โลกของเรากำลังเข้าสู่ดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบโดยที่ปฎิเสธไม่ได้และไม่คิดที่จะปฏิเสธเสียด้วย เพราะในช่วงโควิดระบาดเช่นนี้โลกออฟไลน์ถูกบีบให้ก้าวออกไปเร็วมากขึ้น ขณะที่โลกออนไลน์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีจะขยับเข้ามาแทนที่เข้ามามีบทบาทกับทุกช่วงเวลาของชีวิตเรามากขึ้น กระทั่งการดูทีวี กิจกรรมที่มีมานานนี้ก็กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบไป
หลายบ้าน(เชื่อว่าเกือบทุกบ้าน)จะต้องมีสมาร์ททีวีกันแล้ว แต่การใช้สมาร์ททีวีกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกสมาร์ทอย่างที่คิด แอปในทีวีก็มีอยู่ไม่มากนักรองรับได้ไม่เยอะ ที่สำคัญซื้อมาไม่นานก็ตกรุ่นแล้ว ดังนั้นเพื่อรองรับให้สมาร์ททีวีตอบโจทย์กับเราได้นานขึ้นจึงต้องมีตัวช่วยโดยหลักตอนนี้จะมีอยู่ 2 ระบบปฏิบัติการด้วยกัน
ทำความรู้จักกับ Android TV Box
กล่อง Android TV เป็นกล่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เข้ามาช่วยให้ทีวีสามารถแปลงร่างเป็นสมาร์ทโฟนดาวน์โหลดแอปต่างๆ มาดูผ่านทีวีจอใหญ่ของเราได้ หรือจะเล่นเกมก็ได้เช่นกัน(เฉพาะบางรุ่น) โดยตัวกล่องจะเป็นเครื่องรับสัญญาณเพื่อส่งไปยังจอทีวีของเรานั่นเอง
ตัวกล่อง Android TV จะมีอยู่หลายแบรนด์หลากราคาให้เลือก แน่นอนว่าสเป็กของแต่ละรุ่นนั้นก็ต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราอีกที
ข้อดี
เราจะมีความคุ้นเคยกับการใช้งานอยู่บ้างแล้วเพราะมันคือการนำสมาร์ทโฟนมาอยู่บนทีวี แอพพลิเคชั่นที่ชื่นชอบก็สามารถโหลดมาใช้ได้ ใครที่ชอบดูซีรีส์เอเชียแนะนำเป็น Android TV จะคุ้มกว่ามากทีเดียว โดยส่วนตัวดอทคิดว่าคนดูหนัง ดูซีรีส์ที่เป็นสมาชิกหลากหลายแอปฯ น่าจะถูกใจกล่อง Android มากกว่า ที่สำคัญเขามีให้เลือกหลากแบรนด์หลายราคาตามใจชอบได้เลย
ข้อเสีย
หากไม่ระวังโหลดแอปไม่ดี มีไวรัสนะครับ ถึงเวลานั้นเราคงต้องเรียกช่างมาซ่อมให้อย่างเดียว
เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่คุ้นเคยกับระบบแอนดรอยด์หรือต้องการเลือกซื้อตามระดับราคาที่สะดวก
ทำความรู้จักกับ Apple TV 4K
กล่อง Apple TV นี้จะเป็นการรวบรวมแอปมาใส่ไว้ในกล่องให้เราสามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมผ่านทีวีได้ทั้งหมดด้วยภาพและเสียงระดับคมชัดสูงสุดเท่าที่ทีวีของคุณจะแสดงผลได้ ทั้งยังเชื่อมต่อกับทุกอุปกรณ์ให้คุณสามารถเปลี่ยนจอได้ทุกเมื่อ อยากดูจอใหญ่บนทีวีที่นาทีเดียวกับจอไอแพดก็ได้เรียกว่าซิงก์กันทั้งหมด
ตามปกติของ Apple แล้วมักไม่ออกสินค้ามาให้เราเลือกมากนักดังนั้นกล่อง Apple TV จะมีเพียงขนาดความจุเท่านั้นที่เราต้องคำนึงถึง
ข้อดี
จุดเด่นหลักที่ยิ่งใหญ่ของ Apple TV 4K เลยก็คือภาพและเสียงที่ไปจนสุดระดับ 4K เสียงได้ถึง dulby atmos แต่ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับว่าทีวีของคุณรองรับได้มากน้อยเท่าไหร่ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งข้อดีคือ Apple ได้นำเอาแอปสตรีมมิ่งของตนเองใส่ลงมาให้ด้วยเราจึงสามารถดู Apple TV+ ได้และยังสามารถซื้อหรือเช่าหนังใหม่ที่อาจจะยังไม่เข้าเว็บสตรีมมิ่งได้จากในแอปด้วย ทำให้การซื้อ Apple TV 4K จะมีทางเลือกในการดูหนังที่มากกว่าหนึ่งช่องทาง
และยังต้องไม่ลืม AirPlay ที่เป็นการถ่ายทอดภาพหรือวิดีโอบนอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ไปยังจอทีวีได้อย่างง่ายดาย อยากจะแบ่งอะไรให้กันดูก็ไม่ต้องมาเพ่งมองจอเล็กในมือจอเดียวอีกต่อไป
ข้อเสีย
ราคาสูง แต่เทียบกับความเพลิดเพลินของภาพและเสียงแล้วหักล้างกันได้อยู่
เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการเช่าหรือซื้อหนังแยกต่างหากใน iTune+ หรืออาจจะชื่นชอบเนื้อหาใน Apple TV+ และผู้ที่เพลิดเพลินกับภาพและเสียงที่คมชัดเสมือนจริงอย่างที่สุด
หากกล่าวตามจริงแล้วความแตกต่างหลักของทั้งสองตัวเลือกนี้จะขึ้นกับระบบปฏิบัติการที่เราสะดวกและคุ้นเคยมากกว่า เพราะหลายคนก็มักจะรู้สึกซับซ้อนยุ่งยากหากต้องเปลี่ยนความคุ้นเคยไปใช้อีกระบบหนึ่ง แต่ทั้งนี้ก็หวังว่าทุกคนจะได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการดูหนัง ฟังเพลงและเล่นเกมบนจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น เพราะเวลานี้เราควรทำเรื่องพักผ่อนให้ยิ่งใหญ่เข้าไว้เพื่อสุขภาพจิตที่ดีนะครับ
