ผมมีอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ให้เช่าอยู่ แต่ด้วยความที่เฟอนิเจอร์ในห้องลูกค้าที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นเฟอนิเจอร์ที่ทำจากไม้ปาติเคิ้ลบอร์ด ข้อดีคือ สวยงาม ราคาไม่แพง มีแบบให้เลือกเยอะ หลายสี หลายราคา แต่ข้อเสียคือ เฟอนิเจอร์แบบนี้จะไม่ทน โดยเฉพาะถ้าโดนน้ำ ถ้าหากลูกค้าลืมวางแก้วกาแฟ หรือ ลืมปิดหน้าต่างแล้วฝนสาด โอกาสที่ไม้จะด่างหรือบวมง่ายมาก ผมก็เลยอยากลองทำ เฟอนิเจอร์ ตกแต่งบ้าน จาก ท่อประปามาลองใช้เอง ใครนึกภาพไม่ออก ลองพิมพิ์คำว่า pipe furniture ใน google ได้คับ หน้าตาประมาณนั้น
ส่วนตัวผมเองก็ชอบแนวนี้อยู่แล้ว อยากลองแต่งห้องเช่าแบบแนวร้านกาแฟ หรือ รีสอรต์ ปูนเปลือย ประมาณนั้น เลยคิดว่าน่าจะลองทำเฟอนิเจอแบบนี้ดู ส่วนห้องจากปกติที่เป็นปูกระเบื้องแล้วทาสี ผมก็บอกผู้รับเหมาว่า ขอห้องหนึ่งทำแบบ ปูนเปลือย แนว loft ประมาณนั้น ไม่ทาสี ไม่ปูกระเบื้อง เอาปูนเปลือย เพื่อให้เฟอนิเจอร์ที่เราทำมามันเข้ากันได้ ความจริงแล้ว คำว่าปูนเปลือยกับปูนขัดมัน ก็แตกต่างกัน แต่ตอนสั่งให้ช่างทำ เราก็ไม่มีความรู้ คิดว่ามันเหมือนกัน
ลองดูนะคับ ว่าสุดท้ายมีอะไร สำเร็จ อะไร ล้มเหลวบ้าง
อันนี้เป็นเตียงนะคับ แต่กว่าจะมาได้แบบนี้ยุ่งยากเหมือนกัน
ดูหน้าตาของห้องหน่อยนะคับ
อันนี้เป็นรูปห้องตอนที่ให้ช่างทำแบบปูนเปลือยนะคับ จะสังเกตุว่าห้องที่เสร็จแล้ว จะเป็นผนังสีเทาอ่อนแบบในรูปข้างบน แต่ห้องนี้เราอยากได้ปูนเปลือยทั้งห้อง รวมพื้นด้วย
อันนี้ตอนใกล้เสร็จ ดูก็โอเคดี เหมือนร้านกาแฟ สีอ่อน นึกในใจว่า เดี่ยวลงเคลือบเงาแล้วคงจะสวย
ภาพตอนเสร็จแล้ว ทำไมมันดูน่าเกียจแบบนี้หว่า
ยิ่งทาเคลือบเงาแล้ว ยิ่งดูสกปรก ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะดูหลอนมาก ผมก็เรียกเพื่อนมาช่วยดู ทุกคนลงความเห็นว่าน่ากลัวมากกว่าน่าอยู่ ระหว่างนี้ก็มีลูกค้ามาดูห้องตัวอย่าง ทุกคนจะเลือกห้องที่เป็นทาสีปกติ พื้นปูกระเบื้องหมด มีอยู่ห้องนี้เดียวที่ขายไม่ได้ สุดท้ายก็ถอดใจ เราอาจผิดเองที่สื่อสารกับช่างไม่เป็น หรือคาดหวังมากไป บอกให้ช่างแก้ เอาสีทาผนังให้เหมือนห้องอื่น ส่วนพื้นที่ทำเป็นปูนเปลือยไปแล้ว จะปูกระเบื้องก็ไม่ได้ เพราะยกระดับพื้นเรียบร้อยแล้ว ประตูก้อติดแล้ว วิธีแก้คือ ปูลามิเนต หรือปูกระเบื้องยางทับ ผมเลือกกปูกระเบื้องยางทับ เดี่ยวมีรูปให้ดูตอนหลังนะคับ
