แชร์ประสบการณ์ตรง บิดาเสียชีวิต และ ทิ้งหนี้บ้านไว้ให้ เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร

หนี้บ้าน

วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์ตรง จากคุณ สมาชิกหมายเลข 1406004 ที่ได้เสีย บิดา ไปแบบกะทันหันและทิ้งภาระในการส่งบ้านมาให้ โดยที่ครอบครัวไม่สามารถรับภาระต่อได้ และตอนนี้ทางแบงค์ส่งจดหมายมาเตือนและถ้าเราไม่ทำอะไรอาจจะถูกฟ้องได้ในที่สุด ดังนั้นวันนี้เราไปดูแนวทางสำหรับทางออกเรื่องนี้กันคะ

พ่อเสียชีวิตทิ้ง หนี้บ้าน เอาไว้ให้หนูที่ยังเรียนกับแม่ที่ไม่มีงานทำ ขอปรึกษาผู้ใหญ่ที่มีความรู้กฎหมายหน่อยค่ะ TT BY   สมาชิกหมายเลข 1406004

หนี้บ้าน

พ่อเสียชีวิตมาได้ 8 เดือนแล้วค่ะ หลังจากพ่อเสียก็ไม่ได้จ่ายค่าบ้านกับบัตรเครดิตอีกเลย (ค่าบ้านเดือนละ 37,000 ราคาหนี้รวมสี่ล้านห้า) ต้องขอเล่าก่อนว่าบ้านเราหลังจากพ่อเสียคือเหลือแค่แม่ที่ไม่ได้ทำงานมาตั้งแต่คลอดหนูแล้วค่ะ หนูอายุ 20 ปีกับน้องอีก พ่อที่เป็นรายได้หลักของบ้านเสียพร้อมกับบ้านที่ไม่มีเงินเก็บเลย เงินก้อนสุดท้ายของบ้านคือเงินเดือนในบัญชีพ่อก่อนพ่อเสียแค่ไม่กี่หมื่นแค่นั้นเลยค่ะ

คือบ้านหนูก่อนพ่อเสียคือเงินเดือนชนเดือนตลอดเลยค่ะ ดังนั้นหลังพ่อตายไม่มีแม้แต่เงินเก็บและมรดกตกทอด ที่ยังเหลือให้ใช้ชีวิตได้คือเงินประกันชีวิตของที่ทำงานคุณพ่อหลักล้านนิดๆค่ะ

ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทางแบงค์ได้ส่งจดหมายเตรียมฟ้องแล้วค่ะ แม่หนูเลยโทรไปคุยกับทางทนายแบงค์มา ว่าสามารถผ่อนได้แค่เดือนละหมื่นสองหมื่นเท่านั้น เพราะมีค่าใช้จ่ายน้องๆและหนูที่กำลังเรียนมหาลัยอีก 3 ปีจะจบ เขาก็ไม่ให้ทางออกเลยค่ะ บอกให้แต่ว่าเอาเงินประกันมาจ่าย ไม่ก็ขายบ้าน เขาให้เวลา 2 เดือนก่อนจะยื่นฟ้อง ซึ่งเราประกาศขายบ้านมา 8 เดือนแล้วค่ะ แต่ไม่มีใครมาซื้อ เลยหมดหวังว่าสองเดือนจะขายบ้านได้

อยากถามผู้ใหญ่ที่มีความรู้ทางกฎหมายว่า

  1. ทางแบงค์สามารถมายึดเงินประกันชีวิต หรือบังคับให้เราเอาเงินประกันชีวิตมาจ่ายหนี้ได้ไหมคะ เพราะหนูอยากให้เงินประกันชีวิตมาใช้จ่ายค่าเรียนน้องก่อนที่หนูจะจบค่ะ
  2. ถ้าไม่มีเงินมาจ่ายจริงๆภายใน 2 เดือนเขาจะฟ้องใช่ไหมคะ แล้วถึงเวลานั้นเราต้องเสียค่าทนายอีกเยอะแค่ไหนเหรอคะ
  3. เขาสามารถเข้ามากดดันเราได้ระดับไหนคะ บุกมากดดันที่บ้าน โทรมาขู่ได้ถึงขั้นไหน จะได้เตรียมตัวค่ะ แบงค์เป็นแบงค์ใหญ่อยู่ค่ะ
  4. ถ้าไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ใช้เวลานานไหมคะกว่าเขาจะยึดบ้านแล้วไล่พวกหนูออกไป โดยทั่วไปถึงปีไหมคะ
  5. หลังจากฟ้องและทางธนาคารขายบ้านหนูทอดตลาด ปรากฎว่าหนี้มันชำระไม่หมด คือเหลือหนี้ที่ต้องจ่ายหลังหักลบราคาบ้านที่ขายไปได้ประมาณนึง เขาบอกว่าเขาก็สามารถฟ้องแม่หนูได้ต่อไปอีก ทั้งหนี้บ้านและบัตรเครดิต ซึ่งตรงนี้หนูพอจะรู้ว่าเขาต้องฟ้องแน่ๆ แต่หนูอยากรู้ว่าคือกรณีที่แม่(ที่เป็นเจ้าของมรดก) แต่ไม่มีมรดกจากพ่อเหลือมาเลย (คือทรัพย์ตอนนี้ที่เป็นชื่อพ่อมีแค่บ้านที่ติดหนี้เขาอยู่อย่างเดียวและหนี้บัตรเครดิต 3 ใบเท่านั้นค่ะ) เขาจะมาฟ้องเอาเงินจากเราได้แค่ไหนเหรอคะ แบบฟ้องล้มละลายแม่ หรือยึดเงินประกันหนูได้ไหม
  6. รถที่ติดไฟแนนซ์แต่เป็นชื่อแม่ เขาสามารถมายึดได้ไหมคะ

เพราะหนูไปศึกษามาบ้างเขาบอกว่าเขายึดเราได้ไม่เกินมรดก ซึ่งมรดกของหนูไม่มีจริงๆเลยค่ะ หนูไม่ได้โกหกหรือมีอะไรซ่อนเลย เช็คหมดแล้ว มีแต่หนี้บัตรเครดิตและหนี้บ้าน สิ่งที่เหลือมาจากพ่อมีแค่เงินประกันชีวิตเท่านั้น

หรือบางทีสิ่งที่พอเป็นมรดกพ่อก็อาจจะเป็นเงินเดือน เดือนสุดท้ายหลังพ่อเสียหรือเปล่าคะ? ประมาณ 8 หมื่น

รบกวนด้วยค่ะ หนูโทรไปคุยกับทนายเองหลายคนคือตอบไม่เหมือนกันเลย หนักสุดคือทางทนายแบงค์บอกให้เอาเงินประกันมาจ่ายนี่หนูไปไม่เป็นเลยค่ะ เพราะอ่านมาก็บอกว่าเงินประกันไม่ใช่มรดกไม่ใช่เหรอ หรือเค้าเปลี่ยนกฎหมาย แม่ก็ไม่มีความรู้อะไรเลยค่ะ

รบกวนช่วยเด็กตัวเล็กๆที่หมดหนทางด้วยค่ะ หนูเรียนคณะที่จบมาเงินเดือน 6 หมื่น 7 หมื่น แต่มันต้องใช้เวลาเรียนอีก 3 ปีกว่าๆเลยค่ะ กว่าจะจบปี 6 ถ้าเขาฟ้องแม่หนูตอนนี้ บ้านหนูยังไม่พร้อมจ่ายจริงๆค่ะ TT

 

แนวทางออกและ ข้อกฎหมายต่างๆที่ควรรู้ จากคุณ  สมาชิกหมายเลข 3069650

หนี้บ้าน

เท่าที่เคยเจอเรื่องประกันนี้มันมี 2 แบบนะคือ 1.กู้บ้านแล้วบังคับซื้อประกันถ้าตายก็บังคับประกันเลยบ้านหลุด 2.ประกันต่างหากไม่เกี่ยวกับบ้านเลย   ถ้าเป็นไปตามข้อ2. เงินประกันชีวิตไม่ถือเป็นมรดก ไม่ถูกยึดไปบังคับคดีตามกฎหมาย ไล่ตอบทีละข้อนะครับ

  1. เงินประกันชีวิตไม่ถือเป็นเงินมรดกบังคับคดีไม่ได้ ทนายจึงบอกให้คุณเอาเงินประกันชีวิตมาจ่ายไง
  2. อันนี้จริงครับ ถ้าไม่คิดสู้ไม่ต้องจ้าง แต่ถ้าจะถ่วงคดีอันนี้อีกเรื่อง แต่ไม่มีทางชนะแน่นอน ค่าทนายแล้วแต่ฝีมือ 5หมื่น – แสน ทนายคนไหนบอกชนะแน่ “มันหลอก” อย่างไปจ้าง

3.เนื่องจากเป็นธนาคาร การควบคุมเยอะ ต้องทำตามกฎหมาย อย่างมากก็คือโทรทรัพย์มาทวง อาจมีมาถ่ายรูปทำข้อมูลบ้าง แต่โดยรวมไม่มีอะไรรุนแรง อย่างมากแค่รำคาญ

4.แล้วแต่ฝีมือทนาย ตั้งแต่ 1ปี – 7 ปี ประเด็นคือการกันบ้านไม่ให้โดนขายทอดตลาดมากกว่า

5.กรณีที่ขายบ้านแล้วหนี้ไม่หมด สามารถมาตามเอาจากมรดกได้ แต่ถ้าไม่มีมรดกอะไรเหลือก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ไม่ต้องกังวลที่รู้มาถูกแล้วไม่สามารถบังคับหนี้เกินจากกองมรดกได้น่าจะประมาณนี้ละ

 

แนวทางออกและ ข้อกฎหมายต่างๆที่ควรรู้ จากคุณ ขายซาเล๊งไปเซ็งร้านทอง

หนี้บ้าน

ปัจจุบันการบังคับคดี/ยึดทรัพย์ขายฯใช้เวลาน้อยลงมาก ในเวปกรมบังคับคดีจะเห็นคดี(แดง)ปีสองปีก็ถึงขั้นตอนการขายฯแล้ว เข้าไปดูในเวปได้เลยค่ะ กฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ปลายปีที่แล้ว ย่นระยะเวลาหลายๆที่ไม่เอื้อต่อจำเลยเอาเสียเลย

เมื่อทรัพย์มีผู้ประมูลได้-จ่ายเงินครบ โอนกรรมสิทธิ์ตามขบวนการทางกฎหมายศาลจะมีหนังสือแจ้งจำเลย/ผู้ครอบครองทรัพย์ถึงผลการขาย ในเอกสารดังกล่าวนี้จะระบุกำหนดเวลาย้ายออกนั่นคือ 30 วัน แต่… นั่นคือขบวนการหนึ่ง อีกขบวนการหนึ่ง/สิทธิของผู้ซื้อทรัพย์ได้ ผู้ซื้อได้มีสิทธิ์ที่จะขอหมายบังคับขับไล่-การขอหมายนี้เท่าที่เจอมา ขอเช้า-อนุญาตเที่ยง ขอเที่ยง-อนุญาตก่อนปิดทำการ

สรุปง่ายๆ ภายในวันเดียวกัน ศาลเล็กศาลใหญ่ วันเดียวกันทั้งนั้น ต่อ เมื่อได้หมายอนุญาตผู้ซื้อได้หรือเจ้าของกรรมสิทธิ์(คนใหม่)จะใช้อำนาจศาลนี้เพื่อทำการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการออกหมายจับ-เมื่อก่อนคือหมายขับไล่ กฎหมายใหม่ไม่มีแล้วเปลี่ยนเป็นหมายจับข้อหาบุกรุก หมายนี้แหล่ะที่น่ากังวล ในหลายๆเคสผู้ซื้อได้อาจจะไม่สามารถชำระได้เต็มจำนวน-จะทำการขยายเวลา รวมทั้งหมด105 วัน… นี่คือเวลาที่เจ้าของเดิมพอที่จะจัดการเรื่องขนย้าย หรือ เจรจาขอซื้อคืน มองให้เป็นบวก มันก็ดีต่อใจ มีเวลาจัดการชีวิตอยู่บ้าง

ไม่ได้ให้กำลังใจเลย แต่หวังว่าข้อความนี้จะไม่บั่นทอนจนเกินไปและเป็นข้อมูลเพื่อที่จะตั้งตน เตรียมใจรับกับเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังจะพบได้บ้างเพิ่มเติมในส่วนของการสืบทรัพย์ ระยะเวลาคือ 10 ปี ถ้าเคสขายบ้านไม่หมดหนี้ ไม่ต้องสร้างทรัพย์สินใดๆเป็นชื่ออะไรตนเอง(ในที่นี้คือคุณแม่) ในกรอบเวลา10ปีนี้โจทก์สามารถสืบทรัพย์และฟ้องบังคับคดีเอาได้อีก

โดยขั้นตอนศาล คดีดำก่อนค่อยเป็นคดีแดง แต่ ถ้าเพิ่งมีจดหมายจากธนาคารน่าจะอยู่ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ย อย่าพลาดไปไกล่เกลี่ยนะคะ นี่คือโอกาสที่จะลดหนี้ได้ บางเคสลดได้เกินครึ่งค่ะ (แล้วแต่ลักษณะคดี/การเจรจา/ความสามารถในการจ่าย) อย่าลืมนะคะ อย่าพลาดไปไกล่เกลี่ยเด็ดขาด โอกาสมาถึงแล้วค่ะ ถ้าไปไกล่เกลี่ยก็ให้ข้อมูลศาลไปตามที่คุณเล่า-เรียนสาขาที่มีอนาคตดี therefore ถ้ามีโอกาสจะสามารถจ่ายหนี้ได้

ข้อมูลนี้น่าจะได้รับความเห็นใจจากศาลท่านอยู่มาก มูลเหตุที่ไม่สามารถจ่ายหนี้-คุณพ่อเสียชีวิต น่าจะเป็นอีกปัจจัยบวกในการไกล่เกลี่ย ใจเย็นๆค่ะ ดูเอกสารให้ละเอียด/เข้าใจ การมาถามในเวปบอร์ดถ้าข้อมูลใดๆขาดหายไป คนแนะนำก็แนะนำตามข้อมูลที่ให้ อาจจะตรงบ้าง มีขาดตกบ้าง

