กรมธนารักษ์ จ่อยกเว้นค่าเช่าที่ดิน อุ้มผู้ประกอบการรายเล็กและใหญ่

การเก็บสำรองกระแสเงินสดไว้ในมือให้มากที่สุดและการลดค่าใช้จ่าย กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในเวลานี้ ทำให้กรมธนารักษ์ แลนด์ลอร์ดเบอร์ใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ก็ได้มีการปรับลดอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ เพื่อประคองสถานการณ์ทางการเงิน เป็นการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไปอีกทาง โดยได้มีการเร่งให้ ลดและเว้น ค่าเช่าที่ดินราชพัสดุ และเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย

เล็งลด-เว้นอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ภายในเดือนตุลาคมนี้

นายยุทธนา หยิมอารุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้พูดถึงการพิจารณาในการปรับลดอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ จากภาคเอกชน บนที่ดินราชพัสดุ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 โดยให้ข้อมูลว่าจะเร่งสรุปการปรับลดค่าเช่าที่ดินราชพัสดุให้กับภาคเอกชนรายใหญ่กว่า 10 ราย ซึ่งแต่ละรายจะได้รับการปรับลดอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการดำเนินธุรกิจและประเภทผลกระทบที่ได้รับ

สำหรับเกณฑ์การพิจารณาการปรับลดอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์นั้น กล่าวว่าจะพิจารณาคาบคู่ไปกับงบดุลที่เอกชนแต่ละแห่งได้เสนอข้อมูลมาให้ โดยจะกำหนดอัตราค่าเช่าที่ดินราชพัสดุที่มีความเหมาะสมมากที่สุด โดยในระหว่างนี้เอง กรมธนารักษ์จะเลื่อนการจัดเก็บอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ออกไป โดยค่าเช่าที่ต้องจ่ายภายในปีนี้จะถูกเลื่อนไปเป็นปีหน้า และยังมีการยกเว้นค่าปรับ 1.5 เท่าด้วย

สำหรับอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ที่มีการปรับลดนั้น นายยุทธนา หยิมอารุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า จะพิจารณาจากผลกระทบของแต่ละแห่งที่แตกต่างกันออกไป โดยจะไม่ได้มีการปรับลดถึง 50% ทุกราย ซึ่งจะมีเกณฑ์การพิจารณาจากการตรวจสอบงบดุลและการคำนวณรายได้ โดยจะแจ้งไปยังภาคเอกชน และจะมีการยืดเวลาการชำระค่าเช่าของปี 2563 ไปเป็นปี 2564 และยังเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถทำการผ่อนชำระอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ได้ด้วย นอกจากการปรับลดอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ให้กับภาคเอกชนรายใหญ่กว่า 10 รายแล้ว กรมธนารักษ์ยังมีการพิจารณายกเว้นการจัดเก็บค่าเช่าทั้งหมดให้กับภาคเอกชนรายเล็กด้วย โดยเฉพาะเอกชนรายเล็กที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งขาดรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 100% โดยมีภาคเอกชนรายเล็กที่จะดำเนินการช่วยเหลือจำนวนประมาณกว่า 100 รายด้วยกัน

ยืนยันการปรับลดอัตราค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ แม้กระทบการจัดเก็บรายได้มากกว่า 3,000 ล้านบาท

การปรับลดค่าเช่าที่ดินในที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ เป็นหนึ่งในมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ที่เป็นการอุ้มผู้ประกอบการไทยทั้งรายเล็กและรายใหญ่ โดยนายยุทธนา หยิมอารุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่ามาตรการลด-เว้นค่าเช่าที่ดินในที่ราชพัสดุนี้ จะทำให้การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2564 นั้นได้รับผลกระทบมากกว่า 3,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเป้าการจัดเก็บรายได้จากที่ดินราชพัสดุในปีงบประมาณ 2564 ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทเช่นเดิม นอกจากนั้นนายยุทธนา หยิมอารุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ยอดการจัดเก็บรายได้ของกรมธนารักษ์ของปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านม ซึ่งมีการจัดเก็บรายได้ 11 เดือน มียอดจัดเก็บรายได้ไปแล้ว 10,300 ล้านบาท และคาดประมาณว่าทั้งปีงบประมาณ 2563 นี้จะสามารถจัดเก็บรายได้กว่า 10,5000 ล้านบาท ทำให้ถึงแม้การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2564 จะได้รับผลกระทบไปประมาณ 3,000 ล้านบาท ก็ยังถือว่าสามารถประคองสถานการณฺได้ เพราะสามารถช่วยอุ้มภาคเอกชน ทั้งผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรมากกว่า 100,000 ครัวเรือน หรือประมาณ 400,000 – 500,000 ราย

นอกจากมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ที่เป็นการลด-เว้นค่าเช่าที่ดินในที่ราชพัสดุแล้ว กรมธนารักษ์ยังเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้กับผู้เช่าที่ดินในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร เขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย และเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก พร้อมขยายระยะเวลาเช่าที่ดินจาก 30 ปี เพิ่มเป็น 50 ปี โดยได้รับการยกเว้นค่าเช่าในช่วง 2 ปีแรก ซึ่งจะชำระเพียงค่าธรรมเนียมอย่างเดียว เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์เชิงเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ แต่ยังไม่มีผู้สนใจลงทุนมากนัก และเชื่อว่าการออกสิทธิประโยชน์เช่นนี้ จะสามารถจูงใจภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะสามารถวางแผนการลงทุนในระยะยาวได้

ที่มา :
– https://www.prachachat.net/finance/news-524684