สิงห์ทุ่ม1.1หมื่นล้าน เดินหน้าลุยตลาดโรงแรม-รีสอร์ทใน ตปท.

สิงห์ เอสเตท

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท หรือ “S”เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทได้วางแผนที่จะลงทุนในกิจการ “เอาท์ริกเกอร์ โฮเทลส์ฮาวาย (Outrigger Hotels Hawaii)“มูลค่าประมาณ 11,073 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรมและรีสอร์ท 6 โครงการ ใน 4 ประเทศ ประกอบด้วย โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ฟิจิ บีช รีสอร์ท, โรงแรมแคสต์อเวย์ ไอส์แลนด์ในประเทศฟิจิ, โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท, โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ เกาะสมุย บีช รีสอร์ท, โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ มอริเชียสบีช รีสอร์ท ประเทศมอริเชียส และโรงแรมเอาท์ริกเกอร์ โคน็อตตามัลดีฟส์ รีสอร์ท สาธารณรัฐมัลดีฟส์ หากรวมการลงทุนในโครงการ CROSSROADS ที่ประเทศมัลดีฟส์ แล้ว คาดว่าจะทำให้สินทรัพย์บริษัทเติบโตเป็น 60,000 ล้านบาท และสร้างรายได้ตามเป้าหมาย

สิงห์ เอสเตท ทุ่ม1.1หมื่นล้าน ทยานลุยตลาดโรงแรม-รีสอร์ทใน ตปท.

สิงห์ เอสเตท

ขณะที่ปี 2560 บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ที่ถือหุ้นโดยสิงห์ เอสเตท ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นบริษัท เนอวานา ไดอิ โดยลำดับถัดไปบริษัทจะนำธุรกิจโรงแรมของบริษัท เอส โฮเตล แอนด์รีสอร์ท (SHR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2562 และจะนำอาคารสำนักงานซันทาวเวอร์ส เข้ากองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ภายในในปี 2563 จากขั้นตอนดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ สิงห์ เอสเตท เป็น Holding Company ที่สมบูรณ์

 

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ คือการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่สร้างเอกลักษณ์และมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิต ผ่านโครงการที่มีแนวคิดที่แตกต่าง เช่น โครงการสันติบุรี เดอะเรสซิเดนเซส, โครงการมิกซ์ ยูส สิงห์ คอมเพล็กซ์ และโครงการครอสโร้ดส์ (CROSSROADS) ที่มัลดีฟส์ซึ่งจะเปิดมิติใหม่ในการท่องเที่ยวของประเทศมัลดีฟส์

“บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มธุรกิจหลักได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท (Hospitality) ธุรกิจที่พักอาศัย (Residential) และธุรกิจอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก (Commercial) รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ที่มีเสถียรภาพ ที่ผ่านมา บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2557 บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 11,288 ล้านบาท เพิ่มเป็น 40,910 ในปี 2560 ขณะที่มียอดรายได้ 5,858 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557ที่ทำได้ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 15 เท่า ซึ่งคาดว่าเราจะทำรายได้ถึง 20,000 ล้านบาท ในปี 2561 เร็วกว่าแผนที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2563 ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์จะอยู่ที่60,000 ล้านบาท”

 

นายฐิติ ทองเบญจมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานโครงการครอสโร้ดส์ บริษัท สิงห์ เอสเตท กล่าวเสริมถึงโครงการที่มัลดีฟส์ ว่า โครงการ“ครอสโร้ดส์” ประเทศมัลดีฟส์ มีมูลค่าโครงการ(เฟส1) 11,000 ล้านบาท มีแผนจะพัฒนาเป็น Tourist Facilities Destination บนพื้นที่ยาว 7 กม. แบ่งเป็น 9 เกาะ ประกอบด้วย โรงแรมและรีสอร์ทที่สร้างสรรค์มาเพื่อตอบโจทย์ทุกๆ ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร อาทิ ท่าเทียบเรือยอชท์สุดหรู, บีช คลับระดับลักชัวรี, ร้านค้าไลฟ์สไตล์, ร้านค้าปลอดภาษี, ร้านอาหารชั้นเลิศ และ Cultural Center

เพื่อเป็นศูนย์เผยแพร่ความเชื่อมโยงของ 2 วัฒนธรรม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตชุมชนผ่านผลงานสินค้าท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาศูนย์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศทางทะเล

 

ที่มา : http://www.naewna.com/business/329291

 

สนใจข้อมูลข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมจาก Dotproperty คลิ๊ก …