็นระยะเวลา 1 ปี (สิ้นสุด 23 มิ.ย. 63) เพราะเป็นผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก โดยเฉพาะทรัพย์สินรอการขายของธนาคารพาณิชย์ (NPN) ที่มีการบังคับคดีเสร็จสิ้นแล้ว ครอบคลุมกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม หลากหลายระดับราคา พบในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มีมูลค่ารวมมากถึง 9.25 หมื่นล้านบาท ขณะที่ NPA ที่อยู่ในมือบริษัทบริหารสินทรัพย์อีกราว 4 หมื่นล้านบาท รวมทั้ง 2 ส่วน มีมูลค่าเกือบ 1.4 แสนล้านบาท ที่จะได้อานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวด้วย
“ปลดล็อกผู้กู้ร่วม ช่วยทั้งตลาดบ้านใหม่และบ้านมือสอง เพราะเดิมคาดสัดส่วนผู้กู้ร่วมมีสูงถึง 20% ที่ต้องแบกภาระ 2 ทาง การผ่อนคลายดังกล่าว นอกจากเอื้อธนาคารให้ปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้นในภาวะความเสี่ยงที่ลดลงแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อคนซื้อ คนขายแล้ว ยิ่งบ้านมือสอง ทรัพย์ NPL ราคาถูก ภาระการผ่อนไม่มากเท่ามือหนึ่ง ยิ่งเป็นโอกาส” นายกิตติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกิตติ ยังกล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดบ้านมือสองอีกทาง รัฐบาลควรเปิดช่องยกเว้นภาษีให้กับผู้ซื้อ NPA หลังแรกในราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขอหักลดหย่อนภาษีภายหลังตามหลักเกณฑ์เดิมที่มี เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มบ้านมือสองมีราคาที่ต่ำกว่าบ้านใหม่ 30-50% จึงคาดว่าบ้านมือสองจะเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ทั้งในการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือ ซื้อลงทุนในราคาที่ถูกกว่า
ทั้งนี้ สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เตรียมจัดงานมหกรรมบ้านมือสองและสินเชื่อแห่งปี 2562 โดยรวบรวมทรัพย์สินรอการขายทั้งที่เป็นของธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ รวมถึงโครงการของรัฐ เช่น บ้านประชารัฐ, บ้านผู้สูงอายุ นับรวมมากกว่า 2 หมื่นรายการ ครอบคลุมหลายทำเลและระดับราคาเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค คาดจะเกิดยอดขายภายในงานประมาณ 3 พันล้านบาท และมียอดขายต่อเนื่องหลังงานทะลุ 1 หมื่นล้านบาท หลังจากขณะนี้มีผู้สนใจทรัพย์ดังกล่าวลงทะเบียนเข้าร่วมงานแล้วกว่า 1 พันราย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าวดี ธอส. เตรียมปล่อย สินเชื่อบ้าน 203,000ล้านบาท สานฝันผู้มีรายได้น้อย
กระทรวงมหาดไทย ใหม่ งบกระโดด จาก 3,735 พันล้านเป็น 6,600 ล้าน คาดที่ดินโดยรอบเตรียมขึ้นอีกหลายเท่าตัว