แม้จะเป็นที่เข้าใจกันในปัจจุบัน ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของพัทยานั้นกำลังอยู่ในช่วงขาลงจากสภาพเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่ลดต่ำกว่าสองปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่ได้หยุดยั้งความตั้งใจของ CapitaLand กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ใหญ่แห่งสิงคโปร์ ในการขยายโครงการสู่ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเขตพัทยาและเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ในสัญญาการจัดสร้าง 14 ชิ้น คิดเป็นโปรเจ็กต์เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์กว่า 2,700 แห่ง คิดเป็นสามเท่าของจำนวนที่เคยเกิดขึ้นในรอบปี 2014 และเป็นของพัทยาถึง 4 สัญญา คิดเป็นจำนวนยูนิตอพาร์ทเมนต์กว่า 875 ชุด
“เราเพิ่มการขยายตัวของโครงการ นั่นเพราะเราเล็งเห็นถึงทิศทางการเติบโตที่เข้มแข็งในระยะยาวของภูมิภาคนี้” Lee Chee Koon ผู้บริหารสูงสุดของ Ascott เครือ CapitaLand กล่าวให้ความเห็น
“การเปิดเสรีการค้าอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจของภูมิภาค แต่ยังเป็นสัญญาณถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ด้วยประชากรที่รวมกว่า 600 ล้านคนอีกด้วย”
นอกจากนี้ คุณ Lee ยังมองต่อไปอีกว่า การขยายตัวของเครือ Ascott ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพัทยา จะช่วยส่งเสริมการเป็นแถวหน้าของเครือ ในภาคธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ระดับนานาชาติ รองรับกับการเติบโตที่กำลังจะเกิดขึ้น จากบทบาทของเมืองพัทยาในฐานะ ‘เมืองนานาชาติ’ ที่มีจำนวนบริษัทข้ามชาติ รวมถึงผู้อาศัยต่างชาติเป็นจำนวนที่มากเป็นลำดับต้นๆ ของภูมิภาค
สำหรับโครงการใหม่ของ Ascott ที่จะเกิดขึ้นที่เมืองพัทยานี้ ประกอบไปด้วย Citadines North Pattaya (ดังภาพประกอบ), Citadines Central Pattaya, Citadines Jomtien Beach Pattaya และ Somerset Wong Amat Beach Pattaya ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2561 อีกทั้งยังมีแผนการณ์ที่จะขยายธุรกิจเข้าสู่เขตกรุงเทพ และเมืองศรีราชา ในเวลาที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย