ผ่อนชำระ - search results

สวัสดีค่า...กลับมาพบกับ Dot Property กันอีกแล้ว คราวนี้เราจะมาแชร์ความรู้เรื่องของเครดิตบูโรกันค่ะ เครดิตบูโร คืออะไร...? แล้วถ้าติดเครดิตบูโร จะมีวิธีจัดการอย่างไร...? เอาล่ะ...มาทำความรู้จักเครดิตบูโร กันเลยดีกว่า... “เครดิตดีไม่มีขาย อยากได้ต้องสร้างเอง” ถาม : เครดิตบูโร คืออะไร... ตอบ : เครดิตบูโร คือองค์กรกลางที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อและบัตรเครดิตซึ่งได้มาจากสถาบันทางการเงินต่างๆ เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลในการตรวจสอบว่า แต่ละคนมีประวัติหนี้เสีย หรือพฤติกรรมทางการเงินเป็นอย่างไรบ้าง ถาม : เราสามารถเช็คข้อมูลเครดิตบูโรของเราได้หรือไม่ ตอบ : สามารถทำได้แน่นอนค่ะ...

อสังหาริมทรัพย์อย่างบ้านหรือประเภทอื่นๆนับเป็นรูปแบบการลงทุนที่เย้ายวนสำหรับมือใหม่ หรือคนที่จะเลือกการลงทุนครั้งแรกเพราะแม้ว่าจะต้องลุงทุนสูงทว่าก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นเดียวกัน แต่ด้วยความเป็นมือใหม่อาจทำให้ได้รับผลตอบแทนน้อยหรืออาจจะเกิดข้อผิดพลาด นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มือใหม่จึงควรเริ่มลงทุนด้วยการใส่ใจสิ่งเหล่านื้ 1.เลือกซื้ออสังหาฯที่ง่ายต่อการจัดการ            ทางเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่คือการเลือกสถานที่ใกล้บ้าน ที่ทำงานหรือที่ตนเองคุ้นเคย เพราะการขายที่ดินหรือขายบ้านนั้นจำเป็นต้องอำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจ การบอกทางอย่างคล่องแคล่วสามารถช่วยได้เป็นอย่างดี 2.ราคาอยู่ในวิสัยที่สามารถซื้อ            ควรคำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระ หรือแม้แต่ภาระที่มี การลงทุนที่ดีไม่ควรก่อให้เกิดความเสี่ยงหรือภาระที่ทำให้ลำบากหรือเกินกำลังมากจนเกินไป 3.เลือกทำเลดี หรือทำเลเกิดใหม่น่าสนใจ            เพราะรับประกันโอกาสในการขายได้ดีกว่าซื้อในทำเลที่ไม่แน่นอน 4.เลือกประเภทที่อยู่อาศัย            อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอาศัยอย่างบ้านและคอนโดนั้นมีโอกาสขายได้สูงกว่า อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ 5.โทรมต้องซ่อมได้            หากอยู่ในรูปแบบที่ทรุดโทรมถึงโครงจนต้องสร้างใหม่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยดีนักเพราะค่าบูรณะอาจสูงจนได้กำไรน้อยกว่าที่เป็นอยู่ 6.สร้างรายได้เพียงพอ            ผลตอบแทนจะต้องเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าผ่อน ค่าใช่จ่ายถือครอง อย่าให้สุดท้ายแล้วจบลงที่ไม่คุ้มค่า 7.สภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง            แม้ว่าสภาพไม่ดีอาจช่วยให้ได้ราคาถูกทว่า สภาพอสังหาฯที่ดีนั้นก็ช่วยลดต้นทุนการซ่อมแซมได้มาก และพร้อมขายได้เร็ว

ปัจจัยที่จะตัดสินว่าเราจะกู้บ้านผ่านหรือไม่นั้น ประกอบด้วย 2 หลักใหญ่ๆด้วยกัน นั่นก็คือ รายได้ และ ราคาบ้าน            สิ่งสำคัญของการจะซื้อบ้านสักหลังนั้น คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการลุ้นระทึกว่าจะสามารถกู้ผ่านหรือไม่ผ่าน ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะใส่ใจเป็นพิเศษในการกู้บ้านนั่นก็คือ เรื่องของรายได้และราคาบ้านนั่นเอง รายได้เท่านี้ กู้ได้เท่าไหร่ คือคำถามที่คนส่วนใหญ่มักจะถาม... แล้วรายได้เท่านี้ จะซื้อบ้านราคาเท่านี้ จะกู้ผ่านมั้ย ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่ผู้คนให้ความสนใจกัน !!            วันนี้เราจึงมีวิธีง่ายๆ คำนวณตามเองได้ มาแชร์ให้ลองนำไปใช้กันค่ะ ซึ่งวิธีนี้ เหมาะกับคนที่อยากลองคำนวณวงเงินกู้แบบคร่าวๆ เพื่อการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะกู้ผ่านหรือไม่ผ่านค่ะ         ...

