ซื้อบ้านและคอนโดยังไงให้ได้ราคาถูก นำมาลงทุนต่อก็ได้กำไร หรือจะซื้ออยู่อาศัยเองก็คุ้มค่า? เรื่องนี้มีกลยุทธ์ที่คุณสามารถหยิบไปลองปรับใช้ได้ ซึ่ง Dot Property ได้รวบรวมมาให้ในบทความนี้แล้วครับ จะมีเทคนิคการเจรจาต่อรองอย่างไรที่เป็นประโยชน์สำหรับฝั่งผู้ซื้ออย่างเราๆ บ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กันเลย
1. ทำการบ้านและเจรจาด้วยข้อมูล
เพื่อแสดงออกว่าคุณต้องการที่จะซื้อคอนโดหรือบ้านในโครงการนี้จริงๆ แน่นอนว่า เรื่องของข้อมูลเป็นสิ่งแรกที่จะแสดงออกให้ทางฝั่งเซลล์หรือผู้ขายรู้ได้ โดยคุณควรที่จะเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับทำเล เช่น สภาพการเดินทาง สภาพพื้นที่โดยรอบ ความพลุกพล่านของชุมชน ตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมหรือดินทรุดหรือไม่ เป็นต้น, รายละเอียดของตัวโครงการ เช่น ขนาด อายุ การตกแต่ง หรือถ้ารู้ถึงเรตราคาของต่างๆ ในโครงการนี้หรือโครงการอื่นๆ ก็จะช่วยทำให้เห็นข้อเปรียบเทียบได้มากขึ้นว่า ราคาขอบคอนโดหรือบ้านที่คุณมาดูอยู่นี้ถูกหรือแพง
หากทางเซลล์เห็นว่า เราทำการบ้านมาดีและแสดงออกมาว่าอยากได้โครงการนี้ด้วย ทางเซลล์ก็อาจจะไปทำการต่อรองเพื่อให้ได้ราคาเสนอขายที่ถูกลงกว่าเดิมมาให้เราได้ด้วย หรือถ้าเป็นการซื้อบ้านมือสอง การโน้มน้าวด้วยข้อมูลว่าคุณรู้เกี่ยวกับทำเลนี้ดี เช่น เคยเช่าอยู่ละแวกนั้นมาก่อน มีคนรู้จักเป็นคนพื้นที่ เป็นต้น ก็จะช่วยทำให้พูดคุยกับเจ้าของบ้านได้ง่าย อีกทั้งถ้าแสดงออกและชื่นชมตัวบ้านอย่างจริงใจ เพื่อโน้มแนวให้ผู้ขายเห็นใจผู้ซื้อ ก็จะทำให้การต่อรองราคาบ้านเป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะเจ้าของบ้านก็อยากขายบ้านให้กับผู้ซื้อที่ชอบบ้านหลังนั้นจริงๆ อยู่แล้ว
2. แจ้งงบประมาณที่ต้องการไปตรงๆ
แนะนำให้แจ้งราคาที่ต้องการไปแบบตรงๆ แต่ควรเป็นราคาที่ตรวจสอบมาแล้วว่า ราคาของโครงการนี้จริงๆ แล้วอยู่ที่เท่าไหร่ สำหรับคอนโดแล้วอาจจะต้องดูว่า ห้องอื่นๆ ในโครงการเดียวกันที่ขายไปในราคาพรีเซลนั้นขายอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ หรือถ้าเป็นการซื้อบ้านมือสองอาจจะลองบอกราคาที่ต่ำกว่าราคาในใจที่อยากได้เล็กน้อย เพื่อเผื่อให้เซลล์หรือผู้ขายต่อรองราคากลับขึ้นมาให้อยู่ในตัวเลขที่ต้องการได้พอดี
3. ทิ้งราคาสุดท้ายเอาไว้