กลับมาที่เฟอนิเจอร์ ระหว่างที่ช่างทำห้อง ผมก็ดูแบบใน google เลือกเอาแบบที่ basic ที่สุด ทำเอาไว้ใช้เองก่อน วางของ ถ้าเข้าท่า ก็จะเริ่มทำในห้องของลูกค้า อันนี้เป็น shelf ตัวแรกที่ลองทำนะคับ
วิธีทำจริงๆ มันไม่ได้ยุ่งยากเลย แค่ดูรูปในหลายๆ มุม ทำความเข้าใจกับมัน ลองวาดแบบในกระดาษ แล้ววัดความยาวหน้างาน ทียุ่งยากคือการหาร้านทำเกลียว กับ ร้านขายไม้ราคาถูก
อันนี้เป็นรูปตอนที่ตัดท่อน้ำมาแล้ว นะคับ จะมีเกลียวด้วย เหลือแค่ทำสีกับ ประกอบร่าง
วิธีทำ
1. เตรียมอุปกรณ์ ท่อเหล็กประปา ตามร้านขายจะมีขนาดเดียว คือ ยาว 6 เมตร ราคาประมาณ 2-3 ร้อยบาทต่อเส้น มีสองแบบคือ แบบหนา (มีพ่นสีน้ำเงินนิดหน่อยที่ท่อ) กับแบบหนาน้อย (จะพ่นสีเหลืองที่ท่อ) ถ้าทำชั้นวาง ผมแนะนำให้ใช้ขนาด ครึ่งนิ้ว จะสีน้ำเงินหรือสีเหลืองก็ไม่มีผลคับ เพราะชั้นวางของไม่ได้รับน้ำหนักมากมาย แค่ 10-20 กิโล หนามาก หรือ หนาน้อยก็ได้คับ ในรูปเป็นแบบหนา (สีน้ำเงิน)
2. พอเราตัดเหล็กตามที่เราต้องการได้ เราต้องทำเกลียวที่ปลายท่อเหล้กทุกท่อน บางร้านจะมีเครื่องทำเกลียวด้วย บางร้านมี บางร้านไม่มี บางร้านคิดแพงเว่อ อันนี้ราคากลางๆ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 บาท ต่อหนึ่งเกลียว ลองต่อรองดูนะคับ ถ้าทำเยอะ ราคาน่าจะถูกกว่านี้ สำหรับผมขั้นตอนนี้ยากสุด เพราะหาร้านยาก ร้านที่เจอจะคิดราคาแพงมาก ชั้นวางของชั้นหนึ่ง ต้องทำเกลียวประมาณ 50 เกลียว ถ้าได้ร้านที่ไม่ฟัน จะทำให้ประหยัดต้นทุนได้มาก
3. ข้อต่อแบบต่างๆ ถ้าเรา copy แบบมาจากในเนต จำเป็นต้องใช้ข้อต่อแบบไหน จดมา ส่วนใหญ่จะมี ข้องอ ,สามทาง ,หน้าจาน แต่ถ้าทำเตียงหรือโต้ะ หน้าตาแปลก ๆ อาจต้องใช้ ข้อต่อที่แปลกขึ้น เช่น สามทางฉาก หรือ สี่ทางฉาก แล้วแต่แบบที่เราวาดขึ้นคับ