           พรพิมล ปฐมศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อบุคคลทั่วไป แบงก์ออฟไชน่า เผยถึงการเปิดตัวของผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน เป็นการเจาะลูกค้ารายย่อยของธนาคาร ซึ่งเริ่มให้บริการไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2556 จากเดิมที่ให้บริการแต่ลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งแผนธุรกิจในปี 2558 จะเน้นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 5 ปีที่            ผ่านมาเติบโตอย่างมาก ปีนี้จึงออกโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้ที่มองหาแคมเปญสินเชื่อรีไฟแนนซ์ เพื่อลดดอกเบี้ย หรือต้องการวงเงินเพื่อซ่อมแซม...

อนุมัติ หรือ ไม่อนุมัติ !! เรื่องปวดใจที่สุดของการกู้บ้านก็คือการลุ้นเพื่อผ่านด่านอนุมัติจาก “ธนาคาร” ใช่มั้ยล่ะคะ...? วันนี้ Dot Property ก็เลยนำวิธีการทำให้ ธนาคารอนุมัติ เพื่อการกู้บ้านมาฝากกันค่ะ 1. เคลียร์ตัวเอง ถ้าหากว่าติดหนี้อยู่มากมายก่ายกอง รับรองว่าคุณไม่สามารถผ่านด่าน “อนุมัติ” จากธนาคารอย่างแน่นอนค่ะ ดังนั้น คุณควรเคลียร์หนี้สินทั้งบัตรเครดิตหรือว่ารถยนต์ไปให้หมด !! 2. เลือกธนาคาร เช็คอัตราดอกเบี้ย เรื่องของสถาบันการเงินที่ทำการกู้และอัตราดอกเบี้ยมีผลอย่างมากต่อเงินในกระเป๋าของเราค่ะ ดังนั้นจึงควรเลือกธนาคารที่เชื่อถือได้ และเช็คอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารก่อนการกู้บ้านในแต่ละครั้งค่ะ และสำหรับใครยังไม่รู้จะหาดูอัตราดอกเบี้ยจากที่ไหน เรารวบรวมมาให้แล้วค่ะhttps://www.dotproperty.co.th/url/ee6bd7e 3. ตรวจเช็คบัญชี อย่าประมาทกับตัวเลขในสมุดบัญชีของคุณนะคะ...

เมื่อพูดถึงคำว่า “ดอกเบี้ย” ใครๆก็หันหน้าหนีกันใช่มั้ยล่ะคะ แต่ในเมื่อเราจำเป็นต้นเผชิญหน้ากับมันขึ้นมาเพราะว่าตัดสินใจจะกู้ซื้อบ้านขึ้นมาแล้วล่ะก็...ก็คงต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยกันหน่อยแล้วล่ะค่ะ เริ่มจากการเรียนรู้ศัพท์การกู้เงินกันสักหน่อย...!! MLR (Minimun Loan Rate) : อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี สำหรับการกู้ระยะยาวที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระแน่นอน แต่เป็นอัตราดอกเบี้ยประเภทลอยตัว จึงมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้นด้วย MOR (Minimun Overdraft Rate) : อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี MRR (Minimun Retail Rate) : อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี ในสินเชื่อส่วนบุคคล...

หลังจากได้ทำความเข้าใจของความหมายของการฟลิบในแง่ของผู้ขายที่ต้องการทำกำไรจากอสังหาริมทรัพย์ไม่โดยการซื้อบ้านเก่าเพื่อการทำกำไรโดยเฉพาะเรียกได้ว่าเป็นวิธีการลงทุนของผู้ขายมืออาชีพ การฟลิปแบบรีไฟแนนซ์แล้วปล่อยเซ้งจึงเหมาะกับผู้มีสายตายาวไกลซึ่งมองออกว่าบ้านที่เล็งนั้นมีแนวโน้มว่าจะสร้างกำไรได้อย่างดีในอนาคต กลยุทธ์นี้คือการเลือกซื้อบ้านเก่าที่มีการจัดปรับปรุงเน้นให้ได้ตามต้องการของตลาด เช่น การรีโนเวตบ้านเก่าในแหล่งชุมชนหนาแน่นให้กลายเป็นอาคารพาณิชย์หรือลักษณะของโฮมออฟฟิศที่สามารถทำบริษัทเล็กๆ หรือเปิดกิจการค้าขายได้ จากนั้นผู้ลงทุนก็จะนำไปเข้ารีไฟแนนซ์บ้านซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนได้รับการประเมินราคาใหม่ ซึ่งผู้ลงทุนนั้นจะต้องการได้ผ่อนต่องวดในราคาที่ต่ำ ดอกเบี้ยที่ต่ำหรือคงที่ เรียกได้ว่าเป็นการซื้อบ้านที่ใช้การลงทุนน้อยหรือแทบไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลยก่อนจะนำไปขายในลักษณะLease Option หรือขายในลักษณะการให้เช่าพร้อมสิทธิการซื้อ ซึ่งจะเก็บค่าเช้าที่สูงกว่าปกติ ปล่อยขายได้ง่ายคนซื้อจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายเพราะวิธีนี้จะตอบโจทย์ของการใช้เงินลงทุนที่มีจำกัดได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถเช่าเพื่อเก็บเงินมาซื้อสิทธิการซื้อและผ่อนชำระต่อได้

หลังจากตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าต้องการจะมีบ้าน หรือที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ก็ถึงเวลาที่คุณต้องทำความเข้าใจกับเรื่องของสินเชื่อ เพื่อให้ได้สินเชื่อซื้อบ้านที่ตรงตามความต้องการ ...หลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารเน้นไปที่การพิจารณาคุณสมบัติของผู้กู้เป็นหลัก วงเงิน เริ่มจากดูว่าผู้กู้นั้นกู้เดี่ยวหรือกู้ร่วม ดูความสามารถในการชำระหนี้มีขนาดไหนโดยพิจารณารายได้ โดยปกติวงเงินสูงสุดของสินเชื่อจะอนุมัติอยู่ 40-50 เท่าของรายได้ผู้กู้ทั้งสอง(กู้สองคนได้มากกว่าคนเดียว) อย่างไรก็ตามลักษณะและความมั่นคงของรายได้ก็จะนำมาพิจารณา เช่น งานข้าราชการจะได้โอกาสวงเงินกู้มากกว่า พนักงานบริษัท และจะอนุมัติได้ง่ายกว่า กรณีที่ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท เครดิตของคุณจะเข้มแข็งหากบริษัทที่ทำงานอยู่มีพนักงาน 10 คนขึ้นไปและดำเนินงานมากกว่า 2 ปี ซึ่งอาจจะได้รับอนุมัติเงินกู้สูงถึง 30 เท่าของรายได้ต่อเดือนหรือค่าจ้าง หรือเพิ่มวงเงินอีกไม่เกิน 15 เท่าของโบนัสและค่าคอมมิชชันเฉลี่ยต่อเดือน กรณีผู้ประกอบอาชีพอิสระ...

สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวเพื่อซื้อบ้าน แน่นอนว่าจะต้องเตรียมการสำหรับกู้เงิน และต้องการจะมั่นใจว่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้กำไรหรือคุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วยิ่งไปเจอการการโฆษณาของโครงการว่าสามารถจับมือกับสถาบันการเงินนำมาซึ่งอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ที่แสนจะน่าสนใจจนทำให้ผู้ซื้ออาจตาลุกวาวจนลืมสังเกตสิ่งสำคัญ นั่นคือเงื่อนไขยิบย่อยยาวเหยียดต่อท้าย! เพราะอัตราดอกเบี้ยแสนวิเศษมักจะเป็นอัตราในระยะสั้น อาจจะ6 เดือน หรือ 1 ปี แล้วหลังจากนั้นอาจตามมาด้วยดอกเบี้ยในอัตราที่น่าขนหัวลุก จนเงินผ่อนต่องวดพุ่งสูงจนทำเอาผู้ซื้อนั้นล้มทั้งยืนได้ในระยะยาว ยกตัวอย่างนาย น. ที่ได้สิทธิ์การกู้ซื้อบ้านในอัตรา 0% ระยะเวลา 1 ปีโดยผ่อนชำระเพียง 3,000บาท ต่องวด ซึ่งถือเป็นอัตราที่ถูกมาก แต่พอเลยช่วงโปรโมชั่นดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นเรท MLR ซึ่งอิงกับเรทปัจจุบัน...

รีไฟแนนซ์ คืออะไร...? รีไฟแนนซ์ ก็คือ การกู้เงินจากที่ใหม่ เพื่อไปใช้คืนที่เก่า แล้วทำไมต้อง รีไฟแนนซ์...? ก็เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนชำระรายเดือน และเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในการจดจำนองตลอดอายุสัญญาอีกด้วย พึงตระหนัก : เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ระหว่างสถาบันการเงินเก่าและใหม่ก่อนทำรีไฟแนนซ์เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด ต่อไปนี้จะเป็นข้อแนะนำ 8 ข้อ ที่จะช่วยให้คุณเลือกสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและรีไฟแนนซ์ได้อย่างมืออาชีพ รีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิม การทำรีไฟแนนซ์ไม่จำเป็นต้องทำกับสถาบันทางการเงินอื่นเสมอไป สามารถทำได้กับสถาบันทางการเงินเดิม เนื่องจากสามารถลดความธรรมเนียมในการจำนองเงินกู้ได้ (ส่วนจะลดได้เท่าไหร่ ลองปรึกษากับทางสถาบันการเงินดูจ้ะ) รีไฟแนนซ์กับบริษัทประกันก็ได้ นอกจากสถาบันทางการเงินเดิม สถาบันทางการเงินใหม่แล้ว บริษัทประกันก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเชียวล่ะค่ะ เพราะบ่อยครั้งที่บริษัทประกันมีเงื่อนไขการปล่อยกู้ที่น่าสนใจกว่า (ลองดูนะคะ) สถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถือ จะดีกว่ามากถ้าใช้บริการกับบริษัททางการเงินที่น่าเชื่อถือและมีความมั่นคง...