ในยุคที่เทคโนโลยีต่างๆ ก้าวทันกันได้โดยไม่ยาก หนึ่งในเครื่องมือที่เจ้าของสินค้าใช้ในการสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งนั่นก็คือ กลยุทธ์ทางการตลาด ยิ่งในยุคนี้ยุคที่ใครๆ ก็ยกให้เป็นยุคโซเชียลมีเดีย การตลาดโซเชียลมีเดีย จึงก้าวเข้ามามีอิทธิพลต่อสินค้าและบริการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีความเกี่ยวพันสูง หรือ High Involvement ที่ผู้บริโภคมักศึกษาข้อมูลและใช้ความคิดไตร่ตรองค่อนข้างมาก อาทิ บ้าน และ อสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเมื่อซื้อแล้วหากเกิดข้อผิดพลาดจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในระยะยาวได้ การเข้าถึงและสร้างความผูกพันที่ลึกซึ้งกับผู้บริโภคในทุกมิติจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ต่างให้ความสำคัญ อย่างกลยุทธ์ social media marketing ใหม่ล่าสุดจากค่าย ‘แสนสิริ’ ที่ได้สร้างความฮือฮาสั่นสะเทือนวงการอีกครั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราลองมาดูกันว่ามีที่มาและความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
การตลาดโซเชียลมีเดียได้เริ่มเข้ามามีบทบาทกับคนไทย โดยเริ่มจากกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา และคนทำงาน จนแพร่กระจายไปสู่ผู้บริโภคในทุกกลุ่ม อีกทั้งประเทศไทยเองตามสถิติล่าสุดก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีผู้นิยมใช้“โซเชียลมีเดีย” เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และจนมาถึงล่าสุดที่สร้างกระแสความร้อนแรงให้กับสังคมออนไลน์อีกครั้งนั่นก็คือกระแสความนิยมใน Clubhouse โซเชียลมีเดียน้องใหม่ที่แม้แต่แบรนด์ใหญ่อย่าง “แสนสิริ”ก็ไม่พลาดที่จะโดดเข้าร่วมวงเพื่อแชร์ข้อมูลผ่าน กลยุทธ์ social media marketing ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
เพราะ “วิกฤติโควิด-19” ที่เกิดขึ้นนี้ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมหันมารับข้อมูลข่าวสารและคอนเทนท์ต่างๆ ผ่าน “โซเชียลมีเดีย” เพิ่มมากขึ้นเพราะต้องการรักษาความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับบรรดาญาติสนิทและเพื่อนที่ต้องเว้นระยะห่างทางกายภาพตามนโยบายลดการแพร่กระจายเชื้อ
กลยุทธ์ X + ซีอีโอแบรนด์ดิ้ง แผนพลิกเกมของแสนสิริ
แผนการสื่อสารที่แบรนด์แสนสิริ เลือกใช้ในครั้งนี้ ก็คือกลยุทธ์ X + ซีอีโอแบรนด์ดิ้ง ที่เป็นการดึงเอา “ซีอีโอ-เศรษฐา ทวีสิน” ในฐานะ “อินฟลูเอนเซอร์” หรือ ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียลที่มีผู้ติดตามใน Twitter เป็นจำนวนมาก เข้ามาร่วมในการสร้างแบรนด์ในครั้งนี้ ด้วยการสื่อสารผ่าน กลยุทธ์ social media marketing ในรูปแบบใหม่ล่าสุดอย่าง Clubhouse แพลตฟอร์มที่มีความน่าสนใจ กำลังอยู่ในกระแส และถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่แบรนด์จะสามารถเข้าไปโชว์ถึงความจริงใจในการทำธุรกิจกับคอนซูเมอร์ได้ โดยการให้ผู้บริหารของทางแสนสิริได้เข้าไปคุยเรื่องคอนโดมิเนียม การปล่อยเช่า รวมถึง การสื่อสารถึง จุดแข็งต่างๆ ของทางแสนสิริ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการออกแบบดีไซน์ ด้านสุนทรียศาสตร์ ความสวยงาม การคิดฟังก์ชั่นบ้านที่ตอบโจทย์ บวกกับการทำการตลาดโปรโมชั่นในรูปแบบที่แตกต่างโดยดึงเอาความต้องการของลูกค้ามาเป็นโจทย์ในการออกแคมเปญ ทำให้ลูกค้าได้รับความพึงน่าพอใจ ตลอดจนการที่แบรนด์พยายามให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ลูกค้ารุ่นใหม่ให้ใส่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยผลักดันให้แบรนด์แสนสิริครองใจตลาดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างเหนียวแน่น
ความน่าสนใจของแพลตฟอร์ม Clubhouse น้องใหม่นี้ ยังอยู่ที่การเปิดโอกาสให้ทั้งแบรนด์และผู้บริโภคได้แลกเปลี่ยนพูดคุย สะท้อนมุมมองแง่คิดต่างๆ ในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง จึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์และผูกพันเชิงลึกให้เกิดขึ้นได้โดยไม่ยาก เพราะอย่างที่กล่าวในตอนต้นสินค้าในกลุ่มที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ต้องอาศัยกระบวนการตัดสินใจที่ซับซ้อน จึงทำให้ผู้บริโภคต่างพิถีพิถันในการคัดเลือกโครงการต่างๆ โดยการหาข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงการหรือแบรนด์ที่เขาเลือกนั้นเป็นแบรนด์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของพวกเขาได้ดีที่สุด กลยุทธ์ social media marketing อย่าง Clubhouse จึงเข้ากับโจทย์ของแบรนด์ได้อย่างลงตัว
และไม่เป็นที่แปลกใจว่าทำไมค่ายใหญ่อย่าง แสนสิริ จึงดึงเอา ซีอีโอ คนเก่งมาร่วมสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ผ่านกลยุทธ์ social media marketing อย่าง Clubhouse เพราะคุณเศรษฐา ได้รับการกล่าวถึงในฐานะซีอีโอคนเดียวในประเทศไทยที่ลุกขึ้นมาใช้ทวิตเตอร์ในการสื่อสารกับแฟนคลับ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดตามมากเกือบ 3 แสนคน รวมถึงแต่ละข้อความที่ทวิตออกไปก็ยังได้รับความสนใจ มียอดการมองเห็นต่อโพสต์ถึงกว่าล้าน หรือหลายล้านคนวิว จนทำให้ คุณเศรษฐา มีความเหมาะสมในการรับหน้าที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ทำการตลาดโซเชียลมีเดียให้กับแบรนด์ เพราะเป็นบุคคลที่มีความเป็นแสนสิริ และเป็นผู้นำในการให้ข้อคิด อะไรหลายอย่าง สามารถสะท้อนภาพพจน์ของแบรนด์ในแง่ของความเป็นผู้นำ ความไดนามิกส์ และแอคทีฟ ได้เป็นอย่างดี ดังที่ เคยได้เห็น ซีอีโอ ชั้นนำของโลกต่างๆ อย่าง สตีฟ จ๊อบส์ ได้ทำผ่าน กลยุทธ์ “Speed to Market” ทำให้คนหันมาสนใจแบรนด์ที่เหล่าบรรดาซีอีโอต่างๆ ออกมาพูดด้วยตนเอง ซึ่งทางแสนสิริเองก็ได้เลือกใช้กลยุทธ์นี้มาเพื่อการตอกย้ำภาพลักษณ์ การเป็นผู้นำ ของแสนสิริ ที่เป็นแบรนด์ที่มักจะทำอะไรที่แตกต่าง สร้างสีสัน ฉีกกฏ เพื่อนำเทรนด์ก้าวไปข้างหน้า ก่อนใคร จนทำให้แบรนด์แสนสิริ ครองใจ คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการการสื่อสารอย่างจริงใจ และ เปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีโอกาสได้เข้าถึง ซีอีโอ คนเก่งที่เป็นไอดอลของเด็กยุคใหม่หลายคนอย่างคุณ เศรษฐา ทวีสิน อินฟลูเอนเซอร์ คนสำคัญ ที่ทางแสนสิริ ตั้งใจนำมาใช้ต่อยอด กลยุทธ์ social media marketing ในครั้งนี้
ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/924123