4. ไม้สำหรับวาง อันนี้ผมซื้อไม้สำเร็จรูปจากใน ไทยวัสดุ ยาว 120 ซม หน้ากว้าง 12 นิ้ว ใครชอบไม้ขนาดไหน ลองหาดูได้คับ มีหน้า กว้าง 10 นิ้วก็มี ในรูปจะไม่ได้ลงแล็กเกอร์ แค่เอามาขัดกระดาาทราย
5. สีรองพื้น กับ สีพ่น ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแนะนำว่า ถ้าเอาสีพ่นเลย สีจะไม่ติด จะหลุดง่าย ให้ทาสีลองพื้นก่อน แล้วพ่นสีทับ จะพ่นดำด้าน หรือ ดำเงา ก็ได้ ในรูปเป็นพ่นดำด้านนะคับ ผมว่าสวยกว่าดำเงา แล้วแต่คนชอบ
รูปนี้ เพื่อนช่วยประกอบชั้นวางของอันเล็กที่ทำเพิ่ม เอาไว้ในห้องลูกค้า เพราะอันแรกทำเสร็จ หน้าดาดูโอเค ผ่าน เอาไว้วางของในห้องสำนักงาน
รูปตอนประกอบ ดูว่ามันโอเคไหม ประกอบเสร็จแล้ว แกะเอามาล้าง แล้วพ่นสี อีกที
ตอนได้มา ต้องล้างน้ำสบู่ ล้างคราบน้ำมัน เพราะถ้าไม่ล้าง จะพ่นสีไม่ติด ข้อเสียของท่อประปา กัลวาไนซ์ คือขึ้นสนิมที่เกลียวง่าย
รูปตอนที่ทำ ชั้นวางอันแรกเสร็จ เอามาติดตั้งที่ห้องสำนักงาน ไม้ไม่ได้ทาแล็กเกอร์ ท่อทาดำด้านคับ
อันนี้เป็นรูป ชั้นวางของตัวเล็กที่จะเอาไปวางไว้ในห้องลูกค้า ไม้จะทาเคลือบด้วยแล็กเกอร์ อันนี้ตั้งใจทำหลายอัน แต่สุดท้ายทำแค่สองชิ้น เพราะทำไม่ทัน ลูกค้าจะเข้าอยู่ ผมก็ทำงานประจำ จะว่างทำก็แค่วันเสาอาทิต ตอนทำช่วงแรกๆ ก็ยังวางแผนไม่เป็น ตัดเหล้กผิดๆ ถูกๆ เจาะไม้ไม่ตรงบ้าง พอทำไป 2-3 ชิ้น คราวนี้คล่องแล้ว แต่ก็ยังไม่ทัน เพราะลูกค้าจะเข้าอยู่แล้ว
อันนี้เป็นชั้นวางของ ผสม ราวแขวนผ้า ทำออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย จะเห็นว่าผมออกแบบมาให้เป็นรูปตัว L คือ มีชั้นแขวนเสื้อผ้า ผสม ชั้นวางของ แล้วมาหักมุม ด้วย โต็ะ เพราะผังห้องเป็นแบบนั้น เหนือโต้ะจะเป็นหน้าต่างพอดี แต่พอเอาจริง วัดผิด ผนังสั้นกว่าเฟอนิเจอร์ เลยต้องเอาชั้นวางชิ้นนี้ไปไว้อีกห้องหนึ่ง โต้ะเขียนหนังสือเลยไม่ได้วิวหน้าต่าง เพราะอีกห้องไม่มีในรูปจะเป็นห้องร้านค้าที่ไม่มีคนเช่า ผมเอามาเป็นที่เก็บของ ไม่ใช่ห้องที่วางเฟอนิเจอร์นะคับ อ่านแล้วดูรูป เดี่ยวงง
เอาเฟอนิเจอร์ บางส่วนที่ทำเสร็จมาวางในห้องปูนเปลีอย ที่ทาสีทับไปแล้วนะคับ จะสังเกตุว่าพื้นยังเป็นปูนเปลือย
รูปนี้เป็นตอน เอาเฟอนิเจอร์มาวาง ปรากฏว่าวัดผิด เฟอนิเจอร์ยาวเกินไป ผมก็ขี้เกียจเอาท่อไปตัดแล้วทำเกลียวแล้ว เลยย้ายชุดนี้ไปอยู่อีกห้องคับ
สิ่งที่ควรจะเป็น แต่สุดท้ายไม่ได้เป็น เพราะผนังดันมีขอบเสาโผล่มา
เตียงจะเป็นเฟอนิเจอร์ที่ผมว่าทำยากที่สุด เพราะต้องแข็งแรง ดูไม่ก้องแก้ง ที่สำคัญราคาต้องไม่เกินงบ
ผมก็ลองทำแบบไว้หลายแบบนะคับ หลักใหญ่ๆ ของเตียงคือ ควรต้องมีคานกลาง จะมี 3 อันก็ได้ หรือ 2 อันก็ได้ ใน google บางที ไม่มีคานกลาง แต่แบบนั้นผมว่าอันตราย นอนแล้วอาจแอ่น หรือหักได้ ในกรณีที่เป็นเตียง queen size หรือ king size แต่ถ้าเป็น เตียงเดียว เหล้กแข็งพอ อาจไม่ต้องมีคานกลางก็ได้ แต่ไม่แนะนำนะคับ
ที่ต้องทำแบบไว้หลายอัน เพราะบางอัน ทำมาแล้วประเมินราคา แล้วเกินงบ หรือบางอัน หาของไม่ได้ เช่น พวก ข้อต่อ สามทางฉาก หรือ สี่ทางฉาก เตียงแรกที่ทำ ผมสั่งตัดเหล้กไปแล้ว เช็คกับ ร้านวัสดุว่ามีข้อต่อ สามทางฉากสั่งซื้อได้ สุดท้ายร้านบอกไม่มีของ แต่ท่อเหล้กเราตัดไปแล้ว ก็ต้องปรับแบบตาม
วิธีทำจะเหมือนกับการทำชั้นวางนะคับ คือ ร่างแบบ แล้ววัดขนาด ดูว่าต้องใช้ของอะไรบ้าง ถ้าใครสนใจอยากให้เขียนแบบละเอียดเลย เดี่ยวผมลงให้ได้ครับ มีข้อแตกต่างจากทำชั้นวางนิดหน่อย เช่น
1. เหล้กที่ใช้ทำเป็นเหล้กขนาด 1 นิ้ว ผมลองใช้ทั้งเหล็กหนา (สีน้ำเงิน) กับ เหล้กบาง (สีเหลือง) ผลที่ได้ไม่แตกต่างกันคับ ทั้งสองเตียงแข็งแรงเหมือนกัน แต่ใช้เหล้กหนาจะหนักกว่า ราคาแพงกว่าซึ่งผมว่าไม่จำเป็น
2. ไม้ที่ใช้ทำคานเตียง ผมใช้ไม้ยาวขนาด 3 เมตรแล้วตัดครึ่ง จะได้ขนาดเตียง queen size พอดี เตียงแรกผมได้ไม้ที่เป็นไม้อัด หน้า 8 นิ้ว เสี้ยนเยอะ หนัก หน้าตาธรรมดา ราคาไม่แพง แต่สุดท้ายหาเวลาไปเดินบางโพ เดินอยู่หลายร้าน จนเจอร้านที่ได้ไม้จริง หน้า 6 นิ้ว เบา เส้ยนไม่เยอะ หน้าตาสวยสะอาดกว่า ราคาต่างกัน ไม่มาก (ตามรูป,เนื้อไม้ขาว ไม่ต้องลงแลค์เกอร์เพิ่ม แค่เอาขัดกระดาษทราย)
3.ขนาดของเกลียว : แต่ละร้าน หรือแต่ละครั้งที่ทำ เกลียวจะสั้นยาวไม่ค่อยตรงแป้ะ เพราะบางร้านมีช่างหลายคน เราสามารถปรับแต่งหน้างานตอนประกอบได้ อยากได้เตียงหรือ ชั้นวางที่มีตำหนิน้อย ตอนเลือกเหล็กในร้าน ก็เลือกท่อนที่มีรอยน้อยๆ
4.สี : ทำแบบบ้านๆ คือ เอาสีรองพื้นทา แล้วพ่นสีตามใจชอบ แต่ถ้าทำขาย สามารถส่งพ่นสีได้ เหมือนร้านทำเหล้กดัดหน้าต่าง ส่งพ่นสี แต่ราคาจะแพงขึ้นอีกพอสมควร
5. เฟอนิเจอแบบนี้ สามารถถอดเข้าออกได้ แต่ถ้าเก็บไว้นานแล้วประกอบ อาจประกอบยาก เพราะจะมีสนิมเกาะที่เกลียว ถ้าต้องทิ้งไว้นานๆ ควรเอาน้ำมันทาที่เกลียว จะช่วยได้
6. สิ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญ คือ ราคาของค่าทำเกลียว กับไม้ ถ้าหาร้านทำได้ถูก ก็จะช่วยได้มาก ส่วนค่าเหล็ก กับ ข้องอต่างๆ ผมว่าราคาไม่หนีกันเท่าไหร่
รูปเตียงตอนเอาไปประกอบที่ห้องเช่า สังเกตุพื้นเป็นกระเบื้องยางลายไม้ ปูแทนปูนเปลือยที่ล้มเหลว คนประกอบเตียงก็ประกอบไป คนปู(เพื่อน)กระเบื้องก็ปูไป รอทำทีละอย่างไม่ได้ เพราะว่างกันแค่เสาอาทิต
สองรูปถัดมา เป็นวิธียึดคานไม้กับ เตียง ง่ายๆ แต่แข็งแรงดี
มีไม้ที่ซื้อมาเหลือ กะทำเป็นหัวเตียว แต่พอตัดแล้วจะเอาไปติด รู้สึกว่ามันไม่สวย เลยไม่ได้ทำต่อคับ
รูปสุดท้ายคับ ตอนประกอบเสร็จ
หน้าตาอาจธรรมดา ไม่ได้เก็บงานสีที่ท่อแปปนะคับ ความจริงอยากทำไม้หัวเตียงแบบที่เป็นไม้ชิ้นเดียวด้วยคับ แต่ไม่มีเวลาไปหา เลยเอาแบบ basic หน้าตาตามนั้น
รูปตอนขัดเสี้ยนไม้ เป็นไม้อัดที่เอามาทำเตียงแรก เนื้อไม้ไม่สวย เสี้ยนเยอะ ตอนซื้อไม่รู้ว่าเป็นไม้อัด รู้อีกทีตอนช่างกำลังตัดไม้จาก 3 เมตรเป็น 1.5 เมตร แถมตัดไม่เรียบร้อยอีก
เอามาวางเรียง ไม้อัดครับ ถ้าสังเกตุจะเห็นว่ามีเสี้ยน ไม่สวย แต่ราคาถูกครับ
อันนี้ใช้ไม้จริง ราคาต่างกันนิดหน่อย แต่เสี้ยนน้อย สีสวย เบากว่า
เป็นรูปเตียงเปล่าครับ ใครจะลองทำตาม ก็ดูโครงเปล่าได้เลย เน้นแข็งแรง เหล็กไม่แอ่น
เตียงตอนประกอบ ความจริงตอนเขียนแบบ เราจะต้องนึกถึงตอนประกอบไปด้วย ตอนจบของแต่ละอัน จะต้องใช้ ข้อ union เป็นตัวจบงาน
อันนี้ เป็น ชั้นวางอันเล็ก ใครหาซื้อหรือคิดว่าทำแล้วแพงกว่า 2 พัน ก็ติดต่อผมได้ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบ จาก คุณ แกะเทา จาก Pantip.com
