ERA Thailand เครือข่ายการขายอสังหาริมทรัพย์ด้วยระบบแฟรนไชส์จากสหรัฐอเมริกา รายแรกใน
ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 จากการเป็นผู้ริเริ่มและพัฒนาระบบการขายอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบเครือ
ข่าย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรการอบรมผู้บริหารและนักขายอสังหาริมทรัพย์เป็นรายแรกในประเทศไทย
เดินหน้าปรับองค์กรและรูปแบบธุรกิจ พลิกบทบาทจากเดิมที่ใช้การขยายงานด้วยระบบแฟรนไชส์ ก้าวเข้าสู่
กลยุทธการเติบโตอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน (Creative Growth Together Strategy)
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ERA ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้น 3 หน่วยงาน
1) Data & Culture Intelligence Agency มีหน้าที่รวบรวมข้อมูล, วิธีการทำงาน และเทคโนโลยี่ในยุค
ปัจจุบันที่จะส่งผลในการทำงาน มาสร้างแพลทฟอร์มใหม่เพื่อการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงให้แก่เหล่า
สมาชิกด้วยความถูกต้อง, แม่นยำและทันต่อเหตุการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน
2) Creative Consulting Agency มีหน้าที่ในการขยายเครือข่ายและให้บริการสมาชิก รวมถึงการวาง
กลยุทธสร้างความเติบโตของเครือข่าย ERA ทั้งสมาชิกใหม่และที่มีอยู่เดิม ทั้งในรูปแบบบริษัทและ
บุคคลให้สามารถสร้างผลงานการขายได้อย่างต่อเนื่องทั้งโครงการใหม่และทรัพย์มือสองนอกจากนั้นยัง
มีหน้าที่ประเมินผลการทำงานเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
3) Intelligence Training Agency คือหน่วยงานด้านการฝึกอบรมอัจฉริยะมีหน้าที่สร้างโปรแกรมและให้
ความรู้แก่ตัวแทนเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกกรณีและยังสามารถทำการตลาดได้
อย่างกว้างไกลผ่านเครือข่ายของ ERA ที่มีอยู่ทั่วโลกได้
นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานบริหาร ERA Thailand กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ว่า “ธุรกิจการ
ขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาหลักที่มีอยู่ในขณะนี้ก็
คือ วิธีการทำงานที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามสภาพความเป็นจริงของตลาด วิธีคิดที่ไม่ต้องการทำงานร่วมกับใคร
รวมถึงการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างกัน แม้ว่าในสภาพการณ์ปัจจุบันจะไม่เอื้ออำนวยต่อการ
ทำธุรกิจนักแต่ความต้องการที่อยู่อาศัยก็มีอยู่ตลอดเวลาและมีอยู่ทั่วในทุกพื้นที่ในประเทศไทย ทั้งนี้ถ้าเรา สื่อสารและเข้าใจกันก็จะช่วยสร้างความสำเร็จให้กับทุกฝ่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และนักขายอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้ ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสภาพจิตใจของทุกท่านค่อนข้างจดจ่ออยู่กับข่าวสารเรื่องการแพร่ระบาดของ
Covic-19 (ซึ่งเราเชื่อว่ากำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า) ประกอบกับสภาพเศรษกิจที่อาจจะมีความเปราะบางอยู่
บ้างและในบางโอกาสก็เกินกว่าที่เราจะทำงานในรูปแบบเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ สิ่งนี้
คือเหตุผลที่เราต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งภายในองค์กรและวิธีปฏิบัติต่างๆเพื่อให้สมาชิกของเรา
สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้และที่สำคัญที่สุดก็คือการเติบโตของธุรกิจของบริษัทในเครือข่ายแฟ
รนไชส์ของ ERA”
คุณรณิดา พูลเอี่ยม ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ERA Thailand กล่าวว่า “ภายใต้กลยุทธการเติบโตอย่าง
สร้างสรรค์ร่วมกัน (Creative Growth Together Strategy) เราให้ความสำคัญกับบริษัทสมาชิกโดยมุ่ง
ประเด็นไปที่เป้าหมายทางธุรกิจ ในปีนี้ ERA จะขยายเครือข่ายด้วยรูปแบบใหม่ในการดำเนินธุรกิจซึ่ง
ประกอบด้วยทั้งในรูปนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาทั่วไป เราสามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้ที่สนใจ
โดยใช้โปรแกรม *1 จังหวัด 1 บริษัท หรือ *1 Province 1 Agency เพื่อให้สมาชิกใหม่สามารถเริ่มการ
ทำงานได้อย่างเต็มที่และเราก็สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และอีกโปรแกรมที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีก็คือ
โปรแกรมภายใต้ชื่อ “ ERA Young Entrepreneur ” ประเด็นที่เราให้ความสำคัญสูงสุดก็คือจุดเริ่มต้นของ
ธุรกิจซึ่งเราเชื่อว่าการเริ่มต้นในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ได้ประโยชน์สูงสุดเนื่องจากหลายฝ่ายหยุดดำเนินการและ
เราได้นำโปรแกรม “Up & Running in 45 Days” มาใช้เพื่อช่วยสร้างองค์กรของสมาชิกให้มีความพร้อมใน
การดำเนินงานอย่างเร็วที่สุดและเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นกลับมา ก็จะมีความได้เปรียบในทันที
ในส่วนของโปรแกรม “ ERA Young Entrepreneur ” ก็จะได้รับประโยชน์จากโปรแกรมการฝึกอบรม ตัวแทนอัจฉริยะ ซึ่งจะมีทั้งในระบบ on-line & off-line ในระบบนี้จะสอนถึงความเข้าใจในตัวลูกค้าเป็นหลัก
โดยอ้างอิงข้อมูลและสภาพแวดล้อมของตลาดที่เก็บโดยหน่วยงาน Data & Culture Intelligence ของ
ERA และในส่วนนี้คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอาชีพนี้ นอกจากนั้นยังสามารถมีส่วนร่วมในโปรแกรมการ
เรียนการสอนที่ได้รับการสนับสนุนจาก ERA Asiapacific ซึ่งจัดขึ้นทุกเดือนเพื่อสนับสนุนตัวแทนของ ERA
กว่า 20,000คนในภูมิภาคนี้ การตลาดของเราในวันนี้ มิใช่เพียงเอาข้อมูลมานำเสนอกับลูกค้าเท่านั้น แต่
เราผสมผสานความลงตัวระหว่างความต้องการของลูกค้าทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขายรวมถึงผู้ลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่าย.
ใครจะอยากเป็นแค่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ?
ประโยคที่เราพูดคุยและหารือกันอยู่เสมอก็คือ “ทำไมถึงอยากเป็นแค่นายหน้าฯ เพราะนายหน้าคือส่วนล่างสุด
ของห่วงโซ่ธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ขององค์กรในปัจจุบัน ถึงแม้จะเคยมีผู้กล่าวว่านายหน้าคือผู้ที่ยิ่งใหญ่
ที่สุดในวงการอสังหาริมทรัพย์ แต่นั่นคือเมื่อ 30ปีที่แล้ว ในวันที่ไม่มี I-Net ไม่มี Social Media ต่างๆ
แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไป วิธีการทำธุรกิจ วิธีการติดต่อสื่อสารรวมถึงวิธีการส่งต่อข้อมูลก็เปลี่ยนไป วิธีการตลาด
ต่างๆก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ส่วนต่างๆของห่วงโซ่ธุรกิจก็จะถูกแทนที่ด้วยสิ่งเหล่านี้ และก็จะถูกตัดตอนไป
(Disruption) ในที่สุด ERA มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนมาตลอด 30 ปีในการยกระดับการทำงานจากการเป็นเพียง
แค่นายหน้าอสังหาฯด้วยการชี้ช่อง ไปสู่การเป็นที่ปรึกษาการขายและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ วิธีคิดก็
คือการนำวิวัฒนาการที่ทันสมัยรวมถึงการใช้ข้อมูลประกอบกับความคิดสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ ด้วยการ
สื่อสารที่ถูกต้องตรงไปตรงมาจากผู้ขายสู่ผู้ซื้อ การดำเนินการที่สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน การดำเนิน
งานที่มีระบบและเอกสารรองรับอย่างถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ของทีมงานต้องมีอย่างต่อเนื่อง
โปร่งใสไร้ตำหนิทั้งสิ้น เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการและทีมงานของ ERA เราเชื่อว่าคุณค่า
ที่แท้จริงในความหมายของ ERA ก็คือความจริงใจในการทำงาน ความจริงใจในการนำความรู้ความสามารถ
รวมถึงชื่อเสียงของ ERA ที่ดำเนินการอยู่ทั่วโลก ประกอบกับความคิดสร้างสรรค์ในทุกๆแง่มุม จะเป็นสิ่งที่
สร้างความสำเร็จให้แก่องค์กรของ ERA และเหล่าสมาชิกทั้งในรูปแบบบริษัทและบุคคลซึ่งจะส่งผลดีให้แก่ทุก
ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอนาคต” คุณวรเดช กล่าวสรุป