หากทางเจ้าของบ้านหรือทางเซลล์ยืนยันว่าไม่สามารถลดให้ได้จริงๆ แนะนำให้ลองทิ้งราคาสุดท้ายไว้ รวมถึงทิ้งช่องทางติดต่อไว้เผื่อจะติดต่อกลับมา ซึ่งทางเซลล์จะไปทำการต่อรองราคากับทางหัวหน้ามาให้หากเขาอยากขายจริงๆ หรือตัวเจ้าของบ้านเองหากประเมินเเล้วว่า เป็นราคาที่ยังรับได้ก็มีโอกาสจะติดต่อกลับมาหาคุณ
4. เปรียบเทียบราคากับคู่แข่ง
หากการต่อรองราคาที่ต้องการไม่สำเร็จแล้ว อาจจะต้องยกราคาคู่แข่งในตลาดมาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ซึ่งคุณจะต้องทำการเตรียมข้อมูลของคอนโด บ้าน หรืออสังหาฯ มือสองในทำเลนั้นๆ ให้แน่น ยิ่งเป็นโครงการคู่แข่งใน Segment ใกล้เคียงกันยิ่งดี เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า ราคาของที่อื่นให้ถูกกว่าเท่าไหร่ ทางเซลล์หรือทางเจ้าของก็อาจจะทำการตัดสินใจลดให้เพิ่มเติมได้ ถ้าอยากขายจริงๆ
5. พูดถึงผลประโยชน์
โดยผลประโยชน์ในที่นี้จะต้องเป็นผลประโยชน์ของผู้ขาย โดยคุณอาจจะทดแทนการยินยอมจ่ายเต็มราคาประกาศขาย เพื่อสร้างความพอใจแก่ผู้ขาย เช่น ยอมจ่ายค่าโอน , เฟอร์นิเจอร์ของแถม เป็นต้น หรืออาจจะใช้วิธีชี้ให้เห็นประโยชน์ที่ทางผู้ขายได้รับทันที เช่น ยินดีจ่ายเงินสดพร้อมโอน เป็นต้น
6. ดูจุดบกพร่องเพื่อใช้ในการต่อรอง
กรณีนี้จะเป็นเฉพาะการซื้อบ้านหรือคอนโดมือสอง โดยให้คุณหาข้อด้อยว่า มีจุดไหนที่ต้องทำการว่อมแซมเองบ้าง หากเป็นไปได้ควรประเมินเลยว่า ถ้าซ่อมจริงๆ จะต้องเสียเงินซ่อมเท่าไหร่ เช่น ประตูบวม หน้าต่างชำรุด ผนังเป็นรอย หลังคารั่ว เป็นต้น แล้วใช้เงินที่คำนวณได้มาต่อรองราคาเพิ่ม
7. สร้าง Deadline
หากมีเงินพร้อมและทำการสำรวจโครงการทั้งหมดมาจนแน่ใจแล้วว่า ต้องการซื้อจริงๆ รวมถึงนักลงทุนอสังหาฯ มือใหม่ที่ต้องการทำการซื้อคอนโดหลายห้องพร้อมๆ กัน แนะนำให้ติดต่อวางมัดจำเลยในวันนั้น แต่ต้องได้ในราคาที่ต้องการ ซึ่งเป็นราคาที่ทำการสำรวจมาแล้วว่า ทางโครงการเคยขายในเรตนี้มาแล้ว เช่น ราคาตอน Pre Sale เป็นต้น วิธีนี้ก็จะเป็นการบีบบังคับให้ทางโครงการพิจารณาว่า ต้องการขายห้องหรือบ้านจริงไหม หากต้องการก็จะตอบรับข้อเสนอของคุณเอง
และนี่คือ 7 เทคนิคสำหรับต่อรองราคาบ้านและคอนโด ทั้งมือหนึ่งและมือสองที่จะช่วยทำให้คุณได้อสังหาฯ ราคาดีมาครอบครอง แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า ควรเป็นราคาที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่ายด้วยความยินดี และเป็นราคาที่ทำการบ้านมาดีว่า มีโอกาสต่อรองแล้วได้สูงด้วย