LTV (Loan-to-Value) หรือ เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บางท่านที่กำลังเริ่มสนใจในวงการอสังหาริมทรัพย์อาจจะได้ยินกันมาพอหนาหูแล้วในช่วงนี้ เพราะล่าสุดพึ่งประกาศใช้มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 นี้ ดังนั้นวันนี้เราจึงมาดูกันว่า จุดประสงค์ในการประกาศใช้มาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครั้งนี้ทำไปเพื่ออะไร มีประโยชน์ต่อเราอย่างไรบ้าง
LTV คืออะไร?
เพื่อป้องกันการเก็งกำไรและปัญหาฟองสบู่ในช่วงที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวสูง ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จึงได้ประกาศเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันการเก็งกำไรและปัญหาฟองสบู่ในช่วงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวสูง เพราะด้วยความร้อนแรงของวงการอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่มีการขอสินเชื่อเพื่อซื้อมาเก็งกำไรกันจำนวนมาก ส่งผลให้ Artificial Demand หรือ ดีมานด์เทียมเพิ่มจำนวนในตลาดสูงมากขึ้น จนทำให้ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆเกิดความเดือดร้อนขึ้น จึงทำให้เกิดมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อนี้เกิดขึ้นนั่นเอง
เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ 2562
เกณฑ์การกำหนดมาตรการสินเชื่อใหม่ที่ได้บังคับใช้ไปแล้วนั้น หลักๆแล้วจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไป(กรณีผ่อนหลังแรกยังไม่หมด) และผู้ที่กู้ซื้อที่อยู่อาศัยในราคา 10 ขึ้นไป โดยเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ 2562 มีดังนี้
จากรูปข้างบนหลายท่านคงจะสงสัยว่า สินเชื่อ Top-up คืออะไร ? Top-up คือ สินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งหมายถึง สินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ที่มีที่อยู่อาศัย นั้นเป็นหลักประกัน โดยสินเชื่อ Top-up วงเงินกู้ก็นับรวมเป็นหลักประกันเดียวกันด้วย แต่ก็มีบางตัวในที่นี้ได้รับการยกเว้น ไม่นับรวมในการคำนวณ LTV อาทิ
- สินเชื่อเพื่อจ่ายเบี้ยประกันที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย เช่น ประกันชีวิตผู้กู้ (MRTA) และประกันวินาศภัย ซึ่งใช้ป้องกันความเสี่ยงของทั้งผู้กู้ และ สง.
- สินเชื่อที่ให้กับธุรกิจ SMEs เพื่อให้ธุรกิจรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยมีต้นทุนที่เหมาะสม แต่ สง. จะต้องมีกระบวนการพิจารณาสินเชื่อและการบริหารความเสี่ยงเหมือนสินเชื่อที่ใช้ประกอบธุรกิจ
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กู้มาเพื่อสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองที่ปลอดภาระหนี้กับทางธนาคารจะไม่ได้รับผลกระทบกับมาตรการนี้แต่อย่างใด เช่นเดียวกับผู้ที่กำลังจะรีไฟแนนซ์ อันมีสัญญาผ่อนที่อยู่อาศัย 1 หลัง ก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆเช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิง : ธนาคารแห่งประเทศไทย
การเร่ง โอนบ้าน หนีมาตรการคุมเข้มสินเชื่อ อาจมีผลร้ายเพิ่มหนี้เสียทวีคูณ