อนันดาฯเร่งระบายสต็อกคอนโด

ananda

“อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” เร่งระบายสต็อกคอนโด ฝ่าวิกฤติตลาด”ขาลง”

 

สภาพแวดล้อมทางการเมืองและภาวะ เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ส่งผลให้การวางแผนธุรกิจของภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วงต้นปี ล้วนอยู่บนแผนการดำเนินงาน”ระมัดระวัง“ เพื่อตั้งรับ”ความเสี่ยง” ที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่พร้อมบุกทันทีเมื่อสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย เช่นเดียวกับกลุ่ม “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” ไม่เล่นเกมบุกตามแนวที่ถนัด ในจังหวะตลาดเป็นช่วงน้ำลง ananda

        นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้ภาวะแวดล้อมเปลี่ยนไปทั้งเศรษฐกิจและการเมืองที่มีความไม่แน่นอน จำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์การดำเนินงานอย่าง “ระมัดระวัง” ควบคุมค่าใช้จ่าย เน้นสร้างยอดขาย การทำตลาดในสินค้าสร้างเสร็จแล้วพร้อมโอนทันที

ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 17 โครงการ จำนวน 9,000 ยูนิต แบ่งสัดส่วนเป็นคอนโดมิเนียม 80% แนวราบ 20% ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายจากโครงการเปิดใหม่ในปีนี้เพียง 40%

ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายยอดขาย 8,500-9,500 ล้านบาท รายได้ 9,050 ล้านบาท มาจากยอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในมือ (Backlog) ถึง 70% หรือราว 6,356 ล้านบาท จากปัจจุบันมีแบ็กล็อคทั้งหมดในมือ 1.98 หมื่นล้านบาท ที่จะรับรู้ใน 3 ปี และในแผนธุรกิจช่วง 5 ปี (2561) วางเป้ารายได้ไว้ที่ 2.97 หมื่นล้านบาท คิดเป็นรายได้ส่วนของอนันดา 2.27 หมื่นล้าน และในโครงการร่วมทุนบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง อีก 7,000 ล้านบาท

“เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง การเมืองมีความผันผวนแบบนี้ เกมการตลาดต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เพราะการเมืองมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ ปีนี้กลยุทธ์ของเรา จึงเน้นสร้างการรับรู้รายได้ กำไร มากกว่า รายได้จากยอดขายใหม่ เพราะไม่มีจังหวะที่จะบุกทุ่มงบในการขาย ช่วงที่ผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ซื้อ ต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์”

เบื้องต้นบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ เพียง 4 โครงการ โดยเน้นพัฒนาเป็นโครงการคอนโดติด รถไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ “ไอดีโอ” ที่มีทำเลตั้งย่านใจกลางเมือง โดยแบรนด์ดังกล่าวอยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท และอยู่ห่างจากแนวรถไฟฟ้าประมาณ 300 เมตร มูลค่าโครงการรวม 1.4- 1.5 หมื่นล้านบาท คาดเปิดตัวโครงการแรกในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 เพราะคาดว่าความต้องการซื้อจะฟื้นตัว เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย

 “แม้แต่การลดอัตราดอกเบี้ยมีความสำคัญต่อการซื้อน้อยกว่าการแก้ไขปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง”

พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มอีก 8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบในการซื้อที่ดิน 5,850 ล้านบาท และงบในการก่อสร้างอีก 6,150 ล้านบาท

“ตอนนี้กองทัพเราพร้อม ในปีที่แล้วได้มีการขยายงาน เพิ่มทีมผู้บริหาร ทรัพยากรเพิ่มเท่าตัว และเครื่องไม้เครื่องครบ เพียงรอจังหวะขยายเท่านั้น เราพร้อมเล่นเกมรุก ซึ่งเป็นเกมเราถนัด เมื่อการเมืองสิ้นสุดลง แต่ในช่วงจังหวัดน้ำลง ต้องตั้งลำเพื่อรอจังหวะบุกต่อ เราต้องเล่นได้ทั้ง 2 เกม คือ น้ำขึ้นต้องรีบบุก น้ำลง ต้องถอยตั้งลำ”

        นายชานนท์ บอกว่า การบริหารการเงินถือเป็นอีกหัวใจสำคัญ ต้องบาลานซ์ ทั้งกระแสเงินสด หนี้สินต่อทุน ซึ่งบริษัทมีนโยบายในการรักษาระดับเงินสด ในบริษัทอย่างน้อยกว่า 1,000 ล้านบาทอยู่ตลอดเวลา มีเงินทุนสำรองเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 1,500 ล้าน บาท

ทั้งนี้บริษัทเตรียมที่จะออกหุ้นกู้มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยรวมแล้วปีนี้จะออกหุ้นกู้ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท จากที่คณะกรรมการอนุมัติวงเงินไว้ทั้งหมด 6,000 ล้านบาท หลังจากในครึ่งปีแรก จะออกหุ้นกู้ 2,600 ล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือน ก.ค. นี้

        “เรายังคงเป้าหมายเป็นผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้า และองค์กรมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ แต่ละช่วงเปลี่ยนไป”

 

<em>ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]</em>