ยุคนี้สมัยนี้ มองไปทางไหนก็เห็นโครงการบ้านและที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เกิดขึ้นตามที่ต่างๆ หลากหลายด้วยรูปลักษณ์ ราคา และสไตล์ บ้างก็เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูใจกลางเมือง บ้างก็เป็นทาวน์เฮ้าส์อารมณ์บ้านชวนฝัน คอนโดมิเนียมแนวดิ่งทั้งแบบ Low-Rise และ High-Rise เองก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากัน เรียกว่าชอบแบบไหนอย่างไร ก็เลือกซื้อหาพาตัวเองเข้าอยู่อาศัยได้อย่างใจ….
‘ถ้ามีเงิน…’
ขอโทษที่เราอาจจะดึงคุณจากความฝันกลับมาสู่ความเป็นจริงอันไม่ค่อยจะสวยหรูเท่าใด แต่ก็เป็นความจริงที่ยากจะปฏิเสธได้ เมื่อราคาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในปัจจุบัน พุ่งทะยานในแบบที่เพียงปล่อยทิ้งไว้ไม่นานเดือน ราคาที่เคยคิดว่าเอื้อมไหว ก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ ‘ไกลเกินเอื้อม’ ไปอย่างน่าเศร้า
Credits: homedec.in.th
อย่ากระนั้นเลย สำหรับใครที่ทุนทรัพย์อาจจะไม่มากนัก ทางเลือกจากการเคหะแห่งชาติอย่าง ‘บ้านเอื้ออาทร’ นั้นก็ใช่ว่าจะเลวร้ายไปเสียหมด ทั้งยังเป็นทางเลือกที่ดูน่าสนใจ และถ้าคุณไม่คิดมากอะไร ก็อยากฝากเอาไว้ให้พิจารณากันดู
//บ้านเพื่อประชาชน
อันที่จริงแล้ว เป้าหมายของการเคหะแห่งชาติ ในการที่จะสร้างบ้านสำหรับประชาชนนั้น เริ่มต้นมานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 เป็นต้นมา ในการกำกับดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยตั้งเป้าเอาไว้ทั่วประเทศทั้งสิ้น 732,249 ยูนิต
Credits: crmnha.nha.co.th
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานนโยบายเริ่มเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปี พ.ศ. 2546 เมื่อมีการประกาศสร้าง ‘โครงการบ้านเอื้ออาทร (บ้านยั่งยืน)’ สำหรับผู้มีรายได้น้อย เฉลี่ยไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท (รายได้ปี พ.ศ. 2546) และปรับเป็นรายได้ไม่เกินเดือนละ 40,000 บาทในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งสร้างแล้วเสร็จ 240,186 หน่วย และส่งมอบไปแล้วกว่า 174,545 หน่วย
//เงื่อนไขสำหรับสัญญาซื้อขาย
ผู้ที่จะทำสัญญาซื้อขายบ้านเอื้ออาทรนั้น จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
Credits: crmnha.nha.co.th
-สัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ติด Black List หรือเครดิตบูโรจากสถาบันการเงินใดๆ
-รายได้ต่อครัวเรือนไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน
-สามารถรับภาระและเงื่อนไขการเช่าซื้อได้โดยผ่านเกณฑ์การพิจารณาจากการเคหะแห่งชาติ
Credits: crmnha.nha.co.th
ทั้งนี้ หลังจากการทำสัญญาเช่าซื้อแล้ว มีสิ่งที่ผู้เช่าซื้อพึงปฏิบัติตามดังต่อไปนี้
-ห้ามมีการโอนกรรมสิทธิในสัญญาจะซื้อจะขาย หรือเช่าซื้อภายในระยะเวลา 5 ปี
-ห้ามนำอาคารไปให้บุคคลอื่นอยู่อาศัยหรือเช่าช่วง ถ้าหากพบว่ามีการผิดสัญญาและมีคุณสมบัติเป็นเท็จ จะถูกบอกเลิกสัญญาและริบเงินที่ชำระไว้แล้วทั้งหมด
-กรณีชำระเป็นเงินสดทั้งหมด สามารถกระทำได้ แต่จะได้รับการโอนสิทธิหลังจากครบกำหนดการทำสัญญาจะซื้อจะขายหรือเช่าซื้อ ไม่น้อยกว่า 5 ปี
-เมื่อได้สิทธิแล้ว จะต้องผ่อนชำระเงินดาวน์ในระหว่างการก่อสร้างอาคารในอัตราเดือนละ 300 บาท เพื่อแสดงว่าเป็นผู้มีความประสงค์จะซื้ออาคาร และมีความสามารถในการผ่อนชำระ
จะเห็นได้ว่า แม้จะไม่ได้มีทำเลที่เป็น ‘ศักยภาพ’ เช่นเดียวกับโครงการบ้านจากผู้พัฒนาอสังหาฯ รายอื่นๆ แต่ด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้ เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย บวกรวมกับการขยายตัวของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น บางที บ้านเอื้ออาทร (บ้านยั่งยืน) ก็อาจจะเหมาะสมสำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นซื้อบ้าน เพราะแม้จะไม่ได้สวยหรูดูน่าอวด แต่การมีหลังคาคุ้มหัวที่สามารถบอกได้ว่าเป็น ‘ของเรา’ นั้น ก็เป็นรากฐานที่แข็งแรงพอสำหรับการเริ่มต้นได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