 

แนวทางออกและ ข้อกฎหมายต่างๆที่ควรรู้ จากคุณ voo_worm

หนี้บ้าน

บ้านอย่าปล่อยให้ถูกยึดครับ  ตอนนี้ให้น้องไปดูราคาตลาดของบ้านที่น้องอยู่ โดยเช็คจากพวกเว็ปไซต์บ้านมือ 2 เอาชื่อหมู่บ้านน้องไปค้นหา ว่าเท่าไร (พี่ว่าบ้าน LH น่าจะเกิน สี่ล้านห้านะ ) แล้วตั้งราคาขายตัดจากบ้านอื่น ประกาศขายผ่านทางหน้าเว็ปหลายๆเว็ป ถ้าราคาถูก บ้านสวย ไปเร็วครับ (แต่น้องต้องคำนวนเรื่องภาษีจากการขายบ้านอีกราวๆ 3 แสนบาทนะครับ ที่ต้องจ่าย ถ้าบ้านขายไม่ออกจริงๆ น้องมีเวลาราวๆ 1-2 ปีครับในการโดนฟ้องร้องและบังคับคดี

เรื่องไกล่เกลี่ย ถ้าน้องไม่มีงานทำนี่ลืมไปได้เลยครับ เก็บเงินไว้ดีกว่าครับ  เงินประกันชีวิตน้อง ธนาคารยึดไม่ได้ครับเก็บเงินก้อนนี้ไว้ดีดี น่าจะใช้ส่งตัวน้องเรียนจนจบได้ครับ  หนี้ที่เหลือจากการขายบ้านแล้วได้เงินไม่พอ มันไม่ส่งผลมาถึงตัวน้องและทรัพย์สินที่น้องมีครับ และปกติทั่วไปแล้วธนาคารจะไม่สืบทรัพย์ที่เป็นสังหาริมทรัพย์ครับ เพราะมันวุ่นวายสืบยากครับ ดังนั้นน้องสบายใจได้ครับ

ท้ายสุดนี้ขอให้น้องสู้ๆและผ่านมันไปให้ได้นะครับ  แต่คุณพ่อน้องเสียในที่ทำงานจากการทำงานนี่มันต้องได้เงินจากกองทุนเงินทดแทน จากประกันสังคม และได้เงิน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของคุณพ่อ ที่ทำงานมาจนถึง 58 ปี พอสมควรนิครับ ไม่ทราบว่าเงินส่วนนี้น้องเก็บไว้ที่ไหนรับ

แนวทางออกและ ข้อกฎหมายต่างๆที่ควรรู้ จากคุณ สมาชิกหมายเลข 2577231

 

ที่ปรึกษากฎหมาย ขอตอบรายละเอียดตามนี้นะครับ

หนี้บ้าน

1.เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่ได้มาภายหลังจากผู้ตายถึงแก่ความตาย  ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ยึดไม่ได้ครับ

2.เมื่อถูกฟ้องคดีให้พิจารณาถึงข้อเท็จจริงก่อนครับ ในกรณีนี้ เราเป็นหนี้จริง การจ้างทนายไม่ได้มีส่งผลแพ้ชนะคดี (เว้นแต่มีกรณีต่อสู้เรื่อง สัญญาปลอม อายุความ สินสมรส) แต่คุณสามารถใช้ทนายอาสาประจำศาลก็ได้ครับ หรือไม่มีทนายก็ได้ แต่ต้องไปศาลตามนัดทุกครั้งเพื่อไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาลครับ (ศูนย์ไกล่เกลี่ยของศาลจะพยายามช่วยเจรจา)

3.ธนาคารไม่สามารถคุกคามได้นะครับ

4.คุณจะอยู่ได้จนกว่าจะมีการบังคับขายทอดตลาดซึ่งระยะเวลาอย่างน้อยเป็นปีครับ กว่าจะมีคำพิพากษากว่าจะบังคับคดี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทรัพย์นั้นขายได้เร็วแค่ไหนด้วย)

5.ทรัพย์ที่เป็นชื่อของคุณแม่จะถูกยึดหรือไม่นั้น ต้องดูก่อนนะครับว่า แม่จดทะเบียนสมรสกับพ่อหรือไม่ ถ้าจดทะเบียนรถยนต์นั้น ได้มาก่อนหรือหลังจดทะเบียน ถ้าได้มาหลังจดทะเบียนจะถือว่าเป็นทรัพย์มรดกครับ อาจจะถูกยึดขายทอดตลาดและนำเงินมาชำระหนี้

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เราหามาเสริฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก …