ธอส. เปิด ประมูลบ้านมือสอง ประจำภาคอีสาน เริ่มต้นเพียง 380,000 บาท พร้อมผ่อนดาวน์ 0% นานสูงสุด 48 เดือน

บ้านมือสอง

ด้วยธนาคารอาคารสงเคราะห์จะขาย บ้านมือสอง ของธนาคารซึ่งได้มาจากการโอนทรัพย์ชำระหนี้และจากการบังคับคดี อันประกอบด้วย ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด ในส่วนภูมิภาค 1 (เขต 3 ขอนแก่น) จำนวน 9 สาขา คือ สาขาขอนแก่น สาขาถนนมิตรภาพ สาขาอุดรธานี สาขาหนองคาย สาขาสกลนคร สาขาร้อยเอ็ด สาขายโสธร สาขากาฬสินธุ์ และสาขามหาสารคาม ในราคาพิเศษ

โดยจะนำ บ้านมือสอง ออกขายในงาน Thailand Smart Money ขอนแก่น ครั้งที่ 6  ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น

โดยจะจัดให้มีขึ้นระหว่าง วันที่ 8 – 10 มิถุนายน  2561 ระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น. ผู้สนใจซื้อจะต้องวางเงินมัดจำการซื้อทรัพย์สินเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็ค จำนวน 10,000 บาท (ทรัพย์ราคาไม่เกิน 500,000 บาท) และวางมัดจำ 20,000 บาท (ทรัพย์ราคาเกิน 500,000 บาท) ในงาน Thailand Smart  Money ขอนแก่น ครั้งที่ 6  ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.

และสามารถไปดูทรัพย์ด้วยตนเองได้ทุกวัน ณ สถานที่ตั้งทรัพย์สิน และธนาคารให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 80% หรือ 60%  ส่วนที่เหลือผ่อนชำระได้นาน 24 เดือน หรือ 48 เดือน ไม่เสียดอกเบี้ย(ยกเว้นอาคารประเภทแฟลตให้กู้ได้สูงสุด 80% ส่วนที่เหลือผ่อนชำระได้นาน 24 เดือนโดยไม่เสียดอกเบี้ย) โดยธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อตามระเบียบการให้สินเชื่อของธนาคาร

บ้านมือสองที่ธนาคารนำออกขาย ขายตามสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ งานบริหารหนี้สาขา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาขอนแก่น โทร.0-4327-0400-11 สาขาถนนมิตรภาพ โทร.0-4346-5020-28 สาขาอุดรธานี โทร.0-4212-2331-7 สาขาหนองคาย โทร.0-4242-1670-7 สาขาสกลนคร โทร.0-4271-4766-73 สาขาร้อยเอ็ด โทร.0-4351-2715-9,0-4351-5361-5 สาขายโสธร โทร.0-4571-4886-7,0-4571-4896-8 สาขากาฬสินธุ์ โทร.0-4381-2730-4 และสาขามหาสารคาม โทร.0-4371-1206 หรือ www.ghbhomecenter.com

ระเบียบ เงื่อนไข ข้อสัญญา และวิธีการซื้อบ้านมือสอง งาน Thailand Smart Money ขอนแก่น ครั้งที่ 6

1.  ในวันซื้อบ้านมือสอง ให้ผู้สนใจเข้าซื้อ ลงชื่อ ที่อยู่ รายการบ้านมือสองที่จะซื้อลงในแบบคำขอซื้อบ้านมือสอง ซึ่งธนาคารจัดให้ในวันงาน Thailand Smart Money ขอนแก่น ครั้งที่ 6 พร้อมกับแสดงสำเนาบัตรประจำตัวต่อธนาคาร โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ระหว่างวันที่ 8 – 10 มิถุนายน 2561 ธนาคารจะขายให้แก่ผู้วางเงินซื้อรายแรก แต่หากผู้สนใจซื้อมาพร้อมกันจะใช้วิธีการเปิดซองเสนอราคาและธนาคารจะขายให้แก่ผู้ที่เสนอราคาสูงสุด

2.  ผู้ซื้อในนามบุคคลอื่น ต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจต่อธนาคารก่อนการซื้อ ถ้าไม่แสดงหนังสือมอบอำนาจ ธนาคาร จะถือว่าผู้ลงชื่อซื้อกระทำในนามตนเอง และในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อจะขอเปลี่ยนใส่ชื่อผู้อื่นโดยอ้างว่าตนเป็นตัวแทนมิได้

3.  ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการถอนบ้านมือสองรายการหนึ่งรายการใดออกจากการขายได้ และสงวนสิทธิ์ในการกำหนดเงื่อนไข และวางข้อกำหนดอันชอบด้วยกฎหมายในการขายครั้งนี้

4.  ในการชำระราคาผู้ซื้อได้ต้องวางเงินมัดจำการซื้อทรัพย์เป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็คจำนวน 10,000 บาท (ทรัพย์ราคาไม่เกิน 500,000 บาท) และวางมัดจำการซื้อทรัพย์จำนวน 20,000 บาท (ทรัพย์ราคาเกิน 500,000 บาท) ในทันทีที่ซื้อได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราคาขายและส่วนที่เหลือให้ดำเนินการ ดังนี้

4.1 ผู้ซื้อได้ประสงค์ชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็ค ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขาย ภายในวันที่ 22 มิถุนายน 2561 พร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 45 วันนับจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย

4.2 หากผู้ซื้อได้ประสงค์จะขอชำระเงินดาวน์ทันที ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อส่วนที่เหลือไม่เกินร้อยละ 80 แต่ไม่เกินส่วนที่เหลือ และยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 11 – 22 มิถุนายน 2561 โดยธนาคารพิจารณาให้สินเชื่อพิเศษ อัตราดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 2 ปี(เงื่อนไขอื่นๆตามเกณฑ์ของมาตรการพิเศษ)

4.3 หากผู้ซื้อได้ประสงค์ขอผ่อนชำระเงินดาวน์ (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ซื้อได้) สามารถผ่อนดาวน์ได้ไม่เกิน 24 เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขายตั้งแต่วันที่ 11 – 22 มิถุนายน 2561 และหากประสงค์จะเข้าอยู่อาศัยต้องชำระเงินประกัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ของราคาที่ซื้อ เมื่อผ่อนชำระเงินดาวน์ครบแล้วให้ขอสินเชื่อส่วนที่เหลือไม่เกินร้อยละ 80 แต่ไม่เกินราคาส่วนที่เหลือ และอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศธนาคาร(เงื่อนไขอื่นๆตามเกณฑ์ของมาตรการพิเศษ)

4.4 หากผู้ซื้อได้ประสงค์ขอผ่อนชำระเงินดาวน์ (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ซื้อได้) สามารถผ่อนดาวน์ได้ไม่เกิน 48 เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย ให้ทำสัญญาจะซื้อจะขายตั้งแต่วันที่ 11 – 22 มิถุนายน 2561 และหากประสงค์จะเข้าอยู่อาศัยต้องชำระเงินประกัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ของราคาที่ซื้อ เมื่อผ่อนชำระเงินดาวน์ครบแล้วให้ขอสินเชื่อส่วนที่เหลือไม่เกินร้อยละ 60 แต่ไม่เกินราคาส่วนที่เหลือ และอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศธนาคาร(เงื่อนไขอื่นๆตามเกณฑ์ของมาตรการพิเศษ)

4.5  กรณีลูกหนี้เดิม บิดา มารดา รวมทั้งบุตรของลูกหนี้เดิม ซื้อทรัพย์ได้จะต้องชำระหนี้ส่วนที่เหลือ หลังจากการบังคับคดีให้แล้วเสร็จ ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์

หากผู้ซื้อได้ไม่ดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลาตามข้อ 4.1, 4.2, 4.3, หรือ 4.4ข้างต้น ธนาคารจะริบเงินมัดจำ ในการดำเนินการให้ผู้ซื้อได้ติดต่อ งานบริหารหนี้สาขา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาที่รับผิดชอบดูแลทรัพย์ที่ซื้อได้

4.6  กรณีที่ผู้ซื้อเคยมีประวัติผิดเงื่อนไขการชำระเงินกู้หรือการซื้อทรัพย์กับธนาคาร ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาให้ใช้เงื่อนไขผ่อนชำระราคาตามมาตรการ(พิเศษ)ผ่อนดาวน์ 24 เดือน หรือ 48 เดือน รวมถึงสิทธิในการพิจารณาสินเชื่อ

4.7  หากผู้ซื้อเคยมีประวัติการซื้อทรัพย์กับธนาคาร สถานะขายมัดจำรวมกับแปลงที่ซื้อใหม่ในครั้งนี้เกิน  5 สัญญา(หรือ 10 สัญญา ในกรณีทรัพย์ในส่วนภูมิภาค) และราคาซื้อในครั้งนี้ รวมกับราคาทรัพย์สถานะขายมัดจำ รวมกับวงเงินกู้ปัจจุบันเกิน 10 ล้านบาท ผู้ซื้อได้จะต้องชำระราคาเป็นเงินสดเท่านั้น

 

5. ท่านที่ซื้อบ้านมือสองได้แล้ว จะขอสินเชื่อเพิ่มเพื่อต่อเติมหรือปลูกสร้างอาคารก็ได้ โดยธนาคารจะพิจารณาให้ตามระเบียบสินเชื่อของธนาคาร

6. ผู้ซื้อได้เป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษี อากร ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด

7. บ้านมือสองที่ธนาคารนำออกขาย ธนาคารขายตามสภาพทรัพย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

8. สำหรับบ้านที่ธนาคารขายมีผู้อยู่อาศัยธนาคารให้ผู้ซื้อดำเนินการกับผู้อยู่อาศัยและเมื่อครบกำหนดชำระเงินมัดจำแล้ว ผู้ซื้อยินยอมรับโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญาจะซื้อจะขายฉบับนี้ไม่ว่าผู้อาศัยจะย้ายออกหรือไม่ก็ตาม

บ้านมือสองบ้านมือสอง

 

ดูรายการบ้านมือสอง ต่อได้ที่ ลิงค์นี้

https://www.ghbhomecenter.com/promotion-131