ในโลกของความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในแต่ละประเทศทั่วโลกทำให้เกิดแนวโน้มที่บรรดาเหล่าบรรดาเศรษฐีทั่วโลก ที่จะถือสัญชาติที่ 2 ( Dual Citizenship ) ทั้งเป็นที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยในทุกวันนี้
ข้อดีของการมีพาสปอร์ตมากกว่า 1 เล่มหรือการถือหลายสัญชาตินั้นได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ
*อิสระในการเดินทางไปในหลายๆประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ทุกวันนี้มีหลายสำนักออกมาจัดอันดับวีซ่าของแต่ละประเทศจากขอบเขตการเดินทางไปในแต่ละประเทศของแต่ละทวีป โดยในปี 2017 พาสปอร์ตของประเทศเยอรมันถูกจัดอันดับเป็นพาสปอร์ตอันดับ 1 โดย Passportndex.org
*คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แน่นอนว่าเหตุผลหลักที่ทำให้เหล่าคนมีเงินต้องการมีสัญชาติที่สองหรือย้ายถิ่นฐานไปพักอาศัยในต่างประเทศเนื่องจากต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ทั้งสภาพอากาศ สังคมที่ดี สวัสดิการที่ดี รวมถึงประเทศที่มีอาชญากรรม
*การศึกษาและการรักษาพยาบาลที่ดีกว่า ในหลายๆประเทศมีสวัสดิการสำหรับประชากรผู้ถือสัญชาติในประเทศต่างๆเหล่านั้นในเรื่องของสิทธิ์การรักษาพยาบาลที่คลอบคลุมถึงตลอดชีวิตและมีเทคโนโลยีหรือวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ากว่าทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์เอง หรือการที่ภาครัฐสนับสนุนด้านการศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง
*ความได้เปรียบด้านภาษี ในหลายๆประเทศให้สิทธิ์หรือแรงจูงใจกับชาวต่างชาติในการลงทุนเปิดบริษัทและเสียภาษีในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักของเหล่านักธุรกิจที่ต้องการมีสัญชาติที่สองเพื่อดำเนินธุรกรรมที่ได้เปรียบทางด้านภาษี ในบางกรณีมีคนที่สละสัญชาติเดิมเพราะโดนรัฐบาลและสรรพกรเรียกเก็บภาษีในอัตราที่ค่อนข้างสูง
ในระดับโลกมีธุรกิจที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการขอสัญชาติ โดยกลุ่มลูกค้าหลักๆเป็นคนเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีการค้นพบว่ามีการขอสัญชาติในยุโรป (EU) และในแคนาดามากเป็นอันดับต้นๆ โดยเหตุผลหลักๆคือการส่งบุตรหลานไปเรียน และต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น รวมถึงกลุ่มประเทศใน EU มีดัชนีความเจริญในด้านๆต่างที่เหนือกว่าในหลายๆประเทศในหลายๆทวีปทั่วโลกจึงเป็นที่หมายตาของคนทั่วโลกที่อยากจะอพยพหรือย้ายถิ่นฐานมาพำนักที่ EU
ทั้งนี้แน่นนอนการได้มาซึ่งสัญชาติมีได้หลายวิธี เช่น วิธีการที่นิยมมากที่สุดคือการแต่งงานกับบุคคลสัญชาตินั้นๆเพื่อขอรับสัญชาติ การพำนักอยู่อาศัยหรือศึกษาเป็นระยะเวลาหนึ่งตามแต่ที่รัฐบาลแต่ละประเทศจะกำหน่ก การลงทุนหรือบริจาคเงินโดยตรงให้กับรัฐบาล
ปัจจุบันการมีสัญชาติที่สองนั้นถือว่าเป็น “ทรัพย์สิน” หรือ “หลักประกัน” อย่างหนึ่งของเหล่าบรรดาเศรษฐีที่มีเงินในการโยกย้ายความมั่งคั่งและเป็น “อภิสิทธิ์” ในการเดินทางและใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ
ทั้งนี้แต่ละวิธีมีความยากง่ายอย่างไรรวมถึงเราจะใช้ปัจจัยไหนในการเลือกสัญชาติที่เหมาะสมและดีที่สุดโปรดติดตามต่อในตอนถัดไป
นอกจากนี้ถ้าคุณสนใจที่ลงทุนในการซื้อสัญชาติเพื่อให้ได้สิทธิ์เป็นพลเมืองในประชาคมยุโรป (EU Citizenship) การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไซปรัสก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
*หมายเหตุ พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 มิได้มีบทบัญญัติกำหนดเกี่ยวกับผู้มีสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นในขณะเดียวกันไว้โดยตรง และไม่ได้มีบทบัญญัติกำหนดว่าให้ผู้ที่มีสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นในขณะเดียวกันต้องเสียสัญชาติไทยเพราะข้อเท็จจริงที่บุคคลนั้นมีสัญชาติอื่นอยู่ด้วย ดังนั้น หากบุคคลผู้ถือสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นในขณะเดียวกันมิได้แสดงเจตนาสละสัญชาติไทย หรือกระทำการใดที่อาจเป็นเหตุให้องค์กรของรัฐถอนสัญชาติ และไม่มีสถานการณ์ที่บุคคลอาจเสียสัญชาติ หรือกระทำการใดที่เป็นการยอมรับว่าตนเป็นคนต่างด้าว บุคคลนั้นจึงสามารถถือสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นได้ในขณะเดียวกัน ส่วนบุคคลนั้นจะเสียอีกสัญชาติหนึ่งหรือไม่ประการใดก็ย่อมเป็นไปตามกฎหมายสัญชาติของประเทศนั้น ทั้งนี้ คุณดวงใจฯ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลในทางปฎิบัติได้จากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้รักษาการพระราชบัญญัติสัญชาติฯ