ธปท.ยื้อขอเวลาประเมินผลกระทบ LTV ให้ชัดเจนก่อนว่ายอดสินเชื่อที่ตกมันส่งผลดีร้ายมากแค่ไหน เพื่อดูว่า ยอดที่ตกลงมานั้น เกิดจากอะไร ถ้าเป็นจากส่วนของความต้องการเทียม ซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือต้องการเงินทอนกันแน่
LTV ส่งผลต่อ ธนาคารภาครัฐแบบเต็มๆ
เมื่อเร็วๆนี้ทางด้าน ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ออกมาแสดงความห็นว่า ธนาคารได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมสินเชื่อ ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เป็นอย่างมาก นั้นก็เพราะว่ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าหลังของทาง ธอส.โดนปฏิเสธสินเชื่อเยอะมาก โดยดูจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาหลังมาตรการมีผลบังคับใช้ ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้เพียง 9 พันล้านบาท ลดลงถึง 30 % เพราะจากทุกปีเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท จนเป็นเหตุให้ทาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)จำเป็นต้องเรียกทาง ธนาคารมาให้ข้อมูลเพื่อดูผลกระทบจากมาตรการคุมสินเชื่อ เพื่อที่จะหาแนวทางผ่อนผันไม่บังคับใช้มาตรการคุมสินเชื่อกับธนาคารรัฐ เพราะธนาคารรัฐเน้นปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก
ดับฝัน ธปท.ยันไม่ระงับ มาตรการควบคุมสินเชื่อในเร็วๆนี้
ทางด้านฝั่งธปท.กล่าวยืนยันว่า เร็วเกินไปที่จะมีการผ่อนคลายเกณฑ์มาตรการคุมสินเชื่อ สาเหตุก็เพราะว่าก่อนหน้าที่มาตรการคุมสินเชื่อ จะมีผลบังคับใช้ มีการเร่งโอนไปเยอะ โดยสังเกตุได้จาก ช่วง 3 เดือนก่อนตั้งแต่ มกราคมมีนาคมนั้น มีการโอนที่สูงผิดปกติ ทำให้เหล่าสถาบันการเงินได้อานิสงส์จากมาตรการไปแล้ว ดังนั้นเมื่อเดือนเมษายน ยอดการขอสินเชื่ออาจจะลดลงบ้างเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น ทาง ธปท.จึงขอเวลาดูให้ชัดเจนก่อนจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม และมาวิเคาะห์ว่า มาตราการควบคุมสินเชื่อ ส่งผลให้การขอสินเชื่อที่ลดลงนั้นมาจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงหรือซื้อเพื่อเก็งกำไร กันแน่
“ขณะนี้เร็วเกินไปที่จะบอกว่า จะผ่อนเกณฑ์ ธปท.ขอดูไปสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อดูว่า ยอดที่ตกลงมานั้น เกิดจากอะไร ถ้าเป็นจากส่วนของความต้องการเทียม ซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือต้องการเงินทอน ก็ถือว่ามาตรการธปท.ประสบความสำเร็จ เพราะต้องการให้เกิดเสถียรภาพในระบบ
แต่ถ้าหากตัวที่ตกลงนั้น เป็นความต้องการของคนที่ต้องการบ้านจริงๆ ก็ค่อยมาดูอีกที เพราะยอมรับว่ายังมีที่อยู่ในพื้นที่สีเทาอย่าง คนที่ทำงานชานเมือง ต้องการคอนโดฯ ราคาไม่สูงมากเพื่อพักอาศัยในระหว่างเข้ามาทำงานในเมือง แต่เมื่อเจอมาตรการคุมสินเชื่อ ทำให้ไม่สามารถกู้ได้ ซึ่งอันนี้ยอมรับว่ากระทบจริงๆ แต่ถ้าคนทั่วไป ที่ต้องการมีบ้านหลังแรก มาตรการคุมสินเชื่อ ไม่ครอบคลุมอยู่แล้ว จะยึดที่สัญญาที่ 2 เป็นหลัก”
ทั้งนี้ธปท.ได้ทำหนังสือชี้แจงว่า ธปท.ได้ผ่อนผันให้กับธนาคารรัฐที่ยื่นขอผ่อนการปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรการคุมสินเชื่อ ซึ่งรวมถึงโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เป็นนโยบายภาครัฐ ซึ่งธปท.ผ่อนผันให้จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ เพราะเห็นว่าเป็นโครงการรัฐ ดำเนินการตามมติครม. เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีบ้านและเป็นโครงการตามนโยบายรัฐ(PSA)
อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
การเคหะแห่งชาติ ขนโครงการร่วมบ้านล้านหลัง จ่ายค่าโอนแค่ 0.01% เท่านั